จากกรณีการค้นหาเรือดำน้ำนำเที่ยว “ไททัน” ของบริษัท โอเชียนเกต เอ็กซ์เพดิชันส์ ซึ่งนำกลุ่มมหาเศรษฐี 5 คน ดำดิ่งไปชมซากเรือไททานิก ในเขตทางเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก แล้วขาดการติดต่อกับศูนย์ปฏิบัติการ ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทางการจากทั้งสหรัฐและแคนาดา กำลังร่วมมือกันในการค้นหาเรือดำน้ำไททัน ที่ขาดการติดต่อไปตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ในระหว่างดำลงสู่ก้นทะเลเพื่อชมซากเรือไททานิก ที่ความลึกราว 3,800 เมตร อย่างเร่งด่วน เนื่องจากปัญหาสำคัญคือปริมาณออกซิเจนในเรือที่กำลังจะหมดลงนั้น
-ผู้เชี่ยวชาญระดมสมองหาวิธีกู้เรือไททันสู่ผิวน้ำ เผยโอกาสทำสำเร็จ “มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น”
ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. นิวยอร์กไทม์ส ได้รายงานเรื่องราวสุดบังเอิญแบบไม่น่าเชื่อว่า “เวนดี้ รัช” (Wendy Rush) ภรรยาของ “สต็อคตัน รัช” (Stockton Rush) ประธานเจ้าหน้าที่บริษัท บริษัท โอเชียนเกต เอ็กส์เพดิชันส์ (OceanGate) เจ้าของเรือดำน้ำ ผู้ให้บริการนำเที่ยวชมซากไททานิก และผู้ควบคุมเรือดำน้ำในทริปดังกล่าวครั้งนี้ นั้น เธอสืบเชื้อสายมาจากผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาส ผู้มั่งคั่ง 2 คน ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เรือไททานิกจมในปี 1912 โดยเธอเป็น “ลื่อ” หรือลูกของเหลน ของคู่รักอดีตผู้โดยสารเรือไททานิก
โดย “เวนดี้ รัช” ได้แต่งงานกับ “สต็อคตัน รัช” ในปี 1986 ซึ่งเธอได้เข้าร่วมการสำรวจใต้ทะลของโอเชียนเกตมาแล้ว 3 ครั้ง เพื่อไปยังซากเรือไททานิกในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันเธอเป็นผู้อำนวยการด้านการสื่อสารของ OceanGate และยังเป็นสมาชิกคณะกรรมการขององค์กรการกุศลของบริษัทมาอย่างยาวนาน
โดยนิวยอร์กไทม์ส รายงานข้อมูลของ “เวนดี้ รัช” นั้นเธอเป็น “ลื่อ” หรือลูกของเหลนของ “อิซาดอร์ สเตราส์” (Isador Straus) ผู้ร่วมก่อตั้งห้างสรรพสินค้า Macy’s เขาเป็นผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาส ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในการเดินทางอันโชคร้ายของเรือไททานิก
โดยบรรพบุรุษของเวนดี้ เป็นที่รู้จักจากเรื่องราวความรักที่น่าเศร้าของพวกเขา โดยผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้เคยให้ข้อมูลเอาไว้ว่า เขาเห็น อิซิดอร์ ปฏิเสธที่จะหนีไปกับเรือชูชีพ เพื่อให้ผู้หญิงและเด็กได้ไปก่อน จนทำให้ “ไอดา สเตราส์” (Ida Straus) ผู้เป็นภรรยาตัดสินใจที่จะไม่ทิ้งเขา พร้อมขออยู่บนเรือกับสามีที่ผ่านทุกข์สุขกันมา 40 ปี ทั้งคู่ยืนควงแขนกันบนดาดฟ้าของเรือไททานิกขณะที่เรือจมลง
และจากคลังข้อมูลของนิวยอร์กไทม์ส ได้มีการระบุด้วยว่า มีการพบศพของ อิซิดอร์ ในทะเล ประมาณ 2 สัปดาห์ หลังจากเรือไททานิกล่ม ส่วนศพของไอดา ยังไม่มีการค้นพบศพของเธอจนถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ เรื่องราวความรักอันน่าสลดใจของ อิซิดอร์และไอดา ได้รับการดัดแปลงโดยผู้กำกับ “เจมส์ คาเมรอน” นำมาเป็นฉากหนึ่งในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ของโลก เรื่อง “Titanic” ในปี 1997 โดยเล่าผ่านฉากที่คู่สามีภรรยาสูงอายุคู่หนึ่ง ได้นอนกอดกันบนเตียง ขณะที่น้ำเริ่มทะลักเข้ามาเอ่อท่วมรอบๆ เตียงของพวกเขาอีกด้วย..
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @nytimes, @dailymail, @nypost
