เป็นอีกหนึ่งผลงานที่กำลังครองใจแฟน ๆ อยู่ในตอนนี้ สำหรับ The Kidnapping Day (วันลักพาตัว)” ซีรีส์เกาหลีตลกร้ายสุดลุ้นระทึก ที่สร้างจากหนังสือนิยายเกาหลีในชื่อเดียวกัน โดยมีทั้งหมด 12 ตอน สตรีมทาง Prime Video ว่าด้วยเรื่องราวของโจรลักพาตัวสุดเงอะงะ “คิมมยองจุน” และเด็กสาวอัจฉริยะ “ชเวโรฮี” ที่ต้องมาเกี่ยวข้องและร่วมมือกันในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด สถานการณ์ที่มีทั้งการหักมุมชวนลุ้นผสมผสานกับเสียงหัวเราะไปพร้อมกัน ตลอดเวลาที่ทั้งคู่ค้นหาความจริงเบื้องหลังเหตุลึกลับและการฆาตกรรม ผลงานผู้กำกับ พัคยูยอง โดยได้นักแสดงฝีมือดีมาร่วมถ่ายทอดบทบาท นำโดย ยุนคเยซัง ที่มารับบท “คิมมยองจุน” คุณพ่อผู้สิ้นหวัง ที่ตัดสินใจลักพาตัวเด็กสาวอัจฉริยะ เพื่อหาเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลลูกสาวของเขา , พัคซองฮุน ที่สร้างผลงานอย่างโดดเด่นใน “The Glory” ครั้งนี้เขามารับบทเป็น “พัคซังยุน” นับสืบที่กำลังตามไล่ล่าโจรลักพาตัว “คิมมยองจุน” , คิมชินรก รับบทเป็น “ซอฮเยอึน” อดีตภรรยาของ “คิมมยองจุน” ผู้เป็นคนเสนอไอเดียการลักพาตัวครั้งนี้ ปิดท้ายที่สาวน้อยดาวรุ่งดวงใหม่ ยูนา ผู้ที่ได้รับเลือกจากผู้สมัครกว่า 500 คน รับบทเป็น “ชเวโรฮี” เด็กอัจฉริยะ

ซึ่ง “The Kidnapping Day (วันลักพาตัว)” เป็นเหมือนกล่องของขวัญที่รวมของขวัญมากมายในกล่องเดียว ทั้งตลก แอ็คชั่น ระทึกขวัญ เรื่องราวของคู่หู และความเป็นมนุษย์ ทุกอย่างถูกมัดรวมไว้อย่างสวยงามและน่าหลงใหล ซึ่งผูกำกับได้คอนเฟิร์มว่า “มันจะทำให้ผู้ชมได้หัวเราะและรู้สึกประทับใจในเวลาเดียวกัน” และยังบอกอีกว่า ซีรีส์ได้มุ่งเน้นไปที่เคมีระหว่าง “คิมมยองจุน” และ “ชเวโรฮี” จุดสนใจอยู่ที่องค์ประกอบของซีรีส์ที่มีความตลกและความเห็นอกเห็นใจจากความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งคู่

นอกเหนือจากเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมแล้ว ผู้กำกับ พัคยูยอง ยังได้เล่าถึงมุมมองความอบอุ่นที่สะท้อนผ่านซีรีส์เรื่องนี้ด้วยว่า “พวกเขาสองคนเริ่มกลายเป็นเหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน ผมคิดว่าหลังจากดูซีรีส์ของเรา คุณจะกลับไปคิดทบทวนใหม่ว่า นิยามที่แท้จริงของครอบครัวคืออะไร” ล่าสุด “ฮาอึน” ยังได้มีโอกาสพูดคุยกับ 3 นักแสดงนำ อย่าง ยุนคเยซัง, พัคซองฮุน และ คิมชินรก แบบสุดพิเศษถึงการทำงาน กว่าจะออกมาเป็นซีรี่ส์เรื่องดังกล่าว การตีความหมายตัวละคร และ Message ที่ต้องการสื่อสาร อีกทั้งไม่พลาดถามหากพวกเขาลักพาตัวใครสักคนมาเมืองไทยได้ อยากมาปล่อยใจจอย ๆ ที่เมืองไทยกับใครอีกด้วย!

