จากกรณีสมาชิกติ๊กต็อก @louistik14 โพสต์คลิปเหตุการณ์หญิงสาวถูกสาดด้วยน้ำกรด เข้าบริเวณใบหน้าจนต้องวิ่งเข้ามาขอความช่วยเหลือ ในร้านเสริมสวยแห่งหนึ่งย่านดอนเมือง พร้อมระบุข้อความว่า “ช่างร้านเสริมผมเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิด น้องโดนน้ำกรดสาดหน้ากัน สงสารมาก” จนมีผู้เข้ามาสอบถามถึงอาการด้วยความเป็นห่วงกันจำนวนมากนั้น…
โดยเมื่อวันที่ 12 ก.ย. พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 สั่งการให้ พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.ดอนเมือง พร้อมด้วย พ.ต.ท.มหพล มีเสน รอง ผกก.สส.สน.ดอนเมือง พ.ต.ต.วุฒิชัย บุญูยู้ พ.ต.ต.ภาคิน ดอกไม้ สว.สส.สน.ดอนเมือง พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง เร่งติดตามตัว นายสมประสงค์ นาดอน อายุ 31 ปี ผู้ก่อเหตุ กระทั่งเวลา 10.00 น. สามารถติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้หลังเข้ามอบตัวที่ สภ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวน
หนุ่มสาดน้ำกรดอดีตแฟนสาวมอบตัว รับหึงหวงเหตุทนไม่ได้มีคนใหม่…
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 13 ก.ย. ที่ สน.ดอนเมือง ฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง ได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปสอบปากคำในห้องฝ่ายปฏิบัติการสืบสวน โดยได้ยกมือไหว้ขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไป พร้อมเปิดเผยว่า ตนเลิกรากับแฟนสาวและกลับมาคืนดีกันหลายครั้ง โดยมีลูกด้วยกัน 3 คน และรับเลี้ยงดูลูกที่เกิดจากสามีคนแรกอีก 1 คน ก่อนที่ครั้งล่าสุดจะเลิกรากันไปโดยตนเองพยายามง้องอน แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ จึงตัดสินใจก่อเหตุลงไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ เพียงหวังว่าหากถูกน้ำกรดใส่จนเสียโฉมแล้วจะไม่สามารถมีสามีใหม่ได้อีก โดยน้ำกรดที่ใช้ก่อเหตุได้สั่งซื้อมาจากแพลตฟอร์มออนไลน์เจ้าหนึ่ง ทั้งนี้หลังก่อเหตุตนรู้สึกผิด แต่อยากให้ฝ่ายหญิงให้อภัยกลับมาคืนดี และมีชีวิตครอบครัวด้วยกันเหมือนเดิม
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายผู้อื่นให้ได้รับอันตรายสาหัส ส่วนจะถึงขั้นเข้าข่ายเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นหรือไม่ ยังต้องรอดูผลการสอบปากคำผู้บาดเจ็บและผู้ก่อเหตุก่อน เพื่อดูถึงเจตนาในการลงมืออีกครั้ง
สำหรับเหตุการณ์เกิดขึ้นบริเวณใกล้หน้าร้านเสริมสวยแห่งหนึ่งย่านดอนเมือง เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา นายสมประสงค์ ได้ไปดักรอเพื่อก่อเหตุกับอดีตภรรยา ขณะเดินออกมามาจากร้าน สาเหตุมาจากนายสมประสงค์ พยายามตามง้อขอคืนดี แต่ไม่สำเร็จ จึงไปดักก่อเหตุดังกล่าว
ส่วนอาการบาดเจ็บของ น.ส.ธัญธนร์ ล่าสุดยังคงรักษาตัวอยู่ในห้องปลอดเชื้อ เนื่องจากแพทย์จะทำการลอกผิวหนังที่ได้รับความเสียหายจากน้ำกรด เพื่อรักษาชั้นผิวหนัง ซึ่ง ณ ขณะนี้ยังไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าเยี่ยมง
