นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ตัวเลขการส่งออกเดือน มี.ค.65 มีมูลค่า 28,859.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 19.5% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 คิดเป็นเงินบาท 922,313 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นมูลค่าการส่งออกสูงที่สุดในรอบ 30 ปี นับตั้งแต่มีการบันทึกสถิติมาเมื่อปี 34 ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 27,400.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 18% คิดเป็นเงินบาท เกินดุลการค้า 1,459.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ ยอดรวมการส่งออก 3 เดือนของปี 65 (ม.ค.-มี.ค.) มีมูลค่า 73,601.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 14.9% การนำเข้ามีมูลค่า 74,545.3 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 18.4% ขาดดุลการค้ามูลค่า 944 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 65,209.6 ล้านบาทสำหรับการส่งออกสินค้าสำคัญ 3 หมวด เพิ่มขึ้นทุกหมวด โดยสินค้าเกษตร เพิ่ม 3.3% สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร เพิ่ม 27.7% และสินค้าอุตสาหกรรม เพิ่ม 20.6%

สำหรับปัจจัย ที่ช่วยสนับหนุนตัวเลขการส่งออกในเดือน มี.ค.65 เพิ่มขึ้น มาจากนโยบายการส่งเสริมซอฟท์พาวเวอร์ ที่เร่งรัดการส่งออกสินค้าใน 4 หมวดสำคัญ ได้แก่ อาหาร ดิจิทัลคอนเทนต์ สุขภาพความงาม และสินค้าอัตลักษณ์ไทย การจัดทำมาตรการเชิงรุกผลักดันการส่งออกผลไม้ การผลักดันการค้าชายแดน อัตราค่าระวางเรือจากไทยไปยุโรป เริ่มลดลง ในขณะที่บางเส้นทางไม่เพิ่มขึ้น และค่าเงินบาทอ่อนค่า มีส่วนช่วยทำให้การส่งออกการแข่งขันในตลาดโลกได้ดีขึ้น”

“แนวโน้มการส่งออก หากสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ไม่ซ้ำเติมไปมากกว่านี้ การส่งออกปีนี้น่าจะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยกระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าขยายตัวไว้ที่ 3-4% มูลค่า 2.8 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือ 9 ล้านล้านบาท ถ้าดูตอนนี้ ทำได้ไตรมาสแรก 2.4 ล้านล้านบาท ถ้าคูณ 4 ก็จะเป็น 9.6 ล้านล้านบาท ตัวเลขเกินเป้า”

นายจุรินทร์กล่าวว่า วันนี้มีข่าวดีสำหรับการส่งออกผลไม้ไทยไปจีน โดยการส่งออกทางบกซี่งปกติจะผ่านด่านหลัก 4 ด่าน คือ ด่านโม่ฮาน ด่านโหย่วอี้กวาน ด่านผิงเสียง และด่านตงซิง แต่ด่านตงซิงปิดมาระยะหนึ่ง ขณะนี้ด่านตงซิงกลับมาเปิดแล้ว จึงเป็นโอกาสสำหรับการส่งออกผลไม้ทางบก ส่วนการส่งออกทางเรือก็เริ่มคลี่คลาย ทำให้ผู้ส่งออกหันมาส่งออกทางเรือมากขึ้น มีการส่งออกทางเรือไปยังท่าเรือต่าง ๆ ทางใต้ของจีนอย่างน้อย 3 ท่าเรือใหญ่ เช่น ท่าเรือชินโจว เป็นต้น ที่ทำได้คล่องตัวขึ้น มีตู้คอนเทเนอร์มากขึ้น