Q : ตอนที่อ่านบทซีรีส์เรื่องนี้ครั้งแรกว่ารู้สึกยังไง และอะไรทำให้คุณตัดสินใจตอบรับแสดงในซีรีส์เรื่องนี้?

ยุนคเยซัง : ผมคิดว่าการที่เนื้อเรื่องพูดถึงเด็กหญิงที่เป็นอัจฉริยะกับผู้ชายที่ไม่ค่อยฉลาดนัก มันน่าสนใจมากเลยครับ โครงเรื่องให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่ ตอนนั้นผมตื่นเต้นมากที่จะได้รับโอกาสให้สร้างความสนุกเพลิดเพลินให้กับคนดูในซีรีส์เรื่องนี้ เมื่อเร็วๆ นี้ผมได้มีส่วนร่วมในภาพยนตร์หลายเรื่องที่มีแนวทางเฉพาะตัว และผมก็รู้สึกอยากรู้มากว่าคนดูจะมองเห็นผมยังไงถ้าผมได้แสดงเป็นตัวละครที่มีบุคลิกแบบนี้

พัคซองฮุน : ตอนนั้นผมไปทำงานที่ญี่ปุ่น ผมก็เลยอ่านบทบนเครื่องบิน แต่ผมอ่านได้เร็วมาก มันเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจมากขนาดที่ผมรีบโทรไปบอกว่าจะรับบทนี้ทันทีที่ไปถึงญี่ปุ่นเลยครับ ซึ่งตอนที่ผมได้อ่านบท ‘The Kidnapping Day’ ครั้งแรก ผมคิดว่ามันน่าสนใจมากๆ และก็รู้สึกถูกดึงดูดด้วยเนื้อเรื่องที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ผมตกลงรับบทอย่างรวดเร็วเพราะผมคิดว่ามันจะทำให้ผมได้สร้างผลงานในรูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องของเคมีแปลกประหลาดระหว่างโจรลักพาตัวเงอะงะกับเด็กหญิงอัจฉริยะ

คิมชินรก : ฉันว่ามันเป็นซีรีส์ที่มีการหักมุมเยอะมากๆ และดำเนินเรื่องเร็วดีค่ะ ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครในเรื่องก็น่าสนใจ ที่สำคัญที่สุดคือตัวละคร ‘ซอฮเยอึน’ ซึ่งเป็นส่วนผสมระหว่างความจริงและคำลวง เป็นตัวละครที่น่าประทับใจมากๆ เลยค่ะ

Q : คุณรับบทเป็นใครในซีรีส์เรื่องนี้ ตัวละครของคุณเป็นคนแบบไหน และคุณคิดว่าบทบาทที่คุณได้รับมีความพิเศษอย่างไร?

ยุนคเยซัง : เขาเป็นผู้ชายที่ไม่ค่อยมีความรู้มากนัก ผู้ชายที่มีลูกสาวป่วยและไม่มีอะไรที่เขาจะทำเพื่อเธอไม่ได้ ผู้ชายที่รักลูกมากจนตัดสินใจผิด แต่เขาก็รู้ว่าผิดและพยายามจะทำสิ่งที่ถูกต้อง ผมพยายามทำความเข้าใจตัวตนที่บริสุทธิ์และไม่เหมือนใครของตัวละครตัวนี้อย่างลึกซึ้ง ผมทำการทดลองหลายอย่าง และพูดคุยกับทีมงานหลายครั้ง เพื่อแสดงออกมาโดยไม่ทำให้คนดูเกิดความรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ

