จับตา 'โปรว่าน' จารวี บุญจันทร์ ฝันให้ไกลเเล้วไปให้ถึงมือ 1 ของโลก

เเม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก จะยังไม่ได้เบาบางลงมากนัก แต่วงการกีฬาโลก ก็ยังพอจะเดินหน้าจัดการแข่งขันกันไปได้ในหลาย ๆ ชนิดกีฬา ซึ่งในรอบปี 2564 ที่ผ่านมา ต้องบอกว่าผลงานของนักกอล์ฟอาชีพหญิงของไทย ในการไปโชว์วงสวิงในระดับแอลพีจีเอทัวร์ และ เลดีส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ นั้น ถือว่าสุดยอดและไม่ธรรมดาเอามาก ๆ

โดยเฉพาะกับความยอดเยี่ยม ผลงานอันร้อนแรงของ 2 โปรสาวไทย ทั้ง “โปรเหมียว” ปภังกร ธวัชธนกิจ โปรวัย 22 ปี ที่คว้าแชมป์เมเจอร์แรกของปี 2021 ศึกเอเอ็นเอ อินสไปเรชั่น 2021 พร้อมกับก้าวมาเป็นนักกอล์ฟระดับหัวแถวของแอลพีจีเอทัวร์ และคว้ารางวัล “โรเล็กซ์ แอนนิกา เมเจอร์ อวอร์ด” ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับนักกอล์ฟที่มีผลงานดีสุดในการแข่งขัน 5 เมเจอร์ของปี 2021 นอกจากนี้ยังคว้ารางวัลรุกกี้แห่งปี (ผู้เล่นดาวรุ่งแห่งปี 2021) ของแอลจีพีเอทัวร์ ได้อีกด้วย และ “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล โปรกอล์ฟสาววัย 18 ปี เจ้าของมือ 1 เลดีส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ 2021 ที่เพิ่งคว้าตั๋วเข้าไปเล่นในแอลพีจีเอทัวร์ ฤดูกาล 2022

ส่วนแขกรับเชิญประจำ “ดาวต่างมุม” ในวันนี้ ไม่ใช่ใครอื่นไกล หากแต่เป็นนักกอล์ฟสาวตาคมที่ชื่อ “โปรว่าน” จารวี บุญจันทร์ โปรสาววัย 22 ปี ที่กำลังทำผลงานดีวันดีคืนอีกคนของวงการกอล์ฟอาชีพสตรีไทย พร้อมจะไปเขย่าวงการกีฬากอล์ฟอาชีพโลกในปีหน้านั่นเอง

ความเป็นมาของโปรว่าน

“หนูเกิดและเติบโตที่กรุงเทพฯ ค่ะ เรียนมัธยมศึกษาตอนต้น ที่โรงเรียนไผทอุดมศึกษา ก่อนจะไปต่อที่โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ภาคอินเตอร์ฯ จากนั้นได้มีโอกาสไปแข่งขันกอล์ฟจูเนียร์เวิลด์ ที่สหรัฐอเมริกา ตอนนั้นทางไอเอ็มจี ส่งสตาฟฟ์ (แมวมอง) มาดูการแข่งขัน พอเห็นฟอร์มการเล่นของหนู ก็เลยชวนหนูเข้าโครงการ พอได้พูดคุยกับไดเรกเตอร์แล้วก็เลยตกลงไปเข้าเรียนที่ไอเอ็มจี หนูก็เลยไปเรียนชั้น ม.3 จนจบ ม.ปลาย ที่ไอเอ็มจี อคาเดมี่ ค่ะ”

ครอบครัวมีกันกี่คน

“ครอบครัวของหนูมีกัน 5 คนค่ะ มีคุณพ่อคุณแม่ พี่สาว 1 คน ทำงานที่ประเทศออสเตรเลีย กับพี่ชายอีก 1 คน ตอนนี้ทำงานที่ประเทศไทยค่ะ ขณะที่คุณพ่อเป็นทนาย แต่ตอนนี้เกษียณแล้วค่ะ พ่อกับแม่หนูจะสอนให้เราทำอะไรด้วยตัวเองก่อนเสมอค่ะ”

