เมื่อวันที่ 3 มี.ค. นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ตนได้ลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาจากโครงการโคบาลบูรพาที่มีการอุดหนุนโคแม่พันธุ์ให้เกษตรกร 6,000 ราย รายละ 5 ตัว รวมถึงอุดหนุนแพะให้เกษตรกร 100 ราย รายละ 30 ตัว เกษตรกรประสบปัญหามากมาย อาทิ ปัญหาแม่พันธุ์ที่เกษตรกรได้รับมีคุณภาพต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานหรือมีปัญหาสุขภาพ อาหารสัตว์มีราคาแพง โรคระบาด กลไกการตลาดที่ทำให้เกษตรกรขายผลผลิตได้ราคาไม่คุ้มการลงทุน รวมถึงการดำเนินคดีอาญากับเกษตรกรกว่า 50 ราย ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ให้ความช่วยเหลือมาตลอด จนกระทั่งคดีอาญาสิ้นสุดที่มีการถอนคำร้องทุกข์ กล่าวโทษและมีผลไปถึงทั้ง 6,000 ราย แต่ยังมีปัญหาที่สำคัญคือการแบกภาระหนี้สินที่เกิดขึ้นแต่ละรายเป็นจำนวนมาก

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า โครงการนี้เกิดขึ้นจากนโยบายทางการเมือง เพราะฉะนั้น ฝ่ายการเมืองในปัจจุบันจะต้องเร่งมีนโยบายแก้ปัญหาให้เกษตรกร อีกทั้งจำเป็นต้องให้องค์กรที่มีความเป็นกลางและน่าเชื่อถือ ดำเนินการศึกษาผลกระทบของโครงการโคบาลบูรพา เพื่อให้เห็นสภาพที่แท้จริงที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาได้ตรงจุด และรัฐบาลต้องดูแลช่วยเหลือเรื่องหนี้สินจากเงินกู้และดอกเบี้ยที่สมาชิกของโครงการนี้ต้องรับสภาพขณะนี้ เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้มีเงินไปชำระหนี้ได้ต่อไป สำหรับพรรคประชาธิปัตย์จะเร่งผลักดันให้รัฐบาลดำเนินการแก้ปัญหาให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ รวมถึงจะเปิดเวทีเสวนาร่วมกับผู้ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อส่งปัญหานี้ให้สภาผู้แทนราษฎรร่วมผลักดันในการแก้ปัญหา
นายราเมศ กล่าวว่า ส่วนการมาช่วยเหลือประชาชนเป็นไปตามนโยบายของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่มุ่งมั่นให้พรรคฯได้ร่วมช่วยเหลือประชาชน และจากการไม่ถูกดำเนินคดีอาญาทั้ง 6,000 ราย ประชาชนขอบคุณนายเฉลิมชัยที่ใส่ใจช่วยเหลือแก้ไขปัญหานี้ตลอดมา ทั้งการส่งทีมกฎหมายและฝ่ายการเมืองเข้ามาร่วมแก้ไขจนสำเร็จลุล่วง ส่วนเรื่องหนี้สินของเกษตรกรนั้น พรรคฯจะผลักดันแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ต่อไป