พัคซองฮุน : ผมรู้ว่านักสืบส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีเวลาส่วนตัวเพราะต้องทำภารกิจลับและการสืบสวนมากมาย แต่ผมก็พยายามจะแสดงความเป็นซังยุนออกมาผ่านทรงผมและเสื้อผ้า เพื่อให้เห็นถึงความใส่ใจในการจัดการตัวเองของเขา การใส่ชุดธรรมดาแทนชุดเครื่องแบบตำรวจก็ด้วยเหมือนกัน หากคุณตั้งใจดูทั้งเคมีระหว่าง ‘คิมมยองจุน’ (รับบทโดย ยุนคเยซัง) กับ ‘ชเวโรฮี’ (รับบทโดย ยูนา) รวมถึงตัวละคร ‘ซังยุน’ ด้วย คุณจะรู้สึกเพลิดเพลินไปกับซีรีส์มากยิ่งขึ้น เสน่ห์ของตัวละครของซังยุนที่ผมเล่นในครั้งนี้เป็นคนละเอียดถี่ถ้วนและสงบเยือกเย็น แต่ผมคิดว่าเบื้องหลังของเขามีด้านที่เข้าอกเข้าใจมนุษย์อยู่ด้วย

คิมชินรก : สำหรับ ‘ซอฮเยอึน’ เป็นอดีตภรรยาของ ‘มยองจุน’ และเป็นบุคคลที่วางแผนการลักพาตัว ในขณะที่ซีรีส์ดำเนินไป เนื้อเรื่องจะค่อยๆ คลี่คลายให้เราเห็นว่าเพราะอะไรตัวละครตัวนี้จึงแยกทางกับมยองจุน ทำไมเธอจึงวางแผนการลักพาตัว และทำไมเธอถึงเลือกลักพาตัวโรฮี แต่เราจะยังไม่สามารถแน่ใจได้ว่าเรื่องไหนจริง เรื่องไหนเท็จ ฉันรู้สึกว่าส่วนผสมระหว่างความจริงและคำโกหก รวมถึงการที่เราไม่สามารถจะตัดสินได้อย่างชัดเจนว่าอะไรดีหรือชั่ว คือเรื่องพิเศษมากๆ ในตัวละครตัวนี้

Q : เตรียมตัวเองยังไงบ้างในการรับบทครั้งนี้?

ยุนคเยซัง : ปกติผมจะต้องจำกัดอาหารทุกครั้งก่อนจะเริ่มแสดง แต่ครั้งนี้ผมรู้สึกว่าต้องเพิ่มน้ำหนักขึ้นไปอีก เพราะว่าอยากแสดงให้เห็นอดีตของตัวละครอย่างเป็นธรรมชาติผ่านภาพลักษณ์ภายนอกของเขา งานนี้ผมเลยกินเยอะแบบสบายใจเลยครับ! ผมแฮปปี้มาก! แล้วหลังจากนั้นผมก็ลดน้ำหนัก 13 กิโลฯ ทันที่ที่ถ่ายเสร็จเลย

Q : อะไรคือสิ่งที่ท้าทายที่สุดที่คุณให้ความสำคัญและเตรียมตัวเป็นพิเศษก่อนมากองถ่าย?

ยุนคเยซัง : มันเป็นการสร้างตัวละครที่ยากมากครับเพราะว่ามันเป็นเรื่องของคนคนหนึ่งเลย แต่ผมคิดว่าถ้าผมแสดงให้เห็นความบริสุทธิ์ของตัวละครมากกว่าความโง่เขลาของเขา คนดูจะรู้สึกโอเคและสามารถติดตามเรื่องราวได้จนจบ ดังนั้นผมเลยพยายามกำหนดรายละเอียดเรื่องน้ำเสียงและพฤติกรรมของเขาเป็นพิเศษ ผมอยากจะแสดงฉากตลกให้ธรรมชาติที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผมคิดว่าการแสดงออกผ่านท่าทางให้เป็นธรรมชาติและลื่นไหลเหมือนน้ำ น่าจะดีกว่าการพยายามแสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมามากเกินไป แต่ผมก็คิดว่าคงจะดีถ้าจะแทรกโมเมนต์ที่ดูเหมือนการ์ตูนไว้บ้างในบางตอนของซีรีส์

