เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจาก นายชีวัน ฉิมพลี อายุ 50 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ประกอบอาชีพขับรถรับจ้างในเมืองพัทยา นำหลักฐานกล้องวงจรปิด และใบแจ้งความ สภ.เมืองพัทยา หลังถูกชาวต่างชาติทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งคนร้ายที่ก่อเหตุยังลอยนวล จึงขอให้สื่อช่วยเป็นกระบอกเสียง คืนความยุติธรรมนำคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายชีวัน เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะขับรถไปส่งลูกค้าชาวต่างชาติเข้าไปใช้บริการ ภายในร้านให้บริการกัญชา ย่านซอยเกษตรสิน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ในเวลานั้น พนักงานสาวที่ดูแลภายในร้าน ได้เดินไปเปิดประตูให้กับลูกค้าชายชาวต่างชาติ ผู้ก่อเหตุ อายุประมาณ 50 ปี ลักษณะเป็นชาวยุโรป ที่กำลังพยายามดึงประตูเปิดเข้ามาแต่เปิดไม่ได้เนื่องจากประตูกระจกหน้าร้านเป็นแบบเลื่อน จนผู้ก่อเหตุจึงมีทีท่าไม่พอใจ

นายชีวัน เล่าอีกว่า เวลานั้นพนักงานสาวเริ่มเกิดความหวาดกลัว ตนจึงได้เดินมาเปิดประตูให้กับผู้ก่อเหตุรายนี้เอง แต่เมื่อผู้ก่อเหตุเดินเข้ามาได้ กลับไม่พูดพร่ำทำเพลง เปิดฉากใช้หัวโขกเข้าที่ใบหน้า พร้อมใช้สองมือผลักตนล้มลงไปที่โซฟา จากนั้นนำสายเข็มขัดหนังหัวเป็นเหล็ก ถือเข้ามาในร้านกระหน่ำฟาดเข้าใส่ที่ใบหน้าตนอย่างไม่ยั้งพร้อมสาวหมัดชกเข้าที่หัว ตนพยายามวิ่งหนีเอาชีวิตรอดอย่างหัวซุกหัวซุน เข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่บริเวณหลังร้าน ก่อนคนร้ายจะหลบหนีออกจากร้านไป ซึ่งกล้องวงจรปิดในร้านสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ได้ทั้งหมด

หลังเกิดเหตุได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.ท.กิตติพงษ์ แถลงกัน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา เพื่อดำเนินคดีกับต่างชาติรายนี้อย่างถึงที่สุด โดยสืบทราบว่า ผู้ก่อเหตุอาศัยอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่ง ใกล้กับจุดเกิดเหตุ เบื้องต้นจากการตรวจบาดแผลพบว่า เยื่อบุเส้นเลือดฝอยในดวงตาขวาแตก โพรงจมูกเป็นแผล ปากแตกไม่ถึงกับเย็บ บาดแผลถลอกฟกช้ำบนใบหน้า และศีรษะปูดบวม และจนบัดนี้เวลาล่วงเลยมาถึง 2 วันแล้ว รู้ที่อยู่เบาะแสผู้ก่อเหตุ แต่ผู้ก่อเหตุก็ยังไม่ถูกจับกุม จึงมาร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อ เพราะถือเป็นการกระทำที่อุกอาจ ที่สำคัญ ตนเป็นคนไทยที่มีเกียรติศักดิ์ศรี อยู่ในแผ่นดินตนเอง แต่กลับถูกชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ทำร้ายร่างกายอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ซึ่งหากปล่อยไว้ ผู้ก่อเหตุรายนี้ อาจทำกับผู้อื่นขึ้นได้อีก