จุดเริ่มของกอล์ฟอาชีพ

“หนูเริ่มเล่นกอล์ฟตอนอายุ 6 ขวบ สมัยเด็กบ้านอยู่ใกล้กับสนามไดร์ฟกอล์ฟ คุณพ่อก็ชอบตีกอล์ฟด้วย ก็เลยพาเข้าสนามไดร์ฟตลอด จริง ๆ หนูจะไปฝึกกอล์ฟตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ตอนนั้นไปติดต่อโปรสอนกอล์ฟไว้แล้ว แต่ทว่าหนูตัวเล็กมาก ยังยกไม้กอล์ฟไม่ได้เลย โปรก็เลยบอกให้กลับมาใหม่ พออายุ 6 ขวบ ถึงเกณฑ์แล้ว หนูก็เลยขอพ่อไปเรียน ก็เลยรักและชอบกีฬากอล์ฟตั้งแต่ตอนนั้นเลย ส่วนกีฬาอื่น ๆ ถ้าไม่ใช่วิชาพลศึกษา ก็ไม่ได้เล่นเลยค่ะ”

แมตช์แรกที่ประทับใจ

“หนูเทิร์นโปร เมื่อเดือน มิ.ย.64 ค่ะ แล้วไปลงแข่งขันรายการ “เทกซัส วูเมนส์ โอเพ่น” ถือว่าประสบความสำเร็จนะคะ เพราะว่าติดท็อป 5 หนูว่าเป็นการเปิดตัวที่ดีเลยค่ะ จากนั้นก็มาได้แชมป์กอล์ฟอาชีพรายการแรกของชีวิตในรายการ “บีจีซี ไทยแลนด์ แอลพีจีเอ มาสเตอร์ส 2021” ที่สนามปัญญาอินทรา กอล์ฟ คลับ เมื่อช่วงต้นเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ต้องบอกว่าดีใจมากค่ะ รู้สึกว่าสัปดาห์นั้นทุกอย่างกำลังมาดี ไดร์ฟดี พัตต์ดี หลังจากที่หลาย ๆ สัปดาห์ก่อนหน้านั้น ผลงานไม่ดี แต่เราว่าเราโอเคอยู่นะ เหลือแค่การปรับจูนข้อบกพร่องเท่านั้น ซึ่งก่อนลงแข่งเมเจอร์สุดท้ายของปีก็พยายามแก้ไขจุดอ่อน สุดท้ายก็แก้ทันและคว้าแชมป์รายการแรกให้กับตัวเองได้ในที่สุด”

ใครเป็นโค้ชสอนกอล์ฟที่อเมริกา

“หนูเรียนกับโค้ชเท็ดด์ โอ ค่ะ (Tedd Oh) เป็นโปรที่สหรัฐอเมริกา”

เล่นกอล์ฟยากมั้ย

“ส่วนตัวหนูนะคะ หนูว่าถ้าเล่นสนุก ๆ กับเพื่อน คิดว่าไม่ยากค่ะ ใครก็เล่นได้ ต่อให้ตีไม่ดีเราก็ยังอยู่ในก๊วนเดียวกัน อยู่ในสังคมเดียวกัน มันเป็นเหมือนกีฬา เหมือนโซเชียลไลฟ์ ไม่เครียดค่ะ แต่พอเริ่มแข่งขันก็จะยากขึ้น เพราะทุกคนจริงจัง กอล์ฟเป็นกีฬาที่ต้องปรับจูน ถ้าเราไม่ได้ลงแข่งขันสักระยะวงก็จะหาย ถือว่าค่อนข้างหนักอยู่ค่ะ เราต้องปรับปรุงตัวเองเรื่อย ๆ”

นักกีฬาที่เป็นไอดอล

“หนูชอบ ลิเดีย โค ค่ะ คือเขาเก่งมาตั้งแต่เข้าแอลพีจีเอทัวร์ใหม่ ๆ อายุ 10 กว่า ๆ เอง แต่ก็มีช่วงหนึ่งที่หลุดไป แต่เขาก็ยังกลับมาได้ และทำได้ดีกว่าเก่าด้วยซ้ำ หนูก็เลยชอบค่ะ หนูเคยเจอเขาครั้งหนึ่ง รู้สึกว่าเป็นคนที่ไนซ์มาก ใจดีมาก คุยกับหนูแบบไม่ถือเนื้อถือตัวเลยคะ”

