จากกรณี หญิงสาวคนหนึ่งได้โพสต์รูปวิน จยย.รับจ้าง พกวัตถุบางอย่างเป็นแท่งไม้ยื่นโผล่ออกมาจากใต้เบาะ ทำให้เวลานั่งซ้อนเกิดความไม่ปลอดภัยเพราะไม้ดังกล่าวจะเข้ามาทิ่มเป้ากางเกง ทำให้เกิดความไม่น่าไว้ใจ ก่อนจะบอกเล่าเรื่องราวให้โลกออนไลน์ได้ระวังตัว ภายหลังตำรวจคุมตัวฝ่ายวิน จยย.มาสอบสวนแล้ว ให้การอ้างว่าเป็นไม้กลองที่พกไว้จะเอาไปตีกับเพื่อน ไม่มีเจตนาทำให้เกิดความเสียหาย พร้อมกราบขอโทษผู้เสียหายแล้ว ขณะที่ตำรวจแจ้งข้อหา กระทำการอันควรขายหน้าต่อธารกำนัล โดยกระทำการลามกฯ และใช้รถไม่ตรงประเภทที่จดทะเบียนไว้ฯ ก่อนเปรียบเทียบปรับข้อหาละ 1,000 บาท ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

วินจยย.ไหว้ขอโทษลูกค้าสาว หลังพกไม้ตีกลองซุกกางเกงทำผวา

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 24 เม.ย. นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลแขวง โพสต์เฟซบุ๊กให้ความเห็นเชิงกฎหมายว่า #อัยการหนุ่ยบอกให้รู้ มีสติ ถ่ายภาพเป็นหลักฐาน จับคนร้ายได้ หญิงผู้เสียหายมีสติ ถ่ายรูป..ไม้ตีกลอง และเสื้อวินมอ’ไซค์ ไว้เป็นหลักฐานได้ ผู้ถูกกล่าวหา ขอโทษ โดนปรับไปสองข้อหา 2,000 บาท เสียดายน่าจะ….โดนพยายามทำอนาจาร…? ข่าวหญิงนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เห็นวัตถุยื่นออกมาจากก้นคนขับ เป็นบทเรียนของผู้เสียหาย ที่ “มีสติ” แม้ตรงนั้นข่าวว่าร้องเรียกให้คนช่วยกันจับแต่ไม่มีใครช่วยจับก็ตาม ภาพที่ถ่ายไว้ก็จะเป็นหลักฐานให้ตำรวจไปตามจับ วันนี้มีข่าวเพิ่มเติมว่าจับได้แล้ว

ข้อคิด ข้อเรียนรู้จากข่าวนี้….บางท่านแม้เป็นผู้ชายถ้าไม่อยู่ในความพร้อมที่จะป้องกันตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นผู้หญิง คนร้ายอาจมีอาวุธ…. ถ่ายภาพ..คนร้ายไว้ให้ได้มากที่สุด ทะเบียนรถ ตัวรถ ทุกอย่างที่ถ่ายได้มือถือนะครับ กดรัว ๆ ถ่ายให้มากที่สุดภาพจะเป็นหลักฐานนำไปส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อใช้กฎหมายไปจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายกันต่อไป รายนี้ ผู้เสียหายถ่ายภาพไม้ตีกลองที่เสียบก้นมอเตอร์ไซค์รับจ้างอยู่ ถือเป็นพยานยืนยันการกระทำความผิดของผู้ต้องหาได้อย่างชัดเจน พาตนเองให้พ้นจากอันตราย แล้วแจ้งความ เจ้าหน้าที่ไปตามจับมาภายหลัง ลดความเสี่ยงกับตนเองได้ด้วยครับ

ตำรวจปรับไปแล้ว ถ้าตำรวจทำสำนวนส่งอัยการ ในข้อหาพยายามกระทำอนาจารซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท นอกจากฟ้องขอให้ลงโทษแล้วคงต้องขอห้ามประกอบอาชีพขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เป็นวิธีการเพื่อความปลอดภัยตามกฎหมายต่อไป

