กลายเป็นเรื่องราวที่ชาวเน็ตบนโลกออนไลน์ต่างกำลังพากันวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก และถูกแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก ภายหลังแฟนเพจเฟซบุ๊ก ทันข่าวชาวอุดร ได้โพสต์เรื่องราวของหนุ่มพิการที่เปิดร้านขายของชำ ซึ่งถูกสรรพสามิต จับขายบุหรี่ปลอม นำเข้าห้องขังทันที ทิ้งแม่ชราไว้ที่ร้าน โดยระบุข้อความว่า
“นั่งกินข้าวเย็นอยู่ดีๆ ก็ได้รับข้อความจากแฟนข่าวส่งภาพและข้อความเข้ามาแถมลงท้ายด้วยคำที่ต้องลุกออกจากวงข้าวนั่นก็คือคุณประทวนช่วยด้วย กับข้าวเริ่มไม่อร่อยแล้วซิเรา ภาพที่เห็นคือคนที่นั่งอยู่ในห้องขังมีไม้เท้าวางอยู่ข้างๆ รอความช่วยเหลือจากญาติที่มีเพียงแม่ที่อายุเกือบ 80 ปี ที่รอการกลับมาของลูกที่พิการและน้องสาวที่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินเงิน 50,000 บาท เพื่อมาประกันตัวพี่ชายที่ถูกจับกุมในข้อหา พ.ร.บ.ยาสูบปี 2509 ไม่ติดอากรแสตมป์ที่ต้องติด
ใครจะรู้เนาะว่าอากรจริงหรือปลอมนี่เป็นการตั้งคำถามของชาวบ้าน??? เมื่อวานนำบุหรี่ไปตรวจสอบและวันนี้จับส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและยัดห้องขังเลย โถๆ อะไรกันนี่ไม่ได้ฆ่าคนตายชักกะหน่อยแถมเป็นคนพิการอัมพฤกษ์ครึ่งซีก อดไม่ได้จริงๆ จึงต้องลุกออกจากวงข้าวของครอบครัวเพื่อมาเห็นกับตาที่โรงพักเมืองอุดร เออจริงด้วย นี่ละเนาะสังคมที่ไร้ความเมตตาอ้างเพียงว่าผมทำตามหน้าที่ไปว่ากันตามกฎหมาย และผมก็คงต้องทำตามหน้าที่นักข่าวเหมือนกันนั่นก็คือหาความยุติธรรมให้กับผู้ต้องหารายนี้เหมือนกัน ขอตัวไปตามหาความยุติธรรมก่อนนะครับไม่รู้มันเป็นตัวยังไงเดี๋ยวถ้าเจอจะมาเล่าให้ฟังต่อวันพรุ่งนี้”
อย่างไรก็ตาม ภายหลังเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปเป็นสาธารณะ ต่างก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ต่างบอกว่าความผิดดังกล่าวเป็นความผิดรุนแรงถึงขั้นต้องทำขนาดนั้นเชียวหรือ นอกจากนี้ยังบอกว่าเขาเป็นคนพิการน่าจะว่ากล่าวตักเตือน เขาเปิดร้านขายของ ใครจะรู้ว่าอันไหนจริงอันไหนปลอม คนที่ถูกจับเขาเป็นคนดี พร้อมทั้งบอกว่าร้านแถวอุดรเจอเยอะ มีคนขายให้แล้วก็มีคนจับกุม สงสารจัง
ด้านสรรพสามิตได้เปลี่ยนแปลงการแถลงข่าวในเรื่องนี้ โดยจะขอแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้ (11 พ.ย.) แทน
ทั้งนี้ ล่าสุด เพจ ทันข่าวชาวอุดร ได้อัพเดทเรื่องราวดังกล่าว โดยระบุข้อความว่า “แม่เผยทั้งน้ำตาลูกชายพิการออกรับขอติดคุกแทนแม่ หลังเจ้าหน้าที่สรรพสามิตบุกจับบุหรี่ไม่เสียภาษี แม่ลูกวอนเห็นใจเราด้วยต้องนำโฉนดที่ดินไปจำนำนายทุนร้อยละ…เพื่อมาประกันตัวลูกชายไม่ให้นอนคุก…เผยหมดเปลือกกับนักข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้”..
ขอบคุณภาพประกอบ : ทันข่าวชาวอุดร
