ที่ จ.เพชรบูรณ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวเกษตรกร พื้นที่ ต.ซับน้อย อ.วิเชียรบุรี กำลังได้รับความเดือดร้อน หลังมีกองทัพแมงอีนูน แมลงศัตรูพืช บุกมาแทะกินยอดอ่อน ใบมันสำปะหลัง ทำให้ต้นมันสำปะหลังโกร๋นเหลือแต่ก้านเป็นบริเวณกว้าง สร้างความเสียหายให้กับเกษตรกรและชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก

จึงได้พลิกวิกฤติเป็นโอกาส หันมาจับแมงอีนูนขายสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 150 บาท เนื่องจากแมงอีนูน ถือว่าเป็นอาหารจากธรรมชาติ ที่มีคุณค่าทางโภชนาการเพราะให้โปรตีนสูง นำไปประกอบอาหารเป็นเมนูเด็ดรับประทาน ไม่ว่าจะเป็นแมงอีนูนทอดกรอบ น้ำพริกแมงอีนูน หรือจะใส่แกงก็อร่อย หนึ่งปีมีเพียงครั้งเดียว คือช่วงต้นฤดูฝน

น.ส.รสสุคนธ์ มงคลคำ อายุ 31 ปี ชาวเกษตรกร เปิดเผยว่า ช่วงนี้พบว่าที่ไร่มันสำปะหลัง มีฝูงแมงอีนูนจำนวนมากบุกมากัดกินยอดอ่อน และใบมันสำปะหลัง สร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก หลังจากกินไร่นี้หมดแล้วก็ย้ายไปกินไร่อื่นต่อเรื่อยๆ ซึ่งเป็นแบบนี้ประจำทุกปี ขณะเดียวกันแมงอีนูนก็เป็นเมนูยอดฮิตที่คนนิยมนำไปรับประทานกัน เพราะหนึ่งปีมีแค่ครั้งเดียว จึงทำให้มีความต้องการของตลาดสูง ตนและครอบครัวจึงช่วยกันออกจับแมงอีนูนไปใช้ประโยชน์ ส่วนหนึ่งก็นำไปประกอบเป็นอาหารรับประทาน อีกส่วนก็นำไปขายสร้างรายได้

น.ส.รสสุคนธ์ เผยอีกว่า โดยในแต่ละคืนจะจับแมงอีนูนได้ประมาณ 7-10 กิโลกรัม แต่ต้องนำเอาแมงอีนูน ไปแช่น้ำเปล่าทิ้งไว้ 1 คืน เพื่อให้แมงอีนูนขับถ่ายปล่อยของเสียออกมาก่อน จากนั้นเอาแมงอีนูน มาใส่ขวดพลาสติกที่เจาะรูเตรียมไว้ แล้วนำไปขายในราคาขวดละ 60 บาท ทำให้มีรายได้ 1,000-1,500 บาท ต่อวันเลยทีเดียว