อาชีพแต่ละอาชีพมักมีความยากลำบากกันคนละแบบ บางอาชีพเหนื่อยยาก ต้องเสียหยาดเหงื่อแรงงาน เพื่อแลกกันค่าตอบแทนเพียงน้อยนิด แต่จำเป็นต้องทำ หวังเพียงแค่หวังได้มีงาน มีเงินใช้ ไม่ต้องร่ำรวยอะไรมากมายขอเพียงอย่าขัดสน มีเงินให้ลูกไปโรงเรียน ตัวเองมีกินใช้เท่าที่จำเป็น

เฉกเช่นสาวเมืองทุเรียนภูเขาไฟ สาวศรีสะเกษ ที่ต้องเหน็ดเหนื่อย ใช้หยาดเหงื่อแรงงานแลกกับเงิน อาชีพก่อสร้าง หรือบางครั้งก็ไปรับเหมา แต่งานรับเหมาบางครั้งก็มีงาน บางครั้งก็ไม่มีงานเป็นเวลานาน เพราะเป็นปัจจัยที่กำหนดไม่ได้ว่าลูกค้าจะจ้างหรือไม่ หรือบางครั้งจ้างไปลูกค้าอาจเบี้ยวงาน ไม่จ่ายเงินก็มี

แต่ชีวิตคนเรามักไม่แน่นอน วันนี้จนอีกวันหนึ่งรวยแบบพลิกชะตาชีวิตไปเลย เช่นเดียวกับ “น.ส.วกุลทิพย์ บุญปัญญา”วัย 23 ปี ที่บุญหล่นทับ รับโชค 12 ล้านจากการถูกรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 31 ก.ค.66 ชุดที่ 44 และชุดที่ 45 หมายเลข 260453 กลายเป็นเศรษฐีใหม่ภายในพริบตา

ผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์ออนไลน์”จึงได้เดินทางไปที่บ้านผู้โชคดีรายนี้ ซึ่งอยู่บ้านโนนแสนสุข ตำบลสังเม็ก อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.วกุลทิพย์ บุญปัญญา อายุ 23 ปี เศรษฐีคนใหม่ของจังหวัดศรีสะเกษ

โดยสภาพบ้าน น.ส.วกุลทิพย์ ในปัจจุบัน ได้มีการปรับปรุง ถมที่บ้านใหม่ เพื่อเตรียมสร้างบ้านหลังใหม่ให้ครอบครัวและตนเอง ตลอดจนได้ออกรถกระบะ 4 ประตู จำนวน 1 คัน และ จักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพในอนาคต

น.ส.วกุลทิพย์ ได้เล่าให้เราฟังว่า ย้อนไปเมื่อก่อนถูกรางวัลที่ 1 ตนฝันว่า ได้มีคนมาบอกตนว่า เลขจะออก 53 หลังจากนั้น ตนก็ตามหาซื้อเลข ดังกล่าว ซึ่งตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะถูกรางวัลที่ 1 แต่อย่างใด เพราะคิดว่า ตั้งใจจะซื้อแค่เลขท้าย 53 ตามที่มีคนเข้าฝันบอกตน เท่านั้นเอง โดยสลากกินแบ่งรัฐบาล ใบที่ถูกรางวัลนั้น มีคนขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเดินมาขายถึงหน้าบ้าน ตนจึงตัดสินใจซื้อไว้ จำนวน 2 ใบ

จนกระทั่งถึงวันที่ 31 ก.ค. 66 ซึ่งเป็นวันที่ประกาศผลรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล ตนก็ไม่ได้มีลางสังหรณ์หรือเอะใจ แต่อย่างใด ว่าจะถูกรางวัลที่ 1 ซึ่งหลังจากมีการประกาศผลรางวัลเสร็จ ประมาณ 10 นาที ตนจึงได้ทำการตรวจรางวัลด้วยโทรศัพท์มือถือ ก็เลยรู้ว่าตัวเองถูกรางวัลที่ 1 ซึ่งหลังจากทราบว่า ตัวเอง ถูกรางวัลที่ 1 ปรากฏว่า ก็มีอาการสั่น ตกใจ และทำอะไรไม่ถูกด้วยความรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก

น.ส.วกุลทิพย์ กล่าวต่อไปว่า ชีวิตของตนก่อนจะถูกรางวัลที่ 1 นั้น ประกอบอาชีพ รับเหมาก่อสร้าง กับแฟน ซึ่งคบหากันมานานกว่า 10 ปี ได้ทั้งงานที่ดี และได้กำไร และงานที่ขาดทุนบ้าง บางทีช่วงไม่มีงานก็ต้องไปรับจ้างเป็นรายวัน ได้รายได้วันละประมาณ 350 บาท รวมกับแฟนของตนต่อวัน ตนก็จะมีรายได้ประมาณวันละ 700 บาท โดยในตอนนี้ตนมีลูกทั้งหมด 2 คน เป็นผู้ชายทั้งหมด คนแรก อายุ 3 ขวบ คนที่สอง อายุ 2 ขวบ ซึ่งหลังจากถูกรางวัลที่ 1 ชีวิตของตนเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก ตอนนี้ก็มีรถกระบะ 1 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน ทำให้ชีวิตการเดินทางสะดวกมากขึ้นในการทำงาน

น.ส.วกุลทิพย์ กล่าวว่า ตนวางแผนกับแฟนว่าจะสร้างบ้านสักหลัง ไว้อยู่อาศัย และซื้อที่นาไว้ปลูกข้าว และอีกครึ่งหนึ่ง จะเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาให้ลูกทั้งสองของตน ส่วนในเรื่องของธุรกิจ ยังไม่คิดวางแผนจะทำเรื่องการลงทุนอะไรในตอนนี้ แต่ในใจลึกๆก็อยากเปิดร้านค้าขายของชำ

น.ส.วกุลทิพย์ กล่าวอีกว่า หลังจากที่ตนถูกรางวัลที่ 1 เมื่อมีข่าวแพร่กระจายไปทั่ว ก็มีคนเข้ามาในชีวิตตนหลายรูปแบบ ทั้งรู้จักและไม่รู้จัก โดยส่วนใหญ่ จะมาขอความช่วยเหลือ และยืมเงินของตน หรือมาชวนร่วมทำธุรกิจ แต่ตนก็ไม่สนใจแต่อย่างใด ในส่วนเรื่องของการซื้อหวยหรือสลากกินแบ่งรัฐบาล หลังจากนี้ ตนก็จะยังซื้ออยู่ แต่ก็เป็นการซื้อเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทีละ 1 – 2 ใบ เท่านั้น ไม่ใช่เป็นการทุ่มทุนซื้อแต่อย่างใด ซึ่งตนไม่คิดว่า จะมีโอกาสถูกรางวัลที่ 1 อีกครั้ง ซ้ำสอง


โดยตนขอฝากถึง คนที่ชอบซื้อหวย หรือรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล ว่าไม่ต้องลงทุนมากขนาดนั้น เสี่ยงบ้างไม่เสี่ยงบ้าง และอย่าลงทุนมากเกินไป

สำหรับเศรษฐีใหม่ ก็ขอให้ คุณวกุลทิพย์โชคดีและมีความสุข ส่วนคนที่ยังไม่ถูกหวยก็ขอให้อย่าท้อ ซื้อกันต่อไปสักวันโอกาสจะเป็นของเราแน่นอน

คอลัมน์ ดวงจะรวยช่วยไม่ได้
โดย เศรษฐีใหม่