เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่บ้านวงศ์หนองเตย ถนนเทศบาล 5 ต.ห้วยยอด อ.ห้วยยอด จ.ตรัง นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 2 จ.ตรัง ได้เปิดบ้านให้ผู้สื่อข่าวเข้าสัมภาษณ์ กรณีความวุ่นวายในพรรคประชาธิปัตย์ที่มี ส.ส.ลาออกอย่างต่อเนื่อง และเป็นช่วงที่พรรคตกต่ำที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งพรรคมา

นายสาทิตย์ กล่าวว่า ปัญหาภายในพรรคเริ่มจากเรื่องฉาวโฉ่ ของอดีตรองหัวหน้าพรรคกับเรื่องไลน์หลุด ของผู้บริหารพรรคคนหนึ่ง ที่ออกมากล่าวหา ส.ส.และบุคคลภายในพรรค ทุกคนภายในพรรคพยายามเรียกร้อง การกระทำที่รับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของท่านหัวหน้าพรรค เนื่องจากว่าบุคคลที่ก่อเหตุ ล้วนเป็นบุคคลที่ใกล้ชิดของท่านหัวหน้าพรรคทั้งสิ้น ซึ่งท่านเองได้แถลงข่าวไป มีการขอโทษประชาชนก็ถือว่าถูกต้อง แต่เนื่องจากว่าเหตุการณ์มันไม่จบ สังคมเองก็เรียกร้องความรับผิดชอบมากกว่าที่จะออกมาแถลงกล่าวขอโทษ ตนเองได้สะท้อนเหตุการณ์นี้กับประชาชนที่ประชุมใหญ่ของพรรค ท่านหัวหน้าเองก็ยังยืนยันคำตอบเดิม

“ผมมองว่าตอนนี้มันมาถึงบุคคลภายในพรรค มองปัญหานี้ว่าเป็นปัญหาภาวะผู้นำกับเป็นเรื่องการบริหารภายในพรรค ผมอ่านโพสต์ที่อาจารย์กนก วงษ์ตระหง่าน ลาออกแล้ว ซึ่งได้ลาออกจากรองหัวหน้าพรรค ท่านเองคงอึดอัดใจเต็มทีกับภาวะผู้นำที่เกิดขึ้นในขณะนี้ และการบริหารการจัดการภายในพรรค ท่านก็เลยตัดสินใจลาออกหรือเพื่อรักษาเหตุผลและศีลธรรม ซึ่งผมมองว่าเป็นการรับผิดชอบต่อสังคมอย่างหนึ่งของคนในพรรค ก็ไม่แน่ใจว่าจะมีกรรมการบริหารพรรคท่านอื่น จะมีท่าทีอย่างไรต่อไปอีก” นายสาทิตย์ กล่าว

นายสาทิตย์ กล่าวว่า สภาพที่เกิดขึ้นแบบนี้พอเป็นปัญหาการจัดการบริหารภายในพรรค ก็เกิดการตัดสินใจของคนที่มีหน้าที่ อย่างกรรมการบริหารพรรคอีกหลายคนตามมา จริงๆแล้วเพื่อเป็นการแสดงออกให้คนในสังคม ได้รับรู้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องมีคนรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นการแสดงออก เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าผู้นำของพรรคก็ควรจะตัดสินใจมากกว่านี้ แต่ไม่ใช่เป็นเรื่องที่มีคนไปเขียนว่าล้มคุณจุรินทร์ แล้วให้คุณอภิสิทธิ์ขึ้น เพราะประเด็นเรื่องนี้ไม่ได้เริ่มที่ประเด็นไม่เห็นด้วย กับการเป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งประเด็นนั้นมันจบไปแล้ว กับการเลือกหัวหน้าครั้งโน้น อันนี้เกิดจากการบริหารพรรค ของตัวหัวหน้าพรรคเองก็เป็นปัญหาที่ต่อเนื่องมา โดยตลอดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

นายสาทิตย์ กล่าวว่า เมื่อหลายคนในพรรคมองเห็นปฏิกิริยาของคนภายนอก สังคมภายนอกที่เขาคาดหวังจากพรรคว่า จะรักษาจุดยืนทางจริยธรรม ทุกคนก็เรียกร้องในความรับผิดชอบของหัวหน้า ส่วนถ้าท่านลาออกจริงกระบวนการในพรรค ก็ว่ากันต่อซึ่งตนก็ไม่คิดว่าคุณอภิสิทธิ์ จะเข้ามาสู่การเมืองในช่วงเวลาใกล้ ๆ นี้อยู่แล้วจึงไม่เป็นประเด็นอย่างนั้นแน่นอน

นายสาทิตย์ กล่าวว่า ส่วนใครจะมาก็เป็นเรื่องการประชุมใหญ่ในพรรค ส่วนที่มีคนมองว่านี่คือจุดตกต่ำของพรรค นั้นตนมองว่าพรรคตั้งมาเกือบ 60-70 ปี เราก็เจอวิกฤติศรัทธาของประชาชนหลายรอบมาก ซึ่งที่ผ่านมาเป็นความขัดแย้งทางการเมือง ความเห็นทางการเมืองที่ไม่ตรงกัน แต่ภาวะวิกฤตศรัทธาในตอนนี้ คือ เรื่อง จริยธรรมภายในพรรคของบุคคลในระดับรองหัวหน้าพรรค และสังคมเรียกร้องความรับผิดชอบของหัวหน้าพรรค

