ย้อนไปปี 2016 เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี สร้างความสั่นสะเทือนโลกลูกหนังด้วยการเซ็นสัญญา ฮัลค์ กองหน้าชาวบราซิลค่าตัว 46 ล้านปอนด์และให้ค่าจ้างถึง 320,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ นับเป็นตัวเลขที่เกินจินตนาการว่าจะมีทีมไหนจากเอเชียที่จ่ายค่าจ้างนักเตะมากขนาดนี้่

แต่นั่นก็แค่จุดเริ่มต้น เพราะมีนักเตะบิ๊กเนมอีกมากที่เรียงหน้าเข้ามาโกยเงินในดินแดนกำแพงเมืองจีน เช่น ออสการ์ จากเชลซี ที่ได้ค่าจ้างสัปดาห์ละ 4 แสนปอนด์, คาร์ลอส เตเบซ โกยเงินสัปดาห์ละ 7 แสนปอนด์ ไหนจะ เอเซเกล ลาเวซซี, อเล็กซ์ เตเซรา และ แจ็คสัน มาร์ติเนซ ก็ล้วนทนความเย้ายวนของเงินหยวนอันหอมหวานไม่ไหว

ออสการ์

ช่วงเวลาดังกล่าวเกิดในยุคเศรษฐกิจจีนเฟื่องฟู เช่นเดียวกับ ความปรารถนาของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่ฝันให้ทีมชาติจีนเป็นมหาอำนาจลูกหนัง ไม่ใช่แค่ได้ไปฟุตบอลโลก แต่ฝันกระทั่งได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก

พวกเขาลงทุนมหาศาลจนทำเอาหลายทีมในยุโรปปั่นป่วน อันโตนิโอ คอนเต ตอนเป็นกุนซือเชลซี เคยกล่าวว่า “ตลาดจีนเป็นอันตรายต่อทุกทีมในโลก ไม่ใช่แค่สำหรับเชลซี”

ตอนปี 2019 แกเรธ เบล เกือบย้ายไปเจียงซู ซูหนิง ที่เสนอค่าจ้างมากสุดในโลกถึงสัปดาห์ละ 1 ล้านปอนด์ แต่เพียงไม่ถึง 2 ปีต่อมา สโมสรก็ล่มสลาย พวกเขาย่ำแย่ถึงขั้นนำรถบัสของทีมออกประมูลเป็นเงินสด รวมแล้วผ่านไปไม่กี่ปี ฟองสบู่ไชนีส ซูเปอร์ลีก ก็ระเบิดอย่างรวดเร็ว .. มันเกิดอะไรขึ้น?

ทางการจีนนำข้อบังคับภาษีฟุ่มเฟือยมาใช้ทำให้การย้ายทีมค่าตัวแพงไม่เกิดขึ้น มีการห้ามตั้งชื่อทีมตามผู้สนับสนุน และประกาศกฎควบคุมเพดานค่าจ้างในปี 2020 ให้จ่ายได้ไม่เกินคนละ52,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ สาเหตุเพราะทางการหวั่นเกรงว่าจะเกิดฟองสบู่จากการลงทุนที่ไม่สมเหตุสมผล กล่าวหาสโมสรว่าเผาเงินให้นักเตะต่างชาติด้วยเงินเดือนมากเกินไป รัฐบาลจึงต้องควบคุมเข้มข้นเพื่อไม่ให้กระทบวงจรภาคธุรกิจอื่น

หลายสโมสรถูกซ้ำเติมด้วยผลกระทบปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ที่บริษัทหลายแห่งขาดกระแสเงินสด เช่นเดียวกับโรคระบาดโควิด-19 จนต้องปิดประเทศมากกว่า 2 ปี จำนวนแมตช์ลดลง รายได้ลดลง

ทั้งหมดผสานกลายเป็นความตกต่ำที่วงการฟุตบอลจีนต้องเผชิญอย่างรวดเร็วชนิดปรับตัวกันแทบไม่ทัน พวกเขาเปลี่ยนจากลีกทุ่มเงินซื้อกลายเป็นผลิตนักเตะท้องถิ่นให้มากขึ้น

ด้วยประการฉะนี้เมื่อย้อนดูวิกฤติของจีนแล้วก็ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าปลายทางสุดท้ายของซาอุดิอาระเบียที่กำลังใช้วิธีการแบบเดียวกันนั้น จะจบแบบไม่สวยเหมือนจีนหรือไม่?

เฮียเอง