เมื่อวันที่ 27 ก.ค. นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานอำนวยการบริหารจัดการแก้ไขสถานการณ์โควิดในระบบขนส่งมวลชน เปิดเผยว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้สั่งการให้เร่งปรับปรุงแก้ไขหลังมีประชาชนมารอเข้ารับบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อเป็นจำนวนมาก โดยให้เพิ่มเก้าอี้นั่งพักคอยบริเวณด้านหน้าอาคารเพิ่มขึ้นอีก หลังจากก่อนหน้านี้จัดไว้แล้วกว่า 1 พันตัว พร้อมกันนี้ให้ติดสติกเกอร์ เพื่อให้ประชาชนเว้นระยะห่างมากขึ้น รวมทั้งจัดตั้งเต็นท์ป้องกันแดดและฝนให้ประชาชนเพิ่มเติม จากปัจจุบันที่มีอยู่ 16 เต็นท์ด้วย

นายสรพงศ์ กล่าวต่อว่า ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ได้เปิดให้บริการฉีดวัคซีนมาตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.64 หากนับถึงวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา ให้บริการมาแล้ว 63 วัน และฉีดวัคซีนให้ประชาชนครบ 1 ล้านเข็มแล้ว โดยรองรับสูงสุดได้ 3 พันคนต่อชั่วโมง ซึ่งที่ผ่านมาประชาชนหลั่งไหลมาจากทั่วหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดสระบุรี ลพบุรี และราชบุรี ส่วนใหญ่จะมารอเข้าคิวกันตั้งแต่ 05.30 น. ในขณะที่ยังไม่เปิดให้บริการ ทำให้ช่วงเช้าประชาชนค่อนข้างหนาแน่น ขอความร่วมมือให้ทยอยมาช่วงบ่ายจะช่วยลดปัญหาความแออัด และจะได้รับความสะดวกสบายมากกว่า

นายสรพงศ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) อาจจะให้ยุติการวอล์กอินนั้น คงต้องอยู่ที่การพิจารณาของ ศบค. แต่ยอมรับว่าประชาชนที่เดินทางมารับบริการฉีดวัคซีนที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ขาดโอกาสในการเข้าถึงวัคซีน จึงอยากให้มีการกระจายวัคซีนไปยังทุกพื้นที่ให้เข้าถึงคนทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง ซึ่งประชาชนที่มาที่นี่ส่วนใหญ่หมดที่พึ่งแล้วจึงมาหาเรา ทุกวันนี้มีการลงทะเบียนผ่านโทรศัพท์มือถือแค่ 5 พันคน ส่วนที่เหลือเป็นการวอล์กอินเข้ามาทั้งหมด ซึ่งที่นี่ให้บริการประมาณ 2 หมื่นคนต่อวัน

นายสรพงศ์ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามกระทรวงคมนาคมได้พยายามดูแลสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงการจราจร และการเดินทางเข้าออกสถานีกลางบางซื่อ เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกที่สุด โดยตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค.64 เป็นต้นไป จะเปิดให้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดง นอกจากนี้จะเพิ่มเส้นทางของรถเมล์ ขสมก. ที่มายังสถานีกลางบางซื่อจากเดิมมี 3 เส้นทาง เป็น 7 เส้นทางด้วย.