เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ร.ต.อ.จำรัส สืบสำราญ รองสว.(สอบสวน) สภ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งเหตุคนเสียชีวิตภายในบ้าน หมู่ 11 ต.มะเฟือง อ.พุทไธสง จึงประสานหน่วยกู้ภัย และแพทย์เวร รพ.พุทไธสง เข้าร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ พบนางแดง (นามสมมุติ) อายุ 55 ปี เจ้าของบ้าน นอนเสียชีวิตบนที่นอนในลักษณะนอนหงาย ไม่สวมเสื้อผ้า มีผ้านวมมาคลุมร่างไว้ ภายในบ้านไม่พบร่องรอยการรื้อค้น ตรวจสอบตามร่างกาย พบบริเวณริมฝีปากและบริเวณแก้มมีร่องรอยของการถูกกัด เป็นรอยจ้ำเลือด รวมถึงบริเวณปทุมถันทั้งสองข้างและตามลำตัวหลายแห่ง มีร่องรอยฟันมนุษย์กัดเห็นชัดเจน อวัยวะเพศมีร่องรอยของการร่วมเพศ คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน

ส่วนสามีผู้ตายคือนายเอก (นามสมมุติ) อายุ 52 ปี ซึ่งอยู่กินกันมาประมาณ 5 ปี ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ พร้อมกับรถมอเตอร์ไซค์ซาเล้ง คาดว่าน่าจะหลบหนีไปหลังทราบว่าภรรยาเสียชีวิต

สอบถามเพื่อนบ้าน เล่าว่า ปกติจะไม่ค่อยสุงสิงกับบ้านหลังนี้มากนัก เพราะเขาชอบอยู่โดดเดี่ยวไปหากินรับจ้างทั่วไป ทั้งสองชอบดื่มเหล้า วัน-สองวันนี้ ไม่เห็นนางแดง ออกจากบ้านข้ามวัน และไม่เห็นสามีนางแดงอยู่บ้าน จึงเดินเข้าไปดูเห็นประตูหน้าบ้านล็อค จึงเรียกเพื่อนบ้านให้มาช่วยดูพบหลังบ้านเปิดจึงเข้าไปดูพบนางแดง กลายเป็นศพดังกล่าว

ขณะที่เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันอีกราย บอกว่า ที่ผ่านมาเห็นทั้งสองตีกันทุกวันตั้งแต่เช้ายันเย็น เมาทั้งคู่แต่ฝ่ายหญิงไม่ปริปากบ่น ใครเข้าไปบอกไม่ได้ เพราะโดนสวนว่าครอบครัวใครครอบครัวของเขา เหมือนกับฝ่ายหญิงยอมให้ถูกทำร้าย จำเป็นต้องปล่อยเลยตามเลย

ขณะที่พี่สาวคนเสียชีวิต กล่าวว่า ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวเพราะเข้าไปบอกเตือนก็โดนสวนว่าอย่าไปยุ่งกับเขา ไม่อยากให้มายุ่ง จึงต้องปล่อยให้น้องโดนทำร้ายทุกวัน เช่นเดียวกับเพื่อนบ้านที่ไม่อยากเข้าไปยุ่ง

เบื้องต้นสันนิษฐานว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นสามีผู้ตาย เพราะหลังเกิดเหตุได้หลบหนีไป อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้ส่งศพไปชันสูตรถึงสาเหตุการเสียชีวิต ส่วนสาเหตุยังไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าใครเป็นคนทำร้ายจนเสียชีวิตและทำไมต้องกัดตามร่างกายจนเป็นรอยแผล ขณะที่เสียงวิจารณ์จากชาวบ้านบอกว่าสามีผู้ตายน่าจะเป็นคนซาดิสม์.