จากกรณี นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายศึกษาและวิจัยอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่ร่วมกับสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) ประเทศไทย ลงพื้นที่สำรวจร่องรอยสัตว์ป่าบริเวณเกาะสะแกวัลย์ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน หลังจากเมื่อวันที่ 2 ม.ค. 68 ที่ผ่านมา มีการจับลักลอบนำวัวเข้ามาเลี้ยงในพื้นที่ผืนป่ามรดกโลก รวม 50 ตัว โดยชุดวิจัยฯ ได้พบร่องรอยคล้ายมูลของจระเข้ ซึ่งอาจจะเป็นมูลของจระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทย มาปรากฏอยู่บริเวณดังกล่าวนั้น
หัวหน้าอุทยานฯแก่งกระจาน นำทัพลุยพิสูจน์ ‘จระเข้น้ำจืด’ ผงะพบรอยเดินตามกินวัว
ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 68 นายมงคล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายศึกษาและวิจัยอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ร่วมกับสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) ประเทศไทย ได้ลงพื้นที่บริเวณเกาะสะแกวัลย์ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เป็นวันที่ 2 เพื่อสำรวจร่องรอยจระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทยเพิ่มเติม

ทั้งนี้ได้ทำการตรวจกล้องดักถ่ายภาพภาพสัตวป่า ที่นำมาติดตั้งไว้บริเวณชายหาดเกาะสะแกวัลย์ โดยยังไม่พบภาพจระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทย จากในกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่าแต่อย่างใด สันนิษฐานว่า น่าจะได้กลิ่นมนุษย์เลยไม่ขึ้นที่หาดนี้ เพราะจระเข้ถือว่าเป็นสัตว์นักล่าอีกชนิดที่มีความฉลาดในการเอาตัวรอด แต่เชื่อได้ว่า ยังมีที่ขึ้นได้อีกหลายหาด ที่จระเข้สามารถขึ้นมาอาบแดดได้ อย่างไรก็ตาม ได้ทำการติดตั้งกล้องเพิ่มในจุดที่คาดว่าจระเข้จะขึ้นจากน้ำเพื่อมานอนอาบแดด เพื่อบันทึกภาพเป็นการยืนยันว่า มีจระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทย อยู่บริเวณดังกล่าว

จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ ต่างยืนยันว่า เคยพบจระเข้น้ำจืด ขึ้นมานอนอาบแดดบนเกาะสะแกวัลย์ เนื่องจากบนเกาะดังกล่าวมีแหล่งอาหารสมบูรณ์ ทั้งนกน้ำ และปลาในแม่น้ำ อาทิ ปลาชะโด และปลาบึก เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีวัว ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่เลี้ยงไว้แล้วแอบเข้ามาในเขตอุทยานฯ ก็มักถูกจระเข้กินเป็นอาหาร ตลอดจนชาวบ้านที่ออกหาปลาชะโด ก็เคยเจอจระเข้ตัวนี้ด้วยเช่นกัน

อีกทั้งจากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลัง ยังพบว่า เมื่อปี 2562 ยังเคยพบจระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทย ลำตัวยาวกว่า 4 เมตร คาดว่าน่าจะเป็นตัวนี้ ขึ้นไปนอนอาบแดดบริเวณสปิลเวย์ ภายในเขื่อนแก่งกระจานด้วย

สำหรับ จระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทย ถือเป็นนักล่าชั้นยอดในพื้นที่ชุ่มน้ำ มีความสามารถในการกินอาหารหลากหลายชนิด รวมถึงจระเข้ที่มีขนาดเล็กด้วย น้ำย่อยของจระเข้ถือว่าเป็นหนึ่งในน้ำย่อยที่ทรงพลังที่สุดในโลก ทำให้สามารถย่อยอาหารได้แทบทุกประเภท อีกทั้งจระเข้ยังเป็นสัตว์เลือดเย็น สามารถอยู่รอดได้โดยไม่ต้องกินอะไรเป็นเวลาหลายเดือนด้วย เพื่อรักษาอุณหภูมิร่างกาย.