กต.แจงไทยเร่งช่วย22นทท.กลับไทย

เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.  นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่นักท่องเที่ยวชาวไทยบนเรือท่องเที่ยวโพลาริส วัน ร้องเรียนว่าถูกเจ้าหน้าที่เมียนมาควบคุมตัว ระหว่างเรือดังกล่าวแล่นในทะเล จ.ระนอง เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2563  ว่า  กรณีที่ผู้โดยสารและลูกเรือเรือโพลาริส วัน รวม 24 คน ถูกควบคุมตัวโดยทางการเมียนมาและตั้งข้อหาการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายนั้น กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงว่า เรือลำนี้เป็นเรือจดทะเบียนในประเทศไทย โดยมีผู้โดยสารพร้อมลูกเรือ รวม 24 คน ซึ่งประกอบด้วยผู้ควบคุมเรือคนไทย 1 คน ลูกเรือไทย 5 คน ลูกเรือเมียนมา 2 คน ผู้โดยสารคนไทย 15 คน ผู้โดยสารจีน 1 คน ถูกเมียนมาควบคุมตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. 2563 เนื่องจากตรวจพบว่า ลอยลำเข้าเมียนมาโดยไม่ได้รับอนุญาต  จากนั้น ฝ่ายเมียนมาได้นำเรือพร้อมด้วยผู้โดยสารไปยังเมืองเกาะสอง และกักตัวคนบนเรือทั้งหมดที่โรงเรียนมัธยม หมายเลข 1 เมืองเกาะสอง ตามมาตรการสาธารณสุขในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเมียนมาเป็นเวลา 21 วัน  ขณะเดียวกัน ฝ่ายเมียนมาได้สอบสวนข้อเท็จจริงต่าง ๆ เช่น พิกัดการเดินเรือ เอกสารใบอนุญาตที่เกี่ยวข้อง

นายธานี กล่าวอีกว่า  เมื่อสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง และสำนักงานผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวเมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2563 ก็ได้ร่วมกันติดตามการดำเนินการของฝ่ายเมียนมากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นเมียนมา-ไทย (ทีบีซี) เกาะสอง ผู้ว่าราชการเมืองเกาะสอง กองทัพเมียนมา กระทรวงการต่างประเทศเมียนมา อย่างใกล้ชิดมาตลอด โดยได้รายงานความคืบหน้าต่อกระทรวงการต่างประเทศและกลุ่มญาติของผู้โดยสารและลูกเรืออย่างสม่ำเสมอ  ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศเมียนมาได้มีหนังสือลงวันที่ 24 พ.ย. 2563 ตอบหนังสือสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ซึ่งขอให้ปล่อยเรือและผู้โดยสารทั้งหมดว่า ฝ่ายเมียนมาจะดำเนินคดีกับคนบนเรือทั้งหมดในข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย  ต่อมา เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา ญาติของผู้โดยสารชาวไทยได้ให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ว่าเรือลำนี้ประสบปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้องและลอยลำเข้าไปในน่านน้ำเมียนมา จึงถูกลากเรือไปควบคุม และมีการจับกุมในที่สุด

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวอีกว่า  ในการดำเนินการตามข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย หน่วยงานเมียนมาจะส่งเรื่องให้สำนักงานมุขมนตรีภาคตะนาวศรีสั่งการให้อัยการยื่นฟ้องต่อศาลเมืองเกาะสอง  ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ได้ติดต่อประสานงานกับฝ่ายเมียนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขอให้ฝ่ายเมียนมาพิจารณาย้ายสถานที่กักตัวให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น และไม่ต้องถูกควบคุมตัวในห้องขัง นอกจากนี้ ทีบีซีจังหวัดระนองได้รวบรวมของเยี่ยม ได้แก่ ขนม อาหารแห้ง หน้ากากอนามัย เจลล้างมือและเครื่องนอน ตามที่ญาติประสงค์ที่จะให้ลูกเรือและผู้โดยสาร โดยส่งผ่านทีบีซีเมืองเกาะสอง ซึ่งทำได้อย่างรวดเร็ว แม้มีอุปสรรคในการเดินทางช่วงโควิด-19 ซึ่งไม่มีเที่ยวบินภายในประเทศเมียนมา และต้องใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์กว่า 2 วัน จากกรุงย่างกุ้ง ถึงเมืองเกาะสอง  แต่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้งจะดำเนินการอย่างเต็มที่ในการให้ความช่วยเหลือลูกเรือและผู้โดยสารต่อไป และจะติดตามความคืบหน้าในกรณีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด