เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ผศ.ดร.จันทร์จิรา วงษ์ขมทอง ผู้อำนวยการหลักสูตร WHB และกรรมการผู้จัดการ Siam Health Development Co., Ltd. เปิดเผยว่า หลักสูตร Wellness & Healthcare Business Opportunity Program for Executives (WHB) เป็นโครงการความร่วมมือระหว่าง Siam Health ร่วมกับ สถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียนมหาวิทยาลัยมหิดล กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข The Department of Community and Global Health, The University of Tokyo และ Huawei Technologies (Thailand) Co , Ltd. ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดให้อุตสาหกรรมทางการแพทย์ ครบวงจรเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคตของประเทศไทย โดยในวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา มีการมอบวุฒิบัตร หลักสูตรฯ รุ่นที่ 1 ให้แก่ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรชั้นนำต่างๆ ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนที่ผ่านการอบรมจำนวน 102 คน โดย ศ.คลินิกเกียรคิคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล เป็นประธานในพิธี
สำหรับหลักสูตรสนับสนุนให้มีการลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรม ทางการแพทย์สมัยใหม่ อีกทั้งสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้เทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่มาปรับใช้ในธุรกิจบริการที่เกี่ยวกับ Wellness & Healthcare มากขึ้น โดยมีเป้าประสงค์ให้ผู้บริหารและผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและการแพทย์ในประเทศไทย และผู้ที่สนใจธุรกิจด้านนี้ตระหนักรู้ ถึงนวัตกรรมความก้าวหน้าและโอกาสในการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Wellness & Healthcare ตลอดจนการได้สร้างเครือข่ายธุรกิจใหม่และสร้างนวัตกรรมรวมกับธุรกิจใหม่ด้านเวลเนส สุขภาพและการแพทย์กับหุ้นส่วนธุรกิจใหม่
โดยมีเนื้อหาวิซาการหลักของหลักสูตรมี 5 ชุดความรู้ ได้แก่. 1.Thailand: World Class Destination for Wellness & Healthcare 2. Health is the New Wealth 3. Digital Transformation and the Future of Wellness & Healthcare 4. Silver is the New Black และ 5.Medical Industry in Post-Covid-19 New Normal Practice
ผศ.ดร.จันทร์จิรา กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้เข้ารับการอบรมล้วนเป็นผู้บริหารระดับสูงจากหลากหลายแวดวง ทั้งผู้บริหารระดับสูงจากภาครัฐ อาทิ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารระดับสูงจากมหาวิทยาลัยรัฐและเอกชน รวมถึงประธานบริษัท เจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการบริษัท (มหาชน) ชั้นนำของประเทศ ได้เข้าแลกเปลี่ยนความรู้ เพื่อพัฒนางานธุรกิจบริการ Wellness ให้ประชาชนกลุ่มผู้สูงวัย หรือบุตรหลานของผู้สูงวัยสามารถเข้าถึงบริการเหล่านี้ในอนาคตได้ และเกิดความมั่นใจในกสรเข้าใช้บริการทั้งในส่วนของภาครัฐและภาคเอกชนว่าจะดูแลได้ตามมาตรฐานที่รัฐกำหนดอย่างมีคุณภาพ เช่น สถานดูแลผู้สูงอายุทั้งแบบระยะสั้น ระยะยาว ผู้ป่วยติดเตียง เป็นต้นรวมถึงต่อยอดการบริการ Wellness ให้มีความทันสมัยกับยุคดิจิทัลในปัจจุบัน
เนื่องจากเมืองไทยเข้าสังคมผู้สูงอายุแล้วและจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 20% ในระยะเวลาอันใกล้นี้ แต่สถานบริการที่ดูแลผู้สูงวัยที่เป็นของภาครัฐเองก็ยังไม่เพียงพอ ส่วนภาคเอกชนที่ดำเนินการบางแห่งก็ไม่ได้มาตรฐานอย่างที่เคยเป็นข่าว ดังนั้นหลักสูตรนี้จึงมุ่งหวังให้เกิดธุรกิจบริการ Wellness ดูแลผู้สูงวัยได้อย่างคุ้มค่าในราคาที่เป็นธรรม
“ระยะเวลาที่เข้าอบรมหลักสูตร WHB นั้นผู้เข้ารับการอบรมทั้ง 102 คน ได้จัดให้มีการเสวนากลุ่มย่อย เพื่อเสริมความสัมพันธ์และสร้างเครือข่ายทางธุรกิจก่อให้เกิดแนวคิดการสร้างนวัตกรรมทางการบริการสุขภาพเทคโนโลยีใหม่ๆทางการแพทย์อันจะนำไปเสริมสร้างการขับเคลื่อนนโยบายในการเป็นศูนย์กลาง Wellness และ Medical Hub ของโลกต่อไป” ผศ.ดร.จันทร์จิรา กล่าว
