จูด เบลลิงแฮม กองกลางตัวใหม่ของ รีล มาดริด ย้ายมาร่วมทีมด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 103 ล้านยูโร (ประมาณ 3.90 พันล้านบาท) ทั้งที่เขามีอายุเพียง 19 ปี!
วันนี้เราจะพาไปทำรู้จักกับ “วันเดอร์คิด” แห่งโลกฟุตบอลรายนี้กัน
เบลลิงแฮม เบอร์มิงแฮม
เบลลิงแฮม เริ่มเล่นฟุตบอลให้กับเบอร์มิงแฮม ซิตี ตั้งแต่อายุ 15 ปี โดยเล่นในทีมอายุต่ำกว่า 23 ปี หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้เลื่อนขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ และประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ โดยเขาเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุด ที่ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ของเบอร์มิงแฮม ด้วยวัยเพียง 16 ปี 38 วัน
ฤดูกาล 2019/20 คือการเล่นฟุตบอลอาชีพฤดูกาลแรกของเขา เขาทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ ช่วยให้เบอร์มิงแฮมรอดตกชั้นไปได้ในฤดูกาลนั้น พร้อมคว้าดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งศึก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ
แจ้งเกิดเต็มตัวกับดอร์ตมุนด์
ด้วยผลงานที่น่าประทับใจ และเป็นนักเตะที่ดูดีมีอนาคต โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ ทีมดังจากเยอรมนี ยอมควักเงินราว 25 ล้านยูโร เพื่อเซ็น “วันเดอร์คิด” รายนี้ ไปร่วมทีม ส่งผลให้เขากลายเป็นนักเตะอายุ 17 ปี ที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลก
เบลลิงแฮม ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ ดอร์ตมุนด์ และเป็นในกำลังหลักของทีมตลอด 3 ฤดูกาล ซึ่งเขาลงเล่นไปทั้งหมด 132 นัด ยิง 24 ประตู และทำไป 25 แอสซิสต์ ก่อนโบกมือลาทีม “เสือเหลือง” สู่ทีม “ราชันชุดขาว”
สานต่อเบอร์ 5 ของซีดาน
เบลลิงแฮม ย้ายมาร่วมทีม รีล มาดริด ด้วยค่าตัวสูงถึง 103 ล้านยูโร ด้วยวัยเพียง 19 ปี พร้อมเซ็นสัญญา 6 ปี โดยเขาเลือกสวมเบอร์ 5 ที่เป็นเบอร์ของไอดอลของเขา ซีเนดีน ซีดาน ตอนสมัยลงเล่นให้ มาดริด
เบลลิงแฮม ได้กล่าวถึงไอดอลของเขาในงานเปิดตัวว่า “ผมเคยพูดในการให้สัมภาษณ์หลายครั้ง ว่าผมชื่นชม ซีเนดีน ซีดาน มากแค่ไหน มรดกภายในสโมสรและหมายเลขนี้ ผมไม่ได้พยายามที่จะเป็นแบบเดียวกับเขา ผมแค่พยายามจะเป็นจู๊ด เพียงแต่มันเป็นการแสดงความเคารพต่อความยิ่งใหญ่ของเขา”
“ทั้งนี้ ต้องขอบคุณ เฆซุส บาเยโฆ กองหลังเจ้าของหมายเลข 5 เดิม ของ มาดริด ที่ยอมยกเบอร์ 5 ให้รุ่นน้องหน้าใหม่คนนี้”
กองกลางคนที่ 7 ของทัพราชัน
กายย้ายมาของเบลลิงแฮม ทำให้ตอนนี้ มาดริด มีกองกลางถึง 7 คน ซึ่งเบลลิงแฮม สามารถเล่นได้หลายบทบาทในแดนกลาง เป็นนักเตะที่มีทั้ง พละกำลัง มีเกมรับที่ดี และมีทักษะที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะการจ่ายบอล เลี้ยงบอล ไปจนถึงการทำประตู ซึ่งเขาเป็นกองกลางที่ครบเครื่องอย่างมาก
ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่เขาจะถูกมองว่า จะเป็นหนึ่งในนักเตะระดับท็อปในอนาคต และยังเป็นเรื่องดี ที่เขาได้มาร่วมงานกับ โทนี โครส และลูก้า โมดริช 2 กองกลางตัวเก๋าของทีม ที่จะสามารถช่วยให้เขาปรับตัวเข้ากับทีมได้ และประสบการณ์ของดาวเตะรุ่นพี่ ก็จะช่วยพัฒนาศักยภาพของเขา
เพียง 4 ปี จากเบอร์มิงแฮม สู่ นักเตะตัวอนาคตของ เรอัล มาดริด สามารถบอกได้เลยว่า นี่เป็นหนึ่งในดาวดวงใหม่ที่น่าจับตามมองที่สุดคนหนึ่ง ในวงการฟุตบอล ต้องติดตามดูต่อไปว่าในอนาคต เขาจะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะระดับท็อปได้หรือไม่.
