เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทนายความได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา ขอปล่อยชั่วคราว น.ส.สาวิกา ไชยเดช จำเลยที่ 7 ในคดีหมายเลขดำ 863/2564 ในชั้นพิจารณาคดี โดยทนายความยื่นคำร้องเสนอหลักทรัพย์แคชเชียร์เช็ค 5 ล้านบาท ให้ศาลพิจารณา
โดยศาลอาญา พิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 7 ตีราคาประกัน 5 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไข ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร หากเปลี่ยนถิ่นที่อยู่ให้แจ้งต่อศาลภายใน 7 วัน และให้รายงานตัวต่อศาลทุกเดือน จนกว่าจะมีเหตุเปลี่ยนแปลง และให้แจ้ง ตม.ทราบด้วย
สำหรับ น.ส.สาวิกาไชยเดช หรือ พิงกี้ เป็นหนึ่งในจำเลย 24 คน ในคดีกรณีฉ้อโกงประชาชนคดีแชร์ Forex 3D มูลค่าความเสียหายหลายพันล้านบาท ก่อนหน้านี้ถูกนำตัวฝากขังพร้อมนางสรินยา ไชยเดช มารดา และนายกิตติเชษฐ์ หรือสรายุทธ ไชยเดช พี่ชาย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังศาลอาญายกคำร้องปล่อยตัวชั่วคราวจนถูกคุมตัวไปคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ในฐานความผิด 3 ข้อหา ได้แก่
ฐานความผิดโดยทุจริตหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฉ้อโกง
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา ทนายความเคยได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักประกันเงินสดจำนวน 3 ล้านบาท ของปล่อยตัวพิงกี้มาแล้ว แต่ศาลยกคำร้อง ด้วยพิเคราะห์แล้วเห็นว่าศาลเคยมีคำสั่งไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราวมาแล้ว โดยระบุเหตุผลไว้ชัดแจ้ง ยังไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่ง
ต่อมาเมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมาจำเลยในคดีทั้ง 24 คน ถูกเบิกตัวจากเรือนจำและทัณฑสถานตามนัดตรวจหลักฐานคดี โดยทนายความพิงกี้ออกมาระบุ ว่าพิงกี้และมารดา แถลงร่วมกันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการ ไม่เคยมีการชักชวนหรือแนะนำใครมาร่วมลงทุน ยืนยันว่าเป็นเพียงนักลงทุนที่ได้รับเงินเป็นผลตอบแทนจากการลงทุนเท่านั้น ไม่เคยได้รับประโยชน์ผิดแปลกแตกต่างจากปกติหรือได้รับผลตอบแทนจากคำแนะนำในการเชิญชวนผู้อื่น โดยคดีดังกล่าวศาลมีนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกวันที่ 10 ส.ค.66
อย่างไรก็ตาม ภายหลังถูกคุมขังระหว่างการดำเนินคดีนานกว่า 3 เดือน ล่าสุดวันนี้ (30 พ.ย.)พิงกี้ได้ประกันตัว หลังทนายความยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ด้วยหลักทรัพย์แคชเชียร์เช็ค จำนวน5 ล้านบาท และศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวตีราคาประกัน 5 ล้านบาท พร้อมเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร หากเปลี่ยนถิ่นที่อยู่ให้แจ้งต่อศาลภายใน 7 วัน และให้รายงานตัวต่อศาลทุกเดือน จนกว่าจะมีเหตุเปลี่ยนแปลง รวมถึงให้แจ้ง ตม.ทราบด้วย
