เจ้าหน้าที่ทางการจากทั้งสหรัฐและแคนาดา กำลังร่วมมือกันในการค้นหาเรือดำน้ำไททันที่ขาดการติดต่อไปตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ในระหว่างดำลงสู่ก้นทะเลเพื่อชมซากเรือไททานิก ที่ความลึกราว 3,800 เมตร อย่างเร่งด่วน เนื่องจากปัญหาสำคัญคือปริมาณออกซิเจนในเรือที่กำลังจะหมด

ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าเหตุใดเรือดำน้ำไททัน จึงขาดการติดต่อกับเรือพี่เลี้ยงซึ่งคอยดูแลอยู่บนผิวน้ำ อย่างไรก็ตาม ทีมค้นหายังไม่หมดหวังและกำลังเร่งมือค้นหา หลังจากจับสัญญาณได้ว่า เกิดเสียงดังใต้น้ำซึ่งทิ้งช่วงทุก 30 นาที โดยได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เชี่ยวชาญทางทะเลจากทั่วโลก 

ขณะนี้บรรดาผู้เชี่ยวชาญหลายคนมีความเห็นว่า ถ้าหากเรือดำน้ำไททันยังคงอยู่ในสภาพปกติใต้ทะเล ก็มีหนทางเดียวที่จะช่วยกู้เรือขึ้นมาได้ ซึ่งก็คือการลากหรือดึงเรือขึ้นสู่ผิวน้ำ

วิธีการหนึ่งที่อาจนำมาใช้ได้ก็คือการดึงเรือไททันขึ้นมาโดยใช้ระบบ Flyaway Deep Ocean Salvage System (FADOSS) ซึ่งเป็นระบบดึงและยกวัตถุที่มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากด้วยสายเคเบิลและกว้าน สามารถใช้ยกวัตถุที่มีน้ำหนักสูงสุดได้ 60,000 ปอนด์ (ราว 30 ตัน) ส่วนเรือไททันนั้น มีน้ำหนักประมาณ 23,000 ปอนด์ (ราว 11.5 ตัน)

วิธีที่ 2 คือใช้ระบบยานดำน้ำบังคับระยะไกล CURV-21 ของกองทัพสหรัฐ ซึ่งสามารถลงลึกไปถึง 20,000 ฟุต หรือมากกว่า 6,000 เมตรใต้ทะเล แต่มีข้อจำกัดคือรับน้ำหนักได้เพียง 4,000 ปอนด์ (ราว 1.8 ตัน) จึงเป็นไปได้ยากที่จะดึงเรือไททันขึ้นมาได้ อย่างไรก็ตาม ทางกองทัพสหรัฐแถลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า มีแผนจะใช้งานร่วมกับระบบ FADOSS ในการกู้เรือ

แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีปัญหาอยู่ดีว่าจะหาทางลงไปติดตั้งสายลากจูงกับตัวเรือไททันได้อย่างไร ที่ความลึกหลายพันเมตรใต้ทะเล

ทางออกอาจมาจากฝรั่งเศส โดยรัฐบาลฝรั่งเศสแถลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า กำลังส่งเรืออตาลองต์ไปยังพื้นที่ค้นหา พร้อมกับหุ่นยนต์ Victor 6000 ซึ่งสามารถลงไปปฏิบัติการใต้ทะเลได้ลึกถึงเกือบ 6,000 เมตร 

โฟติส พากูลาโทส วิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อเรือและยานพาหนะทางน้ำ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าววอลล์สตรีท เจอร์นัล ว่า ต่อให้เจอเรือที่ก้นสมุทร ก็อาจไม่มีเวลามากพอที่จะช่วยเหลือผู้โดยสารและลูกเรือของเรือไททันได้อย่างปลอดภัย

เขาให้ความเห็นว่า ทีมกู้ภัยจะต้องมีเรือที่สามารถหย่อนสายเคเบิลลงไปดึงเรือไททันขึ้นมา หรือต้องมีอุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายมือจับ เพื่อยึดเกาะเรือแล้วดึงขึ้นสู่ผิวน้ำ แต่ถึงแม้จะเจอเรือไททัน ทีมกู้ภัยก็อาจไม่มีเวลามากพอที่จะช่วยดึงสู่ผิวน้ำ เพราะปริมาณออกซิเจนในเรือที่เหลืออยู่อาจมีไม่มากพอ

เขาย้ำว่า ทีมกู้ภัยมีโอกาสอย่างมากที่สุด “เพียงครั้งเดียว” ที่จะกู้เรือไททันได้สำเร็จ

ด้านเดวิด มาร์เคต อดีตนาวาเอกจากนาวิกโยธินกองทัพสหรัฐ ให้ความเห็นว่า โอกาสที่คนในเรือไททันจะรอดชีวิตในครั้งนี้ มีเพียง 1% ตัวเขานั้นยังคงมีความหวัง แต่ก็อยากจะให้ทางครอบครัวของผู้โดยสารและลูกเรือ เผื่อใจไว้สำหรับข่าวร้ายด้วย

แหล่งข่าว : insider.com

เครดิตภาพ : AFP