เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา “ช่างเอก” ได้รับคำถามจากทางบ้าน ว่าจะทราบได้อย่างว่าถึงเวลาควรจะ “เปลี่ยนคลัชต์” หรือคลัชต์มีอายุการใช้งานเท่าไหร่ ก่อนจะโบกมือลากลับบ้านเก่า วันนี้ “รู้ก่อนเหยียบ” จึงขอพาไปทำความรู้จักกับ “เทคนิคง่ายๆ เช็กอาการ “คลัตช์” กลับบ้านเก่า” ครับ

สำหรับ “คลัตช์” (Clutch) คือระบบส่งกำลัง มีทำหน้าที่ตัด-ต่อการส่งกำลังจากเครื่องยนต์สู่ชุดเกียร์ ในรถเกียร์ธรรมดาจังหวะการเหยียบคลัตช์ คือการตัดการส่งกำลัง ทำให้ สามารถเปลี่ยนเกียร์หรือเข้าเกียร์ได้อย่างนิ่มนวล และจะต่อการส่งกำลังอีกครั้งเมื่อปล่อยคลัตช์ ขณะที่เกียร์ออโต้ คลัตช์ จะทำงานอัตโนมัติ ตามจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ ที่อาศัย ความเร็วรอบเครื่องยนต์-ความเร็วของตัวรถ-แรงกดคัน เร่ง ส่งสัญญาณผ่านเซ็นเซอร์ ให้กล่องควบคุมสั่งการ

โดยปกติอายุไขของผ้าคลัตช์ในเกียร์ธรรมดาจะอยู่ที่ 8 หมื่น-1.5 แสนกิโลเมตร ส่วนเกียร์ออโตเมติก 1.5-2 แสนกิโลเมตร แต่อย่างไรก็ตาม อาจใช้งานได้มากหรือน้อยกว่าขึ้นอยู่กับลักษณะการการขับขี่

ลางบอกเหตุก่อน “คลัตช์” โบกมือลา
คลัตช์ลื่น เกิดได้จาก 2 สาเหตุหลัก ๆ คือ
1.คลัตช์หมด-ใกล้หมด สาเหตุใหญ่มาจากผ้าคลัตช์ที่เริ่มบางลงจนอาจถึงหมุดที่ย้ำตัวผ้าไว้กับจาน ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานรอบสูงขึ้นแต่ความเร็วต่ำกว่าปกติ หรือรถไม่มีกำลังเมื่อขึ้นทางชัน
2.เกิดจาการขับขี่ที่รุนแรