สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเม็กซิโกซิตี ประเทศเม็กซิโก เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ว่า ประธานาธิบดีคลอเดีย ไชน์บาว์ม ผู้นำเม็กซิโก กล่าวถึงการสนทนาทางโทรศัพท์กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ว่าเป็น “การสนทนาที่จริงใจ” โดยอีกฝ่ายหยิบยกประเด็นความมั่นคงตามแนวชายแดนขึ้นมาพูดถึง “ตามความคาดหมาย” ซึ่งไชน์บาว์มกล่าวว่า “ยังคงมีพื้นที่ให้หารือกัน”
ขณะที่นายฮวน รามอน เดอ ลา ฟูเอนเต รมว.การต่างประเทศเม็กซิโก กล่าวว่า หน่วยงานทุกแห่งที่เกี่ยวข้องของเม็กซิโก จะยังคงดำเนินนโยบายความมั่นคงตามแนวชายแดนทางเหนือที่ติดกับภาคใต้ของสหรัฐ “ตามแบบเดิม” เนื่องจากเป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้อพยพผิดกฎหมายซึ่งพยายามข้ามพรมแดนไปยังสหรัฐ ลดลงอย่างน้อย 76% นับตั้งแต่เดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ ผู้นำเม็กซิโก และ รมว.การต่างประเทศเม็กซิโก ยังไม่ได้กล่าวถึงทิศทางการค้ากับสหรัฐ หลังทรัมป์กล่าวมาตั้งแต่ช่วงหาเสียง ว่าเม็กซิโกอาจเผชิญกับกำแพงภาษีไม่ต่ำกว่า 25% หากไม่ช่วยเหลือสหรัฐ ในการยับยั้งผู้อพยพและยาเสพติดข้ามพรมแดน
อนึ่ง สหรัฐเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเม็กซิโก โดยรับซื้อสินค้าที่เม็กซิโกส่งออกในแต่ละปีมากกว่า 80%.
เครดิตภาพ : AFP
