กรณีตำรวจ สน.ห้วยขวาง พร้อมด้วย กก.สส.บก.น.1 จับกุมนายธฤต ณ พัทลุง อายุ 26 ปี หรือ ไฮโซทะเล และ นายเพชร บุญวงษ์ ปี CEO PRX Metaverse นักธุรกิจด้านวิศวกรรมซอฟแวร์ ก่อนนำตัวมาสอบปากคำ ที่ สน.ห้วยขวาง หลังถูกตั้งข้อหา ปล้นทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยคนหนึ่งคนใดมีอาวุธติดตัวไปด้วย โดยจับกุมได้ภายในที่พักหรูแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ด่วน!บุกรวบไฮโซดัง’ทะเล’ ยกพวกควงปืนปล้นนักธุรกิจกลางผับหรูย่านห้วยขวาง

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ร.ต.อ.สกล บุญดก รอง สว.(สอบสวน) สน.ห้วยขวาง นำตัว นายธฤต ออกมาจากห้องควบคุมผู้ต้องหามาสอบสวนเพิ่มเติม โดยมี พล.ต.ต.โชคชัย งามวงฅ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ตจักรภพ สุคนธราช ผบก.น.1 และ พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ห้วยขวาง ร่วมสอบสวน ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จากนั้นเจ้าหน้าที่นำนายธฤต กลับมาควบคุมที่ห้องควบคุมผู้ต้องหาตามเดิม ก่อนเปลี่ยนเป็นนำตัวนายเพชร ออกจากจากห้องควบคุมไปสอบสวนต่อ โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ยังไม่ยอมเปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวแต่อย่างใด

ด้าน ทนายความของนายธฤต กล่าวว่า ไฮโซทะเล ลงทุนธุรกิจบางอย่างกับนาย Yang นักธุรกิจชาวสิงคโปร์ ผู้เสียหาย โดยไม่รู้ตัวว่าถูกออกหมายจับที่กล่าวหาว่าร่วมกับพวกรวม 7 คน ก่อเหตุร่วมกันปล้นทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ ยืนยันว่า ลูกความตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการร่วมกันก่อเหตุปล้นทรัพย์ แต่ยอมรับว่ารู้จักกับผู้เสียหายชาวสิงคโปร์ และอยู่ร่วมกับเหตุการณ์นี้จริง แต่ไม่มีแรงจูงใจที่จะก่อเหตุ เพราะลูกความตนมีธุรกิจ มีทรัพย์สินมากกว่าของที่ถูกกล่าวหาว่าปล้นทรัพย์ไป จึงไม่จำเป็นต้องปล้นใคร แต่ในทางกลับกัน ผู้เสียหายชาวสิงคโปร์ เป็นลูกหนี้ของลูกความตน 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขอยืมกันไป น่าจะประมาณปีที่แล้ว โดยกู้ยืมไปทำธุรกิจ มีหลักฐานการกู้ยืมถูกต้อง

ทนายความของไฮโซทะเล กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า รถปอร์เช่ มูลค่ากว่า 4 ล้านบาท ของผู้เสียหายคนนี้สูญหายไป ยืนยันว่า รถไม่ได้อยู่กับลูกความตน มีเพียงคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก มูลค่าหลักหมื่นเท่านั้น ที่อยู่กับไฮโซทะเล และเป็นการหยิบยืมกัน โดยตั้งใจจะเอาไปคืนอยู่แล้ว ส่วนตัวเชื่อว่า ผู้เสียหายชาวสิงคโปร์ พูดความจริงไม่หมด และกำลังพิจารณาว่า จะแจ้งความกลับข้อหาแจ้งความเท็จหรือไม่ เพราะทั้ง 3 คนมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงในการทำธุรกิจ ส่วนกลุ่มชายฉกรรจ์ ที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์ รู้จักกันแค่ผิวเผิน เพราะเคยไปเที่ยวด้วยกัน และมีเพียงลูกความตนที่พูดภาษาอังกฤษได้ ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามตัวคนที่เหลือมาสอบสวนขยายผล ดังนั้นจึงเชื่อว่า ผู้เสียหายไม่ได้มีเจตนาจะแจ้งความร้องทุกข์เอาผิดนายเพชร และไฮโซทะเล แต่เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้เสียหายชาวสิงคโปร์รู้จักเพียงแค่ 2 คนนี้เท่านั้น ทั้งนี้จากการพูดคุยกับไฮโซทะเล ค่อนข้างเครียด เพราะไม่ได้ทำแต่กลับถูกใส่ร้าย ซึ่งได้ประสานเตรียมหลักทรัพย์ยื่นขอประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน โดยอยู่ระหว่างการหารือกับพนักงานสอบสวน

พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า เดินทางมาวางแนวทางการสืบสวนสอบสวน และติดตามตัวผู้ต้องหาอีก 5 คนที่เหลือ ส่วนการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 คนนั้น พนักงานสอบสวนกำลังดำเนินการยังไม่สามารถเปิดเผยได้ และอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐาน

ขณะที่ พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ส่วนที่ทนายความจะยื่นขอประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนนั้น คงไม่สามารถอนุญาตตามคำร้องขอได้ ในวันพรุ่งนี้ (11 ก.ค.) พนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไปฝากขังศาลอาญา โดยคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง นอกจากนี้ยังได้เร่งรัดให้ฝ่ายสืบสวนเร่งติดตามตัวชายฉกรรจ์ที่ร่วมกันก่อเหตุอีก 5 คนเช่นกัน