เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศบค.สรุปภาพรวมสถานการณ์โควิดประเทศไทยพบผู้ป่วยรายใหม่ 14,994 ราย, ป่วยสะสม 4,180,868 ราย ,รักษาหายเพิ่ม 23,524 ราย, อยู่ระหว่างรักษาตัว 174,500 ราย ในจำนวนนี้อาการหนัก 1,876 ราย, ใส่เครื่องช่วยหายใจ 903 ราย, เสียชีวิตเพิ่ม 124 ราย, เสียชีวิตสะสม 27,899 ราย โดย กทม.มีผู้เสียชีวิตรายใหม่มากที่สุด 13 ราย ทั้งนี้ผู้เสียชีวิตที่อายุน้อยที่สุด คือ 1 เดือน และผู้เสียชีวิตที่อายุมากที่สุด คือ 100 ปี

ส่วนจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวนมาก 10 อันดับแรก ได้แก่ 1.กรุงเทพฯ 2,967 ราย 2.ชลบุรี 644 ราย 3.ขอนแก่น 598 ราย 4.สมุทรปราการ 561 ราย 5.นนทบุรี 424 ราย 6.ศรีสะเกษ 407 ราย 7.นครศรีธรรมราช 371 ราย 8.ร้อยเอ็ด 360 ราย 9.นครราชสีมา 348 ราย 10.บุรีรัมย์ 339 ราย

ยอดสะสมผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด 132,633,387 โด๊ส แบ่งเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 จำนวน 56,155,863 ราย, ผู้ที่ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 จำนวน 51,009,258 ราย, ผู้ที่ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 ขึ้นไป จำนวน 25,468,266 ราย

ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ถึงสถานการณ์โควิดในต่างประเทศ และในประเทศไทย และแนวโน้มการกลายเป็นโรคประจำถิ่นสรุปว่า สถานการณ์การระบาดในแต่ละประเทศเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนประเทศไทย ติดเชื้อวันละกว่า 2 หมื่นราย เสียชีวิตตัวเลข 3 หลัก ยอดฉีดวัคซีน 132 ล้านโด๊ส จากประชากรกว่า 70 ล้านคน ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น 36.6% ยังห่างไกลจาก 50% จึงจำเป็นต้องเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อให้ตัวเลขเสียชีวิตเหลือ 2 หลัก อย่างไรก็ตาม 3-4 วันที่ผ่านมา เริ่มเห็นตัวเลขผู้ป่วยปอดอักเสบไม่ค่อยขึ้น ซึ่งหากนิ่งแบบนี้เรื่อย ๆ ภายใน 1-2 สัปดาห์ เราจะเห็นตัวเลขเสียชีวิตลดลง

ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่าส่วนประเด็นเรื่องโรคประจำท้องถิ่นนั้น จากข้อมูลการเกิดขึ้นของโอมิครอนเกือบ 5 เดือน โอมิครอนมีลักษณะแพร่กระจายเร็ว และไม่รุนแรง นักวิชาการจำนวนไม่น้อยจึงมองว่า น่าจะถึงเส้นที่โควิดจะเดินทางไปสู่โรคประจำถิ่น แต่ละประเทศจะประกาศไม่พร้อมกัน เพราะมีปัจจัยแต่ละประเทศไม่เหมือนกันทั้งนี้นิยามโรคประจำถิ่น คือ เป็นโรคที่พบได้สม่ำเสมอในกลุ่มคนกลุ่มพื้นที่ หรือช่วงเวลาที่คาดการณ์ได้ อาจมีการระบาดมากบ้าง เป็นครั้งคราว แต่มักไม่เกินระดับที่คาดหมาย เป็นโรคที่มีมาตรการหรือวิธีการควบคุม ยังคงมีการเสียชีวิตได้ ดังนั้นต้องไม่ประมาท อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลกได้ออกมาเตือนว่าตอนนี้โควิดยังไม่ใช่โรคประจำถิ่น อาจเกิดการระบาดอีก จึงอย่าเพิ่งด่วนตัดสิน.