พัคซองฮุน : เนื่องจากผมได้รับบทเป็นตัวละครในสายอาชีพคล้ายๆ กัน (ตำรวจ) ติดต่อกันหลายเรื่อง ผมก็เลยกังวลว่าจะสร้างความแตกต่างให้กับบทนี้ได้ยังไงบ้าง แต่สุดท้ายผมก็คิดว่าคำตอบคงอยู่ในบท ผมก็เลยพยายามที่จะยึดอยู่กับบทเป็นหลักครับ

คิมชินรก : ในฐานะคิมชินรก ฉันพอจะเข้าใจ ‘ซอฮเยอึน’ นะคะว่าทำไมเธอถึงตัดสินใจทำแบบนั้น แต่ฉันก็ไม่สามารถเห็นด้วยกับการตัดสินใจของเธอ บางครั้งการที่ต้องเล่นเป็นตัวละครที่คุณไม่สามารถทำใจให้เห็นด้วยได้ มันก็ทำให้นักแสดงเผลอมองตัวละครของตัวเองเป็นคนอื่นหรือเป็นวัตถุ ซึ่งเป็นเรื่องยากมากสำหรับนักแสดงเองในการระวังไม่ให้เกิดช่วงเวลาแบบนั้น

Q : จากในตัวอย่างซีรีส์ แม้ว่าซีรีส์เรื่องนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการลักพาตัวและฆาตกรรม แต่ดูเหมือนว่าผู้ชมจะได้เห็นความตลกด้วย ระหว่างฉากตลกกับฉากจริงจัง คุณคิดว่าฉากไหนท้าทายมากกว่ากัน อะไรคือสิ่งท้าทายหรือสิ่งที่คุณต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการแสดงอารมณ์ในซีรีส์นี้?

ยุนคเยซัง : ฉากตลกแน่นอนอยู่แล้วครับ ผมพยายามจะนึกว่าจุดไหนบ้างที่คนดูจะมองว่าตลก และต้องแสดงออกมาให้ถูกจังหวะด้วย ผมใช้เวลาคิดและจัดการเรื่องนี้เยอะมาก เพราะถ้าพลาดไปคงไม่ตลก และบรรยากาศในเรื่องก็จะพัง ผมให้ความสำคัญเป็นพิเศษเรื่องการแสดงความรู้สึกของคนเป็นพ่อแม่ที่ลูกกำลังป่วย ผมตั้งใจกับการสร้างตัวละครนี้มากๆ ครับ

Q : แฟน ๆ ซีรีส์ต่างคุ้นชินกับภาพลักษณ์ของคุณ “ยุนคเยซัง” ในมาดที่ดูมีความสุขุม เคร่งขรึม แต่บทบาทในเรื่องนี้ดูจะแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง อยากรู้ความท้าทายของคุณในการถ่ายทอดบทบาทนี้?

ยุนคเยซัง : ไม่ว่าจะต้องเจอกับตัวละครไหน การแสดงก็เป็นเรื่องยากทุกๆ ครั้งเลยครับ ผมอยากจะดูเป็นธรรมชาติโดยเน้นไปที่ตัวตนของตัวละครมยองจุนเป็นหลัก และผสมบางส่วนที่เป็นยุนคเยซังลงไป แต่สำหรับงานนี้ ผมรู้สึกสนุกไปกับทุกช่วงเวลาก็เพราะโรฮีเลยครับ

Q : ในปีนี้คุณ “พัคซองฮุน” ได้แสดงในซีรีส์หลายเรื่อง ตัวละครตัวนี้แตกต่างจากตัวละครก่อนหน้าของคุณยังไงบ้าง (เช่นตัวละคร Jae-won จากเรื่อง Not Others) และอะไรคือสิ่งที่ผู้ชมจะได้เห็นหรือต้องรอจับตาดูในซีรีส์เรื่องนี้?

