เมื่อวันที่ 26 เม.ย. นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ระบุมีความเป็นไปได้ที่จะมี ส.ส.รัฐบาล 30 เสียง มาร่วมโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม หลังจากได้ฟังข้อมูลอภิปรายจากฝ่ายค้านว่า มีความเป็นไปได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับข้อมูลอภิปรายฝ่ายค้านจะมีความน่าเชื่อถือว่า รัฐบาลได้สร้างความเสียหายแก่บ้านเมืองมากน้อยเพียงใด ถ้ามีข้อมูลชัดเจน ส.ส.ทุกคนต้องพิจารณาในการลงมติ ในส่วนของ ส.ส.กลุ่ม16 ที่มารวมตัวกันเพื่อทำงานเป็นแนวทางเดียวกัน ต้องขอฟังข้อมูลจากฝ่ายค้านก่อน ไม่ใช่จะยกมือให้ พล.อ.ประยุทธ์ ล่วงหน้าอย่างเดียว โดยไม่ฟังข้อมูลใดๆ เลย
“เราอยากฟังข้อมูลจากฝ่ายค้านเช่นกัน กลุ่ม 16 ไม่ใช่บริษัทจำกัด พรรคเล็กไม่ใช่ของตายที่จะสั่งได้ ทุกอย่างต้องยึดผลประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก” นายพิเชษฐ กล่าว
ทางด้าน นายดำรงค์ พิเดช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ให้สัมภาษณ์กรณีเดียวกันว่าตนไม่ได้พูดคุยกับใคร เพราะขณะนี้อยู่ต่างจังหวัด อย่างไรก็ดี ตนเข้าใจว่าเหตุผลที่ถูกจับตา เพราะตนเคยลงมติไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบที่ผ่านมา แต่ตนมีเหตุผลเนื่องจากรอบดังกล่าวนั้นมีความเห็นที่ไม่เห็นด้วยกับ พล.อ.ประยุทธ์ หลายเรื่อง อาทิ การปล่อยให้ประชาชนเดินทางช่วงสงกรานต์ ปี 64 ทำให้สถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดเป็นวงกว้าง รวมถึงการแจกกล้วย แต่การตัดสินใจรอบที่ผ่านมา ไม่สามารถใช้เป็นบรรทัดฐานในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ได้
“ผมต้องดูว่าการอภิปรายจะอภิปรายเรื่องอะไร จริงหรือไม่จริง ไม่ใช่ว่าจะยกให้ใคร ไม่ยกให้ใครในตอนนี้ ต้องรอการเปิดสภาฯ อีกครั้ง และที่สำคัญกาลเวลาเปลี่ยน การอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบใหม่ ยังไม่ทราบว่าจะมีเรื่องอะไร ไม่สามารถใช้บรรทัดฐานการโหวตไม่ไว้วางใจรอบที่แล้วมาเทียบกันได้ ผมยืนยันว่าเรื่องนี้ต้องรอเปิดสภาฯ ตอนนี้ไม่รู้อะไรเป็นอะไร พูดไปเลอะเทอะ” นายดำรงค์ กล่าว