จากกรณี “กัน จอมพลัง” พาผู้เสียหายซึ่งเป็นทหารหญิงเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี ถูกเจ้านายอ้างว่าเป็นภรรยาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และยังเป็นตำรวจยศสิบตำรวจเอกหญิง กองบัญชาการสันติบาล กักขังหน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกายทารุณ ซึ่งต่อมากองบัญชาการตำรวจสันติบาล ออกหนังสือข่าวประชาสัมพันธ์ชี้แจงว่า กรณีดังกล่าว ผู้ถูกกล่าวหาคือ ส.ต.ท.หญิงกรศศิร์ บัวแย้ม ตำแหน่ง ผบ.หมู่ กก.4 บก.ส.1 ปัจจุบันช่วยราชการ กอ.รมน.ภาค 4 (ส่วนหน้า) ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันที่ 21 ส.ค. ทหารหญิง สังกัดกองทัพไทย ยศสิบตรี ที่ถูกนายจ้างที่เป็นตำรวจหญิงทำร้ายร่างกาย พร้อมกับญาติๆได้เดินทางมาพบกับ พ.ต.อ.ธานินทร์ ฉัตรเจริญพร รองผบก.ภ.จว.เพชรบุรี รรท. ผกก.สภ.เมืองราชบุรี เพื่อยื่นหนังสือขอคัดค้านการประกันตัวของ ส.ต.ท.(หญิง) กรศศิร์ หลังทราบว่าวันนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำอีกรอบและอาจจะให้ประกันตัว เนื่องจาก เจ๊นุช อ้างว่าจะต้องไปรายงานตัวกับต้นสังกัดในวันที่ 22 ส.ค. จึงเกรงว่า อาจจะมาข่มขู่และคุกคามครอบครัวให้เกิดความหวาดกลัว
ด้านแม่ของเหยื่อส.ต.ท.หญิงกรศศิร์ กล่าวว่า หากเจ๊นุช ได้รับการประกันตัวออกไปก้รู้สึกกังวลว่า ลูกสาว จะไม่ได้รับความยุติธรรม และกลัวเรื่องของความปลอดภัย ตอนนี้สภาพจิตใจของลูกยังแย่อยู่ ต้องช่วยกันดูแล ส่วนเรื่องของใบรับรองแพทย์ที่เจ๊นุช นำมาเป็นหลักฐานนั้นรู้สึกไม่แน่ใจว่าจะเป็นผลดีกับน้อง หรือเป็นผลดีกับตัวเจ๊นุช และไม่เชื่อว่าจะมีอาการป่วยมาก่อน ในช่วงที่ได้พบกัน ก็เห็นว่าปกติดี และการที่ เจ๊นุช ไปมอบตัวไม่ใช่เป็นการสำนึกผิด แต่น่าจะมีคนที่อยู่เบื้องหลังและให้คำปรึกษามา และไม่เชื่อว่าจะเจ๊นุชจะทำร้ายลูกสาวแค่คนเดียว แต่น่าจะมีคนอื่นร่วมด้วย ส่วนคลิปที่ออกมาว่ามีการทำร้ายร่างกายลูกที่หัวหินอีกนั้น ก็เพิ่งจะทราบเรื่อง และวันนี้ก็จะไปยื่นคัดค้านการประกันตัวที่สภ.เมืองราชบุรี ซึ่งจนถึงตอนนี้ทางญาติหรือคนที่ทำร้ายน้องก็ยังไม่ออกมาขอโทษเลย
ส.ต.ท.หญิงให้ปากคำตร.เพิ่ม ลั่นปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของก.ม….
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ผู้เสียหายมายื่นหนังสือขอคัดค้านการประตัว ทางพนักงานสอบสวนสภ.เมืองราชบุรี ได้เตรียมทำหนังสือส่งตัวผู้ต้องหา ไปฝากขังต่อศาล จ.ราชบุรี ในวันพรุ่งนี้(22 ส.ค.65) ส่วนเรื่องของการขอประกันตัว นั้นทางผู้ต้องหาก็จะต้องไปประกันตัวที่ศาล ซึ่งก็แล้วแต่ว่าศาลท่านจะพิจารณาอย่างไร นอกจากนี้ก็ยังได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง ปปง.เพื่อขอให้ตรวจสอบทรัพย์สิน และเตรียมยึดทรัพย์ของผู้ต้องหาด้วย เพราะในคดีค้ามนุษย์นั้นต้องตรวจสอบทรัพย์สินว่าได้มาจากการค้าหรือไม่