พัคซองฮุน : ผมคิดว่าในฐานะนักแสดง การที่เรามีโอกาสได้เล่นเป็นตัวละครที่แตกต่างกันในแต่ละงานคือความโชคดีมากๆ อย่างหนึ่งเลยครับ มีผู้ชมที่ชื่นชอบซีรีส์เรื่องก่อนๆ ของผม และชอบตัวละครของผม มันจึงเป็นแรงผลักดันให้ผมทำงานและก้าวต่อไปข้างหน้า บางครั้งเราก็ได้บทตัวร้าย บางครั้งก็ได้บทคนดี แต่ที่แน่ๆ คือนักแสดงจะได้เจอกับผู้ชมด้วยใบหน้าและตัวละครใหม่ๆ ที่ต่างออกไปเสมอ ดังนั้นผมจึงหวังว่าคุณจะได้เห็นและรู้สึกเห็นอกเห็นใจตัวละครแต่ละตัวในเรื่อง ใน ‘Not Others’ ซีรีส์เรื่องที่แล้ว ผมรับบทเป็นอึนแจวอน หัวหน้าสถานีตำรวจ ในคราวนี้ผมก็ได้รับบทบาทตำรวจเหมือนกัน แต่เป็นตำรวจที่มีหน้าที่เป็นนักสืบ เขาเป็นผู้นำในการคลี่คลายคดีและมีบทแอ็คชั่นด้วยในหลายตอน ดังนั้นผมก็เลยคิดว่ามันเป็นบทมีเสน่ห์และมีการเคลื่อนไหวมากกว่า

Q : ที่ผ่านมาคุณ “คิมชินรก” ได้แสดงในบทบาทที่หลากหลายมาก อยากรู้ว่าคุณใช้เกณฑ์อะไรในการเลือกรับงานแสดงแต่ละครั้ง?

คิมชินรก : เกณฑ์ของฉันคือ ฉันจะคิดว่าการรับบทนี้จะมีอะไรใหม่ๆ ที่ได้เรียนรู้และเข้าใจในฐานะมนุษย์ไหม หรือจะมีอะไรที่ฉันสามารถท้าทายตัวเองในด้านการแสดงได้หรือเปล่า

Q : คุณ “คิมชินรก” เคยได้รับบทเป็นตัวละครที่หลากหลายและแสดงออกมาได้ดีเสมอ อยากทราบว่าตัวละครของคุณในซีรีส์เรื่องนี้ แตกต่างจากตัวละครตัวอื่นๆ ที่ผ่านมาของคุณอย่างไรบ้าง?

คิมชินรก : ฉันคิดว่าเธอเป็นคนที่ประเมินสิ่งที่เป็นจริงและเท็จปะปนกัน ไม่ใช่แค่ในสายตาของคนอื่นเท่านั้นนะคะ แต่ยังรวมถึงตัวเธอเองด้วย ทั้งคำพูด การกระทำ การตัดสินใจ และอารมณ์ความรู้สึกของเธอ มันจริงทุกขณะเลย แต่สิ่งเหล่านั้นมันจริงหรือเท็จกันแน่ นั่นแหละที่ไม่ชัดเจน

Q : คาแรคเตอร์ของคุณ “คิมชินรก” ในเรื่องนี้ดูลึกลับมาก และดูเหมือนว่าจะเป็นตัวละครสำคัญที่ส่งผลต่อเรื่องราวด้วย อยากให้ช่วยบอกใบ้เกี่ยวกับตัวละครนี้สักหน่อยว่าเป็นคนยังไง และส่วนตัวคุณคิดว่าตัวละคร “ซอฮเยอึน” มีความเหมือนหรือแตกต่างกับตัวจริงของคุณยังไงบ้าง?

