เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ที่เกาะกระดาน จังหวัดตรัง นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นำคณะผู้บริหารสำนักงาน ป.ป.ช. และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม พื้นที่ถ้ำมรกต และเกาะกระดาน อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เพื่อติดตามความคืบหน้าเก็บการจัดเก็บรายได้ของอุทยานแห่งชาติ ซึ่งจุดแรกไปดูการจัดเก็บรายได้หน้าถ้ำมรกต โดยใช้เรือเป็นด่านลอยจัดเก็บค่าเข้าสำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในพื้นที่ พบว่าเป็นการขายบัตรและจัดเก็บเงินสด ไม่มีการจัดเก็บแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-ticket และยังไม่สามารถชำระเงินผ่านการสแกน QR code ได้เนื่องจากไม่มีระเบียบรองรับ
เจ้าหน้าที่อุทยานที่ทำหน้าที่จัดเก็บรายได้ กล่าวว่า หากมีระบบ e-ticket หรือระบบสแกน QR code ชำระเงิน จะสะดวกและเกิดความปลอดภัยในการจัดเก็บเงินค่าเข้า เนื่องจากปัจจุบันนักท่องเที่ยวไม่นิยมพกเงินสด ขณะนี้มีการจัดเก็บโดยถือกล่องพลาสติกสำหรับใส่เงินสด สามารถจัดเก็บรายได้วันละ 50,000 บาท ราคานักท่องเที่ยวที่จัดเก็บ โดยนักท่องเที่ยวคนไทย จัดเก็บอยู่ที่ 40 บาท แต่เด็กจัดเก็บ 20 บาท และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เด็ก เก็บ 100 บาท ผู้ใหญ่จัดเก็บค่าเข้าอยู่ที่ 200 บาท โดยเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าไม่มีอุปสรรคในการจัดเก็บ เนื่องจากนักท่องเที่ยวมีการศึกษารายละเอียดมาก่อนหน้านี้แล้ว ยกเว้นกรณีมีคลื่นลม สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย จะเป็นปัญหาเพราะเป็นการจัดเก็บบนพื้นน้ำทะเล

สำหรับค่าเข้าชมในการจัดเก็บจะมีการตรวจสอบจำนวนนักท่องเที่ยว เมื่อเรือท่องเที่ยวมาจอด เจ้าหน้าที่ก็จะขึ้นไปบนเรือนับจำนวนนักท่องเที่ยวและจัดเก็บค่าเข้าสถานที่เป็นรายบุคคล จะไม่มีการจัดเก็บผ่านไกด์นำเที่ยวเหมือนจุดอื่นๆ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการจัดเก็บไม่ครบถ้วน เจ้าหน้าที่จะจอดเรือลอยลำรอจัดเก็บตลอดทั้งวัน จากนั้นจะมีการนำเงินมารวมกับกับจุดจัดเก็บบนพื้นที่เกาะกระดาน ก่อนนำส่งรายได้ที่สำนักงานอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวไม่มีเงินสด สามารถโอนจ่ายผ่านเจ้าหน้าที่และให้เจ้าหน้าที่ชำระเป็นเงินสดแทนได้ หากมีความจำเป็น แต่จะมีปัญหา เนื่องจากเคยมีกรณีร้องเรียนและมีการตรวจสอบ อาจส่งผลปัญหาเรื่องเส้นทางการเงิน ซึ่งจะเชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่โดยตรง
ด้านเลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวว่า การจัดเก็บแบบใช้คิวอาร์โค้ด กรมอุทยานฯ สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องแก้ไขกฎหมาย เพียงแต่ต้องใช้ระบบวิธีบริหารจัดการ ซึ่ง ป.ป.ช. เคยเสนอมาตรการไปยังคณะรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีได้เสนอไปยังหน่วยงานให้ดำเนินการตามที่ ป.ป.ช. เสนอ เพียงแต่ยังติดอุปสรรคในเรื่องเทคโนโลยี และงบประมาณ ขณะนี้หน่วยงานกำลังดำเนินการ ซึ่งการใช้ QR code ในการเก็บรายได้ ทำให้สะดวก ทั้งต่อนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ ไม่ต้องมานั่งนับเงินและเก็บสด
เมื่อถามว่าจะมีระบบการตรวจสอบการจัดเก็บเงินในแต่ละจุดแบบภาคเอกชนที่มีหน่วยงาน จะเป็นไปได้หรือไม่ เลขาน ป.ป.ช. กล่าวว่ากรณีนี้มี สตง. ดำเนินการสุ่มตรวจอยู่แล้ว ซึ่ง ป.ป.ช. จะประสานให้สุ่มตรวจเป็นประจำทุกปีต่อไป
จากนั้น ป.ป.ช. ลงพื้นที่ติดตามการจัดเก็บรายได้ พื้นที่เกาะกระดาน โดยได้สอบถามวิธีการจัดเก็บกับเจ้าหน้าที่ที่อยู่บริเวณซุ้มจัดเก็บรายได้ พบว่าการจัดเก็บมีลักษณะเช่นเดียวกับมีการขายบัตร ใช้กล่องพลาสติกสำหรับเก็บเงินรายได้ โดยเจ้าหน้าที่ยอมรับว่าการจัดเก็บรายได้กับบัตรค่าเข้าชม ก็จะนำมาเปรียบเทียบกัน ซึ่งจะสัมพันธ์กับรายได้ที่จัดเก็บ แต่ก็ยอมรับว่า มีเรือนำเที่ยวที่ลักไก่ไม่ผ่านจุดชำระเงิน ซึ่งส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะมากับกรุ๊ปทัวร์ หรือพักรีสอร์ท โดยจะมีเจ้าหน้าที่ตระเวนตรวจตรา หากพบไม่ชำระ ก็จะให้ชำระให้ถูกต้อง