เป้าหมายในการเล่นกอล์ฟ

“ก่อนอื่นหนูตั้งใจว่าจะต้องเข้าไปเล่นในแอลพีจีเอทัวร์ ให้ได้ก่อน ตอนนี้หนูได้เล่นในซีเมตราทัวร์ (ทัวร์รองลงมาจากแอลพีจีเอทัวร์) แล้ว แน่นอนว่าเป้าหมายสูงสุดเราก็อยากเป็นมือ 1 ของโลก แต่ตอนนี้ต้องไปทีละขั้นค่ะ ต้องไปทำผลงานเพื่อติดท็อป 10 ของซีเมตราทัวร์ เพื่อก้าวต่อไปในแอลพีจีเอทัวร์ค่ะ”

ถ้าไม่เล่นกอล์ฟจะทำอะไร

“ถ้าไม่เล่นกอล์ฟอาชีพ เรียนจบหนูก็ฝึกงานบริษัทเอกชนสัก 1-2 ปี ก่อนค่ะ แล้วไปเรียนต่อระดับปริญญาโท ถามว่าหนูเรียนจบด้านสถิติ ก็ไม่ได้เอามาใช้กับกีฬากอล์ฟโดยตรงแต่อย่างใด แต่หนูคิดว่ามันสามารถนำมาใช้กับการจัดการความคิดให้เป็นระบบได้ค่ะ ตรงนี้ต่างหากที่เป็นประโยชน์กับการเล่นกีฬากอล์ฟ เราสามารถนำมาใช้ในสนามได้ดีเลย”

ชีวิตที่สหรัฐอเมริกาเป็นอย่างไร

“แรก ๆ ตอนอยู่ที่ไอเอ็มจี ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำ ก็ค่อนข้างลำบาก เพราะหนูไปเรียนตอนที่เขาเปิดเทอมไปกันแล้ว 1 เดือน แต่หนูแข่งเสร็จต้องกลับมาเมืองไทย เพื่อลาออก แล้วไปเรียนต่อที่สหรัฐ ก็ค่อนข้างยุ่งยาก ทั้งเรื่องการหาเพื่อนใหม่ การใช้ชีวิต อีกอย่างภาษาอังกฤษหนูก็ไม่เก่งมาก เพราะเพิ่งเรียนได้ไม่กี่ปีค่ะ ไม่เคยเรียนโปรแกรมภาษาอังกฤษแบบเต็มคอร์สทั้งวันค่ะ การไปใหม่ ๆ ต้องปรับตัวใหม่ แต่โชคดีที่มีเพื่อนคนไทยอยู่ที่นั่นด้วย ทุกอย่างจึงง่ายขึ้น พอไปเรียนระดับมหาวิทยาลัย ก็ไม่ถึงต้องคัลเจอร์ช็อกแต่อย่างใด”

เพื่อนสนิท

“ตอนเรียนที่ไอเอ็มจี ส่วนใหญ่จะสนิทกับเพื่อนชาวเอเชียทั้งญี่ปุ่นและจีน ที่ไปฝึกกอล์ฟที่นั่นกันเยอะ แต่พอเข้าระดับมหาวิทยาลัย ก็จะสนิทกับเพื่อนในทีมทุกคนค่ะ”

รางวัลที่ภาคภูมิใจ

“หนูภูมิใจที่ได้รับรางวัล Juli Inkster Senior Award presented by Workday ซึ่งเป็นรางวัลยกย่องนักกอล์ฟหญิงระดับมหาวิทยาลัย ดิวิชั่น 1 ที่มีแรงกิ้งสูงสุดในปีสุดท้ายของการเป็นนักกีฬามหาวิทยาลัยค่ะ”

ชอบอะไรในตัวเองมากที่สุด

“หนูคิดว่าน่าจะเป็นดวงตานะคะ อย่างเพื่อน ๆ ก็บอกว่าตาหนูสวย เขาชอบนะ หนูเองก็ชอบค่ะ”