ติดกล้องแอบดู ผู้ต้องหาไม่ได้อยู่ใกล้ชิดผู้เสียหายศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเป็นความผิดฐานกระทำอนาจารมาแล้ว เรื่องนี้ไม้ตีกลองที่ผู้ต้องหาอ้าง อยู่ใกล้ชิดติดเป้ากางเกงของผู้เสียหาย ขณะผู้เสียหายซ้อนท้ายจักรยานยนต์ของผู้ต้องหา ใกล้ชิดกว่าการติดกล้องแอบดูอีก ตามแนวฎีกาที่ 12983/2558

ซึ่งมีแนวคำพิพากษาว่า การที่จำเลยแอบติดตั้งกล้องบันทึกภาพไว้ที่ใต้โต๊ะทำงานของโจทก์ร่วม และบันทึกภาพสรีระร่างกาย ของโจทก์ร่วมตั้งแต่ช่วงลิ้นปี่จนถึงอวัยวะช่วงขามองเห็นกระโปรงที่โจทก์ร่วมสวมใส่ ขาท่อนล่างและขาท่อน บนของโจทก์ร่วม โดยที่กล้องบันทึกภาพมีแสงไฟสำหรับเพิ่มความสว่างเพื่อให้มองเห็นภาพบริเวณใต้กระโปรงของโจทก์ร่วมให้ชัดเจนยิ่งขึ้น การกระทำของจำเลยส่อแสดงให้เห็นถึงความใคร่และกามารมณ์ โดยที่โจทก์ร่วมมิได้รู้เห็นหรือยินยอม อันเป็นการกระทำที่ไม่สมควรในทางเพศต่อโจทก์ร่วม โดยโจทก์ร่วม ตกอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ แม้จำเลยจะมิได้สัมผัสต่อเนื้อตัวร่างกายของโจทก์ร่วมโดยตรง แต่การ ที่จำเลยใช้กล้องบันทึกภาพใต้กระโปรงโจทก์ร่วม ในระยะใกล้ชิด โดยโจทก์ร่วมไม่รู้ตัวย่อมรับฟังได้ว่า จำเลยได้กระทำโดยประสงค์ต่อผลอันไม่สมควรในทางเพศต่อโจทก์ร่วม โดยใช้กำลังประทุษร้ายตาม มาตรา 1 (6) แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งการใช้กำลังประทุษร้ายอันเป็นองค์ประกอบความผิดตาม ป.อ. มาตรา 278 นอกจากหมายความว่า ทำการประทุษร้ายแก่กายแล้ว ยังหมายความว่าทำการประทุษร้ายแก่ จิตใจด้วย ไม่ว่าจะทำด้วย ใช้แรงกายภาพหรือด้วยวิธีอื่นใด และให้หมายความรวมถึงการกระทำใด ๆ ซึ่ง เป็นเหตุให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ การกระทำของจำเลยดังกล่าว ทำให้โจทก์ ร่วมต้องรู้สึกสะเทือนใจอับอายขายหน้า จึงถือว่าเป็นการประทุษร้ายแก่จิตใจของโจทก์ร่วมแล้ว การกระทำ ของจำเลยจึงเป็นการกระทำอนาจารโจทก์ร่วม ครบองค์ประกอบความผิดตาม ป.อ. มาตรา 278

ห้องตรวจคนไข้ที่เกิดเหตุ เป็นส่วนหนึ่งของโรงพยาบาลเนินสง่า อันเป็นสถานที่ราชการซึ่งเป็น สาธารณสถาน แม้ประชาชนที่ไปใช้บริการในห้องตรวจคนไข้ที่เกิดเหตุจะต้องได้รับอนุญาต และผ่านการคัด กรองจากพยาบาลหน้าห้องตรวจก่อน แต่ก็เป็นเพียงระเบียบขั้นตอนและวิธีปฏิบัติในการใช้บริการของโรง พยาบาลเท่านั้น หาทำให้ห้องตรวจคนไข้ดังกล่าวซึ่งเป็นสาธารณสถานที่ประชาชนมีความชอบธรรมจะเข้าไป ได้ ต้องกลับกลายเป็นที่รโหฐานแต่อย่างใดไม่ ห้องตรวจคนไข้ที่เกิดเหตุจึงยังคงเป็นสาธารณสถาน ดังนั้น การกระทำของจำเลยจึงครบองค์ประกอบความผิดฐานกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการรังแก หรือข่มเหงผู้อื่น หรือกระทำให้ผู้อื่นได้รับความอับอาย หรือเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณสถานตาม ป.อ. มาตรา 397