นายปทุม พงศกรเฟื่องฟู หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ให้สัมภาษณ์ว่า สำหรับการจัดเก็บค่าเข้าอุทยานหาดเจ้าไหม จะมีจุดจัดเก็บอยู่ 5 จุด คือที่สำนักงานท่าเรือปากเมง เกาะกระดาน หน้าถ้ำมรกต และหาดหยงหลิง ส่วนเกาะกระดาน เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาก็จะมาเทียบเรือที่โป๊ะ และนักท่องเที่ยวจะเดินมาชำระค่าธรรมเนียมตรงบริเวณทางขึ้นอุทยาน ราคาคนไทยผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ส่วนชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท ทั้งนี้สามารถชำระที่สำนักงานและท่าเรือปากเมง จากนั้นจะโชว์ค่าบัตรธรรมเนียมได้ที่เกาะกระดาน จะไม่ให้เกิดการจัดเก็บที่ซ้ำซ้อน
สำหรับการร่องรือเก็บเงินที่ถ้ำมรกตนั้น เจ้าหน้าที่จะได้รับแจ้งค่าธรรมเนียมจากบริษัททัวร์ จากนั้นจะออกไปรอและนับจำนวนนักท่องเที่ยวว่าตรงกับจำนวนที่บริษัทจ่ายมาหรือไม่ ยอมรับว่าอาจจะมีพลาดบ้าง เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ใช้เรือยางออกไปแค่ลำเดียว ถ้าเรือมาพร้อมกันหลายลำ บางครั้งการสื่อสารอาจมีอุปสรรค ประกอบกับสภาพอากาศคลื่นลม หากเจ้าหน้าที่มาช้า ก็จะไม่ทันนักท่องเที่ยวที่ออกเรือไปก่อนแล้ว ขณะเดียวกันก็พบกรณีเรือจากรีสอร์ท หากพบก็จะสามารถจัดเก็บได้ และมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าชำระค่าธรรมเนียมแล้วหรือยัง
นายปทุม กล่าวว่า การเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบ e-ticket มีการดำเนินการไปในอุทยานแห่งชาติ 5 แห่งแล้ว แต่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ยังไม่ได้ดำเนินการ ส่วนที่หลังจากนี้ จะใช้ระบบสแกนหรือโอนเข้าบัญชี ก็ขึ้นอยู่กับกรมอุทยานฯ จะไปดำเนินการ ซึ่งจะต้องมีการปรับแก้ระเบียบก่อน ว่าจะดำเนินการได้อย่างไร แต่ตอนนี้ยังคงรับเงินสดอย่างเดียว

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ หาดเจ้าไหม แก้ปัญหาเรือที่จะไม่จ่ายค่าธรรมเนียมด้วยการทำโป๊ะลอยน้ำ เพื่อจัดเก็บค่าธรรมเนียม โดยได้ขออนุมัติงบดำเนินการ และอยู่ระหว่างการจัดซื้อที่กรม และนำมาติดตั้งที่นี่ภายในปีนี้ ทั้งนี้ส่วนตัวเห็นด้วยที่จะเปลี่ยนเป็นระบบ e-ticket เพื่อความสะดวกกับเจ้าหน้าที่และบริษัททัวร์ อย่างไรก็ตาม บริเวณเกาะกระดานและหน้าถ้ำมรกต จัดเก็บรายได้ประมาณ 50,000 บาทต่อวัน.