ศึกยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่สนามเวมบลีย์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทีมชาติอังกฤษ ลงสนามดวลเกือก เยอรมนี คู่อริตลอดกาล ครึ่งแรกทั้ง 2 ทีมสู้กันได้อย่างสูสี โดยเป็นเจ้าบ้านที่มีโอกาสลุ้นประตูมากกว่าเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่สามารถส่งบอลผ่านมือ มานูเอล นอยเออร์ นายทวารอินทรีเหล็ก ได้สกอร์จึงยังเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลังยังเป็น “สิงโตคำราม” ที่สร้างสรรค์เกมรุกได้เหนือกว่า และมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ลุค ชอว์ เปิดบอลให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ชาร์จเข้าไปตุงตาข่ายในนาทีที่ 75 จากนั้นนาทีที่ 81 เยอรมนี พลาดโอกาสตีเสมอไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อ โธมัส มุลเลอร์ ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ จอร์แดน พิคฟอร์ด แต่กลับยิงหลุดเสาออกไปดื้อ ๆ กระทั่งนาทีที่ 86 อังกฤษ จึงหนีไปเป็น 2-0 จากการโหม่งของ แฮร์รี เคน ซึ่งยังนับเป็นประตูแรกของเจ้าตัวในทัวร์นาเมนต์นี้อีกด้วย

ช่วงเวลาที่เหลือ ทีมเมืองเบียร์ โหมหนัก แต่สุดท้ายก็ทวงประตูคืนไม่ได้จบเกม อังกฤษ ชนะ เยอรมนี 2-0 ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศไปรอพบกับผู้ชนะหว่าง สวีเดน และยูเครน ที่สนามสตาดิโอ โอลิมปิโก กรุงโรม ประเทศอิตาลี วันเสาร์ที่ 3 ก.ค.นี้

ภาพทวิตเตอร์ @EURO2020