นายสาทิตย์ กล่าวว่า ถ้าถามว่าถึงจุดตกต่ำหรือไม่ ตนถือว่าเป็นวิกฤตศรัทธาที่หนักหน่วงมาก ถ้าไม่รีบกอบกู้โดยคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชนโดยเร็ว ตนเกรงว่าพรรคจะเสียหาย สมาชิกพรรคทั่วประเทศเราเคยได้คะแนนเป็น 10 กว่าล้านเหลือ 3 ล้านกว่า ในการเลือกตั้งล่าสุดก็เป็นตัวเลขที่น่าตกใจอย่าให้กรณีนี้ทำลายศรัทธาที่เหลือมันศูนย์เสียไปต้องรีบกอบกู้ให้กลับมาโดยเร็ว

นายสาทิตย์ กล่าวว่า หากคุณจุรินทร์และผู้บริหารภายในพรรคชุดปัจจุบัน ยังเป็นแบบนี้  ตนมองว่าพรรคจะถูกวิจารณ์ ลากมาถูไปมีหลายคนนำมาขยายผล แต่บางทีมันก็เกินเหตุไปคนจะมองเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้เอาจริงเอาจังในเรื่องนี้ไม่ได้รับผิดชอบเพียงพอในเรื่องนี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อคะแนนนิยม เพราะฉะนั้นต้องรีบเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างในพรรค โดยเร็วซึ่งสามารถทำให้ประชาชนมองเห็นว่าเราเอาจริงเอาจังและยังรักษาจุดยืนจุดแข็งของพรรคเอาไว้ได้ ในส่วนคำอธิบายของคุณจุรินทร์ที่บอกว่าต้องอยู่รับผิดชอบและแก้ปัญหาไม่ทิ้งปัญหานั้น ตนมองว่า ตนเข้าใจหัวหน้า เพราะท่านอยากแก้ปัญหาแต่การเรียกร้องของสังคม มันมาถึงจุดที่เรียกร้องให้ รับผิดชอบต่อตำแหน่งต่อภาวะผู้นำของท่าน ซึ่งก่อนหน้านี้ท่านอยู่เพื่อจะแก้ปัญหาแต่เมื่ออยู่แล้วแก้ปัญหาไม่ได้  ในความรู้สึกของประชาชนการลาออกหรือการแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้ก็จะทำให้เป็นการยุติปัญหาได้

นายสาทิตย์ กล่าวว่า ในส่วนของการเลือกตั้งสมัยหน้า และการเตรียมความพร้อมเลือกตั้งในปีนี้ตนมองว่ามันเหลือไม่ถึงปี ยังเหลือประมาณ 10-11 เดือน ก็ครบวาระแล้วหลายคนก็ร้อนใจในขณะที่พรรคการเมืองอื่นประชุมใหญ่ เขาสามารถแถลงนโยบายจุดยืน จะแลนด์สไลด์ 100 คน แต่เราต้องมาวุ่นวายกับการแก้ปัญหาภายใน คืออย่างแรกที่สุดไม่อยากให้ผู้บริหารพรรค หรือผู้นำพรรคมองว่าเป็นเกมการเมืองเพราะมันไม่ใช่อยู่แล้ว อยากเห็นพรรคได้รับการยอมรับ จากประชาชนพรรคเติบโตขึ้นเรามีสมาชิกพรรคเป็นร้อย วันนี้เรานับได้เพียง 50 เท่านั้นจากพรรคขนาดใหญ่กลายเป็นพรรคขนาดกลางและค่อนข้างเล็ก ทุกคนจึงเป็นห่วงตรงนี้ 

นายสาทิตย์ กล่าวว่า พอมันเกิดภาวะอย่างนี้ทับถมเข้ามาทุกคน ก็อยากให้แก้ปัญหาโดยเร็วจะได้จบปัญหาและเดินหน้า สร้างศรัทธากอบกู้ศรัทธาพรรค ขณะที่มีหลายคนมองว่าให้นายชวน หลีกภัย เข้ามากอบกู้พรรค ตนเองยังไม่คิดไปถึงขนาดนั้นคนที่เสนอคงมองในมุมว่าท่านเป็นผู้ใหญ่ ที่จะเข้ามาสมานศรัทธาภายในพรรคและนอกพรรค ทั้งนี้ต้องมีกระบวนการภายในพรรคก็ต้องว่ากันอีกครั้งว่า ที่ประชุมใหญ่จะว่าอย่างไร และแน่นอนว่าที่ประชุมใหญ่ต้องฟังคนข้างนอกอยู่แล้ว ส่วนที่สมาชิกพรรคลาออกไปเรื่อย ๆ ตนมองว่านี่คือปัญหาหนึ่งที่สะท้อนเรื่องการบริหารจัดการภายในพรรค