คิมชินรก : การเล่าที่มาที่ไปของตัวละคร ‘ซอฮเยอึน’ อาจจะเป็นการสปอยล์ซีรีส์ทั้งเรื่องได้เลยค่ะ (หัวเราะ) ฉันคิดว่าเธอเป็นตัวละครที่สำคัญมากในแง่ของการดำเนินเรื่อง ส่วนตัวฉันเป็นคนที่มักจะระวังไม่ให้ตัวเองรู้สึกทุกข์นานเกินไป แต่ซอฮเยอึนกลับจมดิ่งอยู่กับความทุกข์ของตัวเอง ซึ่งการที่เธอหมกมุ่นอยู่กับความทุกข์นี่แหละ คือสิ่งที่ทำให้ตัวละครตัวนี้มีสีสันและน่าสนใจ

Q : ดูจากพล็อตแล้ว ซีรีส์เรื่องนี้มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนแนวคิด Stockholm syndrome ในฐานะที่คุณ “ยุนคเยซัง” รับบทโจรลักพาตัวที่มีเหตุผลอันเจ็บปวดเบื้องหลัง คุณตีความตัวละครของคุณยังไง และคุณเลือกที่จะแสดงด้านไหนของตัวละคร “คิมมยองจุน” ออกมาให้ผู้ชมได้เห็น?

ยุนคเยซัง : ผมคิดว่าเราแต่ละคนมีเหตุผลของตัวเองครับ ผมก็เลยพยายามที่จะแสดงสถานการณ์ที่ตัวละครต้องเจอออกมาให้ผู้ชมได้เห็น แต่อาชญากรรมก็คืออาชญากรรม และเป็นสิ่งยอมรับไม่ได้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามนะครับ

Q : คุณ “ยุนคเยซัง” มักจะได้เล่นเป็นตัวละครที่ดูเท่และมีเสน่ห์ แต่คราวนี้ ตัวละครของคุณเป็นพ่อจอมซุ่มซ่ามที่กลายเป็นโจรลักพาตัว สิ่งที่ท้าทายที่สุดในการเล่นบทบาทพ่อในเรื่องนี้คืออะไร คุณเชื่อมโยงตัวเองเข้ากับกับตัวละครได้ยังไงบ้าง?

ยุนคเยซัง : ผมพยายามใส่ความพิเศษของมยองจุนลงไปอย่างเป็นธรรมชาติ ตั้งแต่ความเป็นมยองจุนที่มีร่างกายกำยำแข็งแรง ความรู้ที่อาจจะไม่มากนักของเขา ผมยาวๆของเขา คำพูดของเขา ฯลฯ แทนที่จะมุ่งความสนใจไปที่จุดจุดเดียว ผมหวังว่าตัวตนของเขาจะแสดงออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ผ่านองค์ประกอบต่างๆ ที่หลอมรวมเข้าด้วยกัน

Q : ในฐานะนักแสดงรุ่นพี่ คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับนักแสดงรุ่นน้องยูนา (ซึ่งได้รับเลือกจากการออดิชั่นของผู้สมัครถึง 500 คน) จากการทำงานร่วมกัน คุณอยากจะชื่นชมเธอในเรื่องอะไรบ้าง หรือคุณพอจะบอกเราได้มั้ยว่าการได้ร่วมงานกับเธอเป็นอย่างไร และเคมีระหว่างคุณกับเธอเป็นอย่างไร คุณสร้างสายสัมพันธ์กับเธออย่างไร ได้ซื้อของขวัญและขนมของเธอด้วยรึเปล่า?

ยุนคเยซัง : ยูนาเก่งที่สุดเลยครับ ซีรีส์เรื่องนี้จะพิสูจน์ให้เห็นในจุดนี้ สิ่งเดียวที่ผมพูดได้เกี่ยวกับการทำงานร่วมกับเธอคือมันเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก การได้เห็นยูนาสร้างแรงบันดาลใจให้กับผม… เธอเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมมากๆ ครับ

Q : อะไรคือเรื่องท้าทายที่สุดในการแสดงร่วมกับนักแสดงเด็ก คุณมีโมเมนต์ไหนบ้างที่น่าจดจำระหว่างการถ่ายทำร่วมกับเธอ?

