จากกรณี น.ส.นันทวัน วงศ์ขจรกิตติ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เปิดเผยว่า ตามที่ กยศ. ได้แจ้งนายจ้างให้หักเงินเดือนผู้กู้ยืมที่ค้างชำระหนี้เพิ่มอีก 3,000 บาท เริ่มตั้งแต่เดือน เม.ย. 68 นั้น กยศ. ได้ชี้แจงว่า กยศ. ได้ดำเนินการติดตามหนี้ผู้กู้ยืมทุกรายที่ยังมียอดหนี้ค้างชำระ ซึ่งรวมถึงผู้กู้ยืมที่อยู่ในระบบหักเงินเดือน โดยก่อนหน้านี้ กยศ. ได้แจ้งหักเงินเดือน ซึ่งไม่ได้นำยอดหนี้ค้างชำระเดิมของผู้กู้ยืมมารวมในการแจ้งหักเงินเดือนด้วย และได้แจ้งให้ผู้กู้ยืม มีหน้าที่ชำระเงินยอดหนี้ค้างชำระด้วยตนเองให้ครบถ้วน
อีกทั้ง ผู้กู้ยืมบางรายไม่ได้มีการชำระเงินดังกล่าว จึงทำให้มียอดหนี้ค้างสะสม และบางรายได้ขอลดจำนวนเงินหักเงินเดือน แต่ไม่ได้ชำระส่วนต่างให้ครบถ้วนภายในวันที่ 5 กรกฎาคมของงวดปีนั้นๆ ดังนั้น กยศ. จึงมีความจำเป็นในการเพิ่มจำนวนเงินที่หักต่อเดือน บัญชีละ 3,000 บาท โดย กยศ. ได้จัดส่งหนังสือแจ้งไปยังที่อยู่ตามทะเบียนราษฎรให้ผู้กู้ยืม และได้ส่งอีเมลให้นายจ้างทราบแล้ว โดยสามารถตรวจสอบยอดหนี้ค้างชำระได้ด้วยตนเองผ่านแอป กยศ. Connect ตามที่ข่าวเสนอไปก่อนหน้านี้
กยศ. ชี้แจงกรณีเพิ่มจำนวน หักเงินเดือนลูกหนี้ บัญชีละ 3,000 บาท

เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แฟนเพจ อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว พร้อมระบุข้อความว่า “ลูกหนี้ กยศ. โอดบอกว่าเดือนนี้จากที่เคยชำระหนี้คนละ 500-1,000 เดือน ต้องมาจ่ายเพิ่มคนละ 3,000 บาท เห็นมีคนบ่นกันเพียบ”
อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก โดยชาวเน็ตส่วนใหญ่ต่างบอกว่า “หักมาจะ 8 ปีแล้ว ยอดยังหักปกตินะครับ ขึ้นตามขั้นบันได, อย่ามีปัญหาเลย เด็กรุ่นหลังที่จำเป็นต้องกู้มีเยอะมาก, บางคนจ่ายตรง ไม่ควรหักเขาถึง 3,000 นอกจากพวกโดนบังคับจ่าย, คนติดต่อเป็นจำนวนมาก” อีกด้วย..
ขอบคุณข้อมูล : อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