เมื่อวันที่ 17 ต.ค. กรณีที่ประชุมคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา มีมติเห็นควรสอบสวนวินัยร้ายเเรง นายเนตร นาคสุข กรณีสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา ขับรถชนคนตาย เเละมีคำสั่งตั้ง นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อดีตอธิบดีสำนักงานอัยการคดีพิเศษ เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายเเรงไปเเล้วนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม ก.อ.วันที่ 18 ต.ค. จะมีบรรจุวาระการประชุมโดย นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธาน ก.อ. เห็นควรนำเสนอ ก.อ. ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงข้าราชการมาตรา 75 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ ด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการทางวินัยและสั่งลงโทษทางวินัยสำหรับรองอัยการสูงสุด พ.ศ. 2563 ระเบียบคณะกรรมการและระเบียบคณะกรรมการอัยการว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงข้าราชการอัยการ พ.ศ. 2554

ประกอบด้วย ประธานกรรมการ 1 คน คือ นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ (ก.อ.สายบำนาญ) เเละ กรรมการ 5 คนประกอบด้วย 1.นายชาติพงษ์ จีระพันธุ รองอัยการสูงสุด (ก.อ.โดยตำเเหน่ง) 2.นายเชาวลิต วงศานรเศรษฐ์ อธิบดีอัยการภาค 4 รักษาการในตำแหน่งผู้ตรวจการอัยการ 3.นายสุวิช ชูตระกูล อธิบดีอัยการสำนักงานปกครองเพชรบุรี รักษาการในตำแหน่งอธิบดีอัยการภาค 7 (ก.อ.) 4.นายอนุชา วัฒนวิภา อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานคณะกรรมการอัยการ รักษาการในตำแหน่งรองอธิบดีอัยการสำนักงานคณะกรรมการอัยการ เเละตั้ง พ.ต.ต.สันติ มุริจันทร์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุดสำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดขอนแก่นเป็นผู้ช่วยเลขานุการอัยการ เสนอ ก.อ. เพื่อโปรดพิจารณา

สำหรับรายชื่อคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายเเรงในครั้งนี้ที่เสนอ โดย นายพชร ประกอบไปด้วยผู้มีความรู้ความสามารถเป็นที่ยอมรับในองค์กรเเละเป็นคณะกรรมการอัยการอยู่หลายคน อย่างเช่น นายธนพิชญ์ ประธานสอบก็เคยเป็นอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษคนเเรกๆ เมื่อครั้งตั้งสำนักงานใหม่ ขึ้นชื่อเรื่องเป็นคนมีฝืมือมาก ประสบการณ์ ทำงานมีความซื่อสัตย์

ส่วน นายชาติพงษ์ รอง อสส.อาวุโสลำดับที่ 1 เเละ ก.อ. โดยตำเเหน่ง เป็นบุคคลซึ่งอัยการปัจตุบันยอมรับฝีมือ มีประสบการณ์มาก สมัยนั่งรองอธิบดีอัยการคดีพิเศษ เป็นหัวหน้าคณะทำงานคุมคดีสำคัญ ของสำนักงานคดีพิเศษหลายคดี เช่น คดี ฟิลลิป มอร์ริส ซึ่งเป็นคดีกรณีพิพาท ระหว่างประเทศไทยกับประเทศฟิลิปปินส์ ในเรื่องนี้ที่องค์การการค้าโลก หรือดับเบิลยูทีโอ คดีทุจริต สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งเกี่ยวพันถึงคดีทุจริตฟอกเงินเครือข่ายวัดธรรมกาย คดีธนาคารกรุงไทย ปล่อยกู้ กลุ่มบริษัทกฤษดามหานครโดยทุจริต ที่มีอดีตนายกรัฐมนตรีเเละนักการเมืองนักธุรกิจนายธนาคารตกเป็นจำเลย เเละยังมีความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน พัวพันถึง นายพานทองแท้ ชินวัตร รวมถึงคดีทุจริต การฟอกเงินในโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน โดยก่อนขึ้นรอง อสส.ได้เข้ามาคุมคดีเศรษฐกิจที่มีความซับซ้อน ในองค์กรอัยการปัจจุบัน จึงยอมรับในเรื่องของประสบการณ์ เเละขึ้นชื่อเรื่องเป็นคนเถรตรง ซื่อสัตย์  มือสะอาดเเละมีฝีมือเรื่องปราบการทุจริตฯ ตอนลงเลือกตั้ง ก.อ.ครั้งก่อนหน้านี้ก็ได้คะเเนนสูง เเละ นายสุวิช อัยการที่ได้รับความนิยมในการเลือกตั้ง ก.อ. ด้วยคะเเนนสูงสุดอันดับ1 ครั้งที่ผ่านมาเนื่องจากเป็นคนอัธยาศัยดี ไม่ถือตัวเเละเป็นคนตรง เปิดเผย ที่ผ่านมาไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสีย เชื่อว่าจะใช้ดุลพินิจพิจารณาเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา

ส่วน นายเชาวลิต รักษาการผู้ตรวจการอัยการเป็นอัยการในพื้นที่ภาค 4 มานานเป็นคนที่ลูกน้องผู้ใต้บังคับบัญชาให้ความเคารพรัก โดยนายพชรเป็นคนเลือกนายเชาวลิต เข้ามาเเทนที่รายชื่ออัยการคนหนึ่งที่มีการเสนอในครั้งเเรก เนื่องจากอัยการคนดังกล่าวจะพ้นตำเเหน่งบริหารไปเป็นอาวุโส โดยนายชวลิตรเองภาพลักษณ์มีความซื่อตรง

สำหรับ นายอนุชา เป็นอัยการผู้มีความรู้ความสามารถจากสำนักงาน ก.อ. ซึ่งในคณะการการสอบสวนวินัยร้ายเเรงระดับรองอัยการสูงสุดจึงต้องมีผู้มีความรู้เข้าใจเกี่ยวกับระเบียบการสอบสวนที่พึ่งมีขึ้นใหม่ด้วย โดยรายชื่อดังกล่าวคณะกรรทการอัยการจะมีประชุมวันที่ 18 ต.ค. ก่อนจะมีมติเห็นชอบหรือไม่ออกมา