ยุนคเยซัง : ในเรื่องจะมีฉากสะเทือนอารมณ์ของยูนาอยู่ฉากนึง ซึ่งอยู่ในช่วงครึ่งหลังของซีรีส์ครับ ผมจะแทบรอวันที่ผู้ชมได้ดูฉากนั้นไม่ไหวแล้ว มันเป็นฉากที่ทำให้ผมตกใจ (ในทางที่ดี) และก็สร้างแรงบันดาลใจให้ผมมากๆ

Q : 3 เรื่องสำคัญเกี่ยวกับ “The Kidnapping Day” ที่ถ้าคนดูที่รู้แล้วจะสนุกไปกับซีรีส์เรื่องนี้ยิ่งกว่าเดิม คืออะไรบ้าง?

ยุนคเยซัง : เรื่องแรกคือสาเหตุการลักพาตัวครับ เรื่องที่สองคือใครเป็นฆาตกร และเรื่องสุดท้ายก็คือความฉลาดของโรฮี

พัคซองฮุน : ยุนคเยซัง ยูนา และคิมชินรกครับ ผมแน่ใจว่าแค่ได้ดูนักแสดงทั้งสามคนนี้แสดง คุณก็สนุกสุดๆ แล้วล่ะครับ

ในระหว่างการถ่ายทำในกองถ่าย อะไรที่ทำให้คุณมีความสุขที่สุด และอะไรที่ทำให้คุณพารานอยด์ได้มากที่สุด?

พัคซองฮุน : ผมไม่ได้เจอเรื่องชวนพารานอยด์อะไรเลยครับ ผมสนุกไปกับช่วงเวลาที่อยู่ในกองถ่ายมากๆ นอกจากนี้ผลงานก็ออกมาเสร็จสมบูรณ์ได้ด้วยความพยายามของนักแสดงและทีมงานทุกคน และผมก็รู้สึกดีใจมากๆ ตอนที่ได้เห็นผลลัพธ์ที่ออกมา

Q : สิ่งที่คุณประทับใจมากที่สุดในการทำงานในโปรเจ็กต์นี้คืออะไร?

ยุนคเยซัง : ความสามารถของของนักแสดงยูนาครับ ผมรู้สึกว่าอายุไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับนักแสดง ผมรู้สึกดีและได้รับแรงกระตุ้นที่ดีมากๆ และก็หวังด้วยว่าสักวันเราจะได้พบกันและแสดงร่วมกันอีก

พัคซองฮุน : ทักษะการแสดงของบรรดานักแสดงเด็กที่ร่วมแสดงในซีรีส์ครับ ผมดูการแสดงของพวกเขาแล้วรู้สึกชื่นชมมากๆ ผมกล้าพนันเลยว่าพวกเขาจะเติบโตเป็นนักแสดงที่ดียิ่งขึ้นไปอีกในอนาคต

Q : หากคุณสามารถลักพาตัวใครก็ได้ 1 คน มาเที่ยวพักผ่อนที่เมืองไทย คุณอยากพาตัวใครมา

ยุนคเยซัง : ภรรยาของผมเลยครับ เพราะผมอยากจะให้เราทั้งคู่ได้พักผ่อนและเยียวยากันและกัน

คิมชินรก : สามีของฉันค่ะ?!

Q : บอกเหตุผลหน่อยว่าทำไมเราต้องดูซีรีส์เรื่องนี้ และฝากบอกรักแฟนๆ ชาวไทย?

ยุนคเยซัง : ซีรีส์เรื่องนี้มีการผสมผสานระหว่างซีรีส์หลากหลายแนวเข้าด้วยกัน ทำให้ไม่น่าเบื่อเลยครับ นอกจากนี้ เรื่องราวของตัวละครแต่ละตัว อารมณ์ความรู้สึกของพวกเขา และทุกๆอย่าง เมื่อมันมารวมกันแล้ว ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าประทับใจมากๆ ผมเชื่อว่าคุณจะสนุกที่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้ และในขณะเดียวกันก็ได้รับข้อคิดบางอย่างที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังด้วยครับ

พัคซองฮุน : อยากให้จับตาดูเรื่องราวที่คาดไม่ถึงที่จะเกิดขึ้นเมื่อตัวละครแต่ละตัวซึ่งมีบุคลิกที่ชัดเจนมาพบกันให้ดีๆ ครับ รอติดตามได้เลย

คิมชินรก : มันจะเป็นซีรีส์ที่สดใหม่มากๆ เลยค่ะ ทั้งบทสนทนาที่ตอบโต้กันไปมาระหว่างตัวละครผู้ใหญ่กับเด็ก เรื่องหักมุมในแต่ละตอน ไปจนถึงความลับที่ถูกเปิดเผยในท้ายที่สุด รวมถึงอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ที่เกิดขึ้นในซีรีส์ อยากให้รอติดตามกันนะคะ!

