เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ที่กระทรวงยุติธรรม น.ส.พรพิมล สวนสำราญ อายุ 31 ปี พร้อมนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ยื่นหนังสือร้องทุกข์กับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กรณีถูกผู้คุมทัณฑสถานหญิงธนบุรี เรียกเงินค่าดูแลนางจิราพร นอขุนทด อายุ 51 ปี มารดา ของ น.ส.พรพิมล ผู้ต้องหาในคดียาเสพติด หลายครั้ง โดยมีนายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม มารับเรื่อง

นายรณณรงค์ กล่าวว่า นำ น.ส.พรพิมล ลูกสาวของผู้ต้องขัง ที่ถูกผู้คุมหญิงเรียกรับผลประโยชน์ จากทางครอบครัวผู้เสียหาย พร้อมหลักฐานเป็นคลิปเสียง สลิปโอนเงิน ค่าดูแลต่างๆ เช่น ค่าส้มตำกินกับเพื่อน, ค่าเค้กวันเกิดลูก, ค่าปลาเผา ฯลฯ ครั้งละ 300-1,000 บาท รวม 9 ครั้ง ทั้งหมดเป็นจำนวน 6,200 บาท โดยพ่อผู้เสียหายได้นำเงินไปให้ผู้คุมหญิงถึงบ้านพักข้างเรือนจำดังกล่าว และที่น่าเป็นห่วง หลอกญาติผู้เสียหายว่าห้ามเยี่ยม ทั้งๆ ที่สามารถติดต่อคุยผ่านวิดีโอคอลได้ตามระเบียบราชทัณฑ์

ด้าน น.ส.พรพิมล กล่าวว่า มารดาของตนมีอาชีพขับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ต่อมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในข้อหาสนับสนุนการกระทำในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เนื่องจากถูกนำบัญชีไปใช้รับเงินโอนเงินในซื้อขายกัญชา และได้ถูกส่งตัวเข้าทัณฑสถานหญิงธนบุรี เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 64 หลังถูกจับบิดาของตนก็ได้เข้าเยี่ยมแม่ผ่านระบบวิดีโอคอล ต่อมามีผู้คุมหญิงในเรือนจำดังกล่าวโทรฯ มาขอเงินจากบิดา ทั้งๆ ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และไม่ทราบว่าได้เบอร์โทรศัพท์ของพ่อมาจากที่ไหน ซึ่งที่ผ่านมาพ่อของตนได้นำเงินสดและโอนเงินให้หลายครั้ง นอกจากนี้ยังมีการโทรฯ มาขอเงินเพื่อซื้อเค้กในวันเกิดของลูกด้วย โดยผู้คุมหญิงคนนี้อ้างว่าจะให้การดูแลแม่เป็นพิเศษไม่ต้องทำงานหนัก ซึ่งหลังจากให้เงินกับผู้คุมหญิงคนนี้แล้ว ทางครอบครัวไม่สามารถติดต่อแม่ได้ แม้แต่การเขียนจดหมาย โดยผู้คุมอ้างว่า เกิดปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในเรือนจำ แต่เมื่อเดินทางไปสอบถามที่หน้าเรือนจำทางเจ้าหน้าที่คนอื่นแจ้งว่าญาติสามารถเขียนจดหมายฝากเยี่ยมได้ตลอด

“โดยครั้งล่าสุดผู้คุมคนนี้โทรฯ มาหาพ่อขอเงิน 10,000 บาท อ้างว่าน้องชายขับรถชนคนแต่ไม่ได้ให้ไป นอกจากนี้ยังมีผู้ชายโทรฯ มาเคลียร์ด้วย จึงรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยและรู้สึกว่าไม่ควรจะนิ่งเฉย จึงมาร้องเรียน อีกทั้งครอบครัวของเรามีฐานะยากจน บิดามีอาชีพขับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ดิฉันมีอาชีพค้าขาย แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่เรียกรับเงินหลายครั้ง ผู้คุมรายนี้ได้เรียกรับผลประโยชน์กับญาติผู้ต้องขังรายอื่นๆ ด้วย แม้จะเคยถูกตรวจสอบหลายครั้งแต่ก็ยังไม่หยุดพฤติกรรมดังกล่าว อย่างไรก็ตาม มีผู้พ้นโทษรายหนึ่ง ได้มาหาที่บ้านตน บอกว่าอย่าให้เงินผู้คุมหญิงคนดังกล่าวอีกและพร้อมเป็นพยาน” น.ส.พรพิมล กล่าว

งามไส้อีก! ผู้คุมสาวแสบ ตุ๋นเงินญาตินักโทษแลกความเป็นอยู่สบายในคุก

ขณะที่นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้วการกระทำดังกล่าวของผู้คุมหญิงเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ เพราะเสมือนเป็นการซ้ำเติมผู้ต้องขังและญาติ จึงสั่งการให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงและอาญา และสั่งให้พักงานทันที หากพบว่ามีความผิดจริงก็ต้องออกจากราชการอย่างเดียว ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวไม่ควรเกิดขึ้น เพราะเป็นการทำลายภาพลักษณ์ขององค์กรและกระทรวงยุติธรรม ซึ่งตนพยายามทำทุกอย่างให้เกิดความเท่าเทียม ให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิของตัวเอง แต่การมีเรื่องแบบนี้ออกมา ก็เหมือนเป็นการลบภาพการทำงานของตนที่ได้ทุ่มเทมาอย่างหนัก

“การมาเรียกรับเงินแบบนี้ สังคมจะตราหน้าได้ว่า มีวีไอพี ในเรือนจำ ที่มีผู้คุมดูแล ซึ่งที่ผ่านมา ผมพยายามลบภาพเหล่านี้มาโดยตลอด ดังนั้นเรื่องนี้ ขอให้กรมราชทัณฑ์ เข้มงวดให้มากขึ้น อย่าให้คนไม่ดีเพียงคนเดียว มาทำให้ผลงานทั้งหมดที่เราทำ ถูกมองข้ามไป สำหรับผู้เสียหายห่วงความปลอดภัยของแม่ในเรือนจำ ก็จะช่วยดูแลเรื่องสุขภาพความเป็นอยู่เป็นอย่างไร หากกังวลใจก็สามารถขอย้ายผู้ต้องหาไปทัณฑสถานหญิงธนบุรี เพื่อความสบายใจ” รมว.ยุติธรรม กล่าว.