แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้สั่งการให้สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมจัดทำแผนรองรับมาตรการพยุงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้กระทบภายหลังวันที่ 30 เมษายน 2565 รัฐบาลจะปล่อยราคาดีเซลเกิน 30 บาทต่อลิตร และจะพยุงราคาคนละครึ่งแทนแต่หากราคาน้ำมันดิบยังคงสูงขึ้น การช่วยเหลือคนละครึ่งอาจจะยังไม่เพียงพอ

อย่างไรก็ตาม ในการช่วยเหลือดีเซลคนละครึ่งโดยเอาราคา 30 บาทต่อลิตรเป็นตัวตั้งนั้น จะต้องดูว่าราคาตลาดโลกปัจจุบันอยู่ที่เท่าไหร่ ทั้งนี้ จากข้อมูลราคาน้ำมันที่ขายในประเทศไทยวันที่ 19 เมษายน 2565 จาก สนพ. กระทรวงพลังงาน ราคาจริงที่จะต้องขายอยู่ที่ 41.15 บาทต่อลิตร โดยกองทุนน้ำมันฯ อุดหนุนที่ 11.21 บาทต่อลิตร เพื่อให้ราคาขายหน้าสถานีบริการน้ำมันภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาล ประกอบด้วย สถานีบริการน้ำมันพีทีที สเตชั่น กับ สนานีน้ำมันบางจาก มีราคาอยู่ที่ 29.94 บาทต่อลิตร

ทั้งนี้ ตามนโยบายรัฐบาลโดยมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 จะครบกำหนดการตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตร ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2565 หลังจากนั้นรัฐบาลจะเข้าไปช่วยเหลือส่วนที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นครึ่งนึงในวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 จะส่งผลให้ราคาหน้าสถานีบริการน้ำมันอยู่ที่ประมาณ 35.5 บาทต่อลิตร ซึ่งทางทีมผู้บริหารและคณะทำงานประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง ฯลฯ จึงยังมีความกังวลว่าราคายังสูงเกินไปจากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบที่ยังคงสูงขึ้นในขณะนี้

“ถ้าขึ้นเป็น 35 บาทต่อลิตรทันที ประชาชนจะเกิดการแพนิคหรือไม่ อัตราเงินเฟ้อจะเป็นอย่างไร เพราะค่าขนส่งจะขึ้นทันที ทุกคนเป็นห่วง จึงให้ สกนช. เร่งทำแผนช่วยเหลือมาในหลายรูปแบบ อาทิ การขึ้นราคาทีละสเต็ป โดยปรับราคาเป็น 32 บาทต่อลิตรก่อน และดูสถานะกองทุนฯ ร่วมเพราะขณะนี้เห็นว่าติดลบแล้วกว่า 5 หมื่นล้านบาท กระแสเงินสดเหลือราว 1.4 หมื่นล้านบาท ในขณะที่มีเงินเข้าเดือนละราว 3 พันล้านบาท”

แหล่งข่าว กล่าวว่า วันที่ 20 พฤษภาคม 2565 จะครบกำหนดที่กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลังครบกำหนดลดการภาษีน้ำมันดีเซล 3 บาทต่อลิตรด้วย ดังนั้น หากราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราคาน้ำมันดีเซลที่คาดว่าจะขึ้นในช่วงแรก 32 บาทต่อลิตรนั้นจะทำได้นานแค่ไหน และจะมีการขยายเวลาลดภาษีน้ำมันดีเซลต่ออีกหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องหารืออีกครั้ง ส่วนอีกแผนที่มีการพูดคุยในที่ประชุม คือ การเอาตัวราคาอาเซียน อย่างประเทศเวียดนามมาเป็นตัวตั้ง เพื่อให้ราคามีความใกล้เคียงกัน โดยปัจจุบันเวียดนามราคาขายดีเซลอยู่ที่ 35-36 บาทต่อลิตร เป็นต้น ซึ่งกองทุนน้ำมันจะต้องเร่งทำข้อมูลต่างๆ

“กระทรวงพลังงานได้เร่งหาแนวทางที่จะช่วยเหลืออยู่ เพราะที่ผ่านมากองทุนน้ำมันฯ ได้ให้ข้อมูลตัวเลขอุดหนุนน้ำมันดีเซลในช่วงราคาที่สูงอยู่ถึง 14 บาทต่อลิตร ซึ่งตอนนั้นยังมีกระแสเงินสดเยอะ แต่ตอนนี้ก็ได้พยายามเร่งกู้เงินมาเติมน่าจะได้เข้ามาช่วยเสริมตรงนี้ได้บ้าง แต่การจะอุดหนุนลิตรละกว่า 10 บาทต่อไปนานๆ ก็จะต้องใช้เงินอีกจำนวนมาก การค่อยๆ ปรับขึ้นราคาเป็นระดับและเทียบราคากับประเทศเพื่อนบ้านน่าจะเป็นอีกแนวทางที่ดี จึงหวังว่าประชาชนจะเข้าใจ หากราคาพลังงานโลกยังพุ่งสูงไม่หยุด” แหล่งข่าว กล่าว