Q : นอกจากความสนุกแล้ว คุณคิดว่า “The Kidnapping Day” มีข้อคิดหรือแมสเสจอะไรที่เชื่อว่าผู้ชมจะได้รับบ้าง?

ยุนคเยซัง : ความหมายของครอบครัวครับ ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ บทบาท ความรับผิดชอบในครอบครัว…หลายเรื่องเลยครับ แล้วก็เป็นเรื่องที่สำคัญทั้งหมดเลยด้วย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความรัก นี่คือสิ่งที่ผมใส่ใจที่สุดในขณะที่แสดงและอ่านบท

พัคซองฮุน : ผมคิดว่าในยุคนี้มีครอบครัวรูปแบบใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ดังนั้นผมก็เลยหวังว่านี่จะเป็นโอกาสดีสำหรับคนดูที่จะได้คิดถึงความหมายของครอบครัวผ่าน ‘The Kidnapping Day’ กันครับ

คิมชินรก : ในบรรดาคำพูดทั้งหมดของตัวละคร ‘มยองจุน’ มีประโยคหนึ่งที่บอกว่า ‘เด็กๆ ไม่ใช่ตัวอย่างในห้องทดลอง’ ซึ่งต้องการจะสื่อว่าสังคมหรือผู้ใหญ่ควรจะเลี้ยงดูเด็กให้ปลอดภัย และควรจะเคารพเด็กๆ ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ฉันคิดว่านั่นคือข้อความที่ผู้ชมจะได้รับค่ะ

Q : ท้ายสุดอยากให้แต่ละคนเลือก 3 คำที่อธิบายเหตุผลที่ไม่ควรพลาดชมเรื่องนี้ และเพราะอะไรที่ต้องเป็นคำนี้

ยุนคเยซัง : ‘ตลก, หักมุม, ความรัก’ สำหรับ ตลก เพราะมันตลกมากจนคุณสงสัยว่าทำไมเวลาผ่านไปเร็วขนาดนี้ , ความรัก เพราะมันเป็นเรื่องราวที่กินใจ และ หักมุม เพราะคุณจะไม่รู้จนกว่าจะถึงตอนจบ

พัคซองฮุน: ‘ตลก, คู่หู, ลุ้นระทึก’ The Kidnapping Day เป็นซีรีส์ที่ประกอบรวมเรื่องราวหลายแนวรวมไว้ด้วยกันเหมือนเป็นเซ็ตของขวัญที่มีของหลายอย่างอยู่ในนั้น คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับความสนุกหลายแบบเลยครับ

คิมชินรก: ‘เร็ว, หักมุม, เคมี!’ เพราะว่าซีรีส์เรื่องนี้มีพล็อตและการดำเนินเรื่องที่เร็ว มีการหักมุมตลอด แค่ชั่วพริบตาก็มีเรื่องใหม่ๆ เกิดขึ้นอีกแล้ว! นอกจากนี้ ฉันคิดว่ามันคงจะน่าเสียดายมากๆ เลยค่ะถ้าคุณพลาดการรับส่งบทสนทนาที่ตรงไปตรงมาสุดๆ ระหว่าง ‘มยองจุน’ กับ ‘โรฮี’

เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปเรียนรู้พร้อมค้นหาความหมาย “ครอบครัว” ผ่านเรื่องราวตลกร้ายกัน ที่จะทำให้ทั้งหัวเราะและซาบซึ้งใจกัน!

ฮาอึน