อาหารจานโปรด

“เลือกยากมากค่ะ หนูชอบทุกอย่างเลย ถ้าเป็นอาหารไทยก็จะเป็นผัดผักกาดขาวใส่หมู หนูชอบอาหารเอเชีย กินได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะอาหารเกาหลี ญี่ปุ่น เนื้อย่างจะชอบมาก อาหารฝรั่งก็ทานได้นะคะ แต่ถ้าต้องเลือก หนูเลือกเอเชี่ยนฟู้ดส์ค่ะ”

สัตว์เลี้ยงตัวโปรด

“ตอนนี้ไม่มีค่ะ แต่อยากแอบมี คิดว่าดูแลยากเพราะเราเป็นนักกีฬา ต้องเดินทางไปแข่งขันตลอด กลัวว่าจะไม่สามารถเลี้ยงหรือดูแลเขาได้ค่ะ”

ประเทศที่ชอบมากที่สุด

“ญี่ปุ่นค่ะ หนูไปกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ ชอบวัฒนธรรม ชีวิตของผู้คน อาหารการกิน ชอบทุกอย่างที่เป็นญี่ปุ่นค่ะ”

ติดโซเชียลมั้ย

“ค่อนข้างติดค่ะ แต่หนูไม่ชอบโพสต์รูปตัวเองนะคะ ชอบดู ชอบไถไปเรื่อย ๆ ประมาณว่าชอบเสพสื่อค่ะ ประโยชน์ของโซเชียลที่เห็นได้ชัดเลยก็คือทำให้เราได้กลับมาเจอกับเพื่อน ๆ ที่ห่างหายกันไป อาจจะตั้งแต่ชั้นอนุบาล ประถม หรือมัธยม ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง การที่เรามีเฟซบุ๊ก ไลน์ หรือ ไอจี ทำให้เราสามารถติดต่อกันได้เรื่อย ๆ แบบไม่ขาดหายไป อีกอย่างคือทำให้คนอื่นรู้จักเราด้วย ถือเป็นการโปรโมตตัวเองไปในตัวด้วยค่ะ”

อยากจะฝากอะไรในฐานที่เป็นคนรุ่นใหม่

“ก็คงเป็นเรื่องการใช้โซเชียลนี่ล่ะค่ะ เพราะมันเหมือนดาบสองคม มีทั้งคุณและโทษ อยู่กับโซเชียล ทำให้เรารู้อะไรมากขึ้น แต่บางครั้งถ้าเราอยู่กับมันมากไปก็จะขาดโอกาสในการทำกิจกรรมอื่น ๆ ไปด้วย เมื่อก่อนตอนเด็ก ๆ หนูทำกิจกรรมหลายอย่าง มีทั้งการเรียนเต้นบัลเลต์ เรียนเปียโน พอมาเล่นกอล์ฟก็หยุดไป หนูยังคิดเลยว่าถ้าตอนนั้นหนูมีมือถือ หรือไอแพด หนูก็อาจจะไม่ได้มาเป็นนักกอล์ฟก็ได้ หนูก็อยากจะฝากไว้ว่าควรใช้เวลาอยู่กับโซเชียลให้เหมาะสม แล้วหันไปเล่นหรือไปทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่เราได้เจอได้สัมผัสจริง ๆ บ้างก็จะดีมากกว่าค่ะ”

คำถามสุดท้าย หนูมีแฟนหรือยัง

“ยังไม่มีค่ะ ถามว่ามีสเปกของหนุ่มในฝันมั้ย หนูคงตอบได้แค่ว่าสเปกของหนูขึ้นอยู่ที่ซีรีส์เกาหลีที่หนูดูค่ะ (หัวเราะ) เพราะว่าหนูชอบดูซีรีส์ มันรู้สึกผ่อนคลายดีค่ะ”.

วอน อ่อนวงค์ / เรื่อง พีระพันธ์ แผนดี / ภาพ

ประวัติส่วนตัว

ชื่อจริง : จารวี บุญจันทร์

ชื่อเล่น : ว่าน

เกิด : 23 พ.ค.2542

อายุ : 22 ปี

ประถมศึกษา : โรงเรียนไผทอุดมศึกษา

มัธยมศึกษา : โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ International Program (ม.1-ม.2)

: IMG Academy (Braddenton, FL)

(ม.3-ม.6)

อุดมศึกษา : Duke University (Durham, NC)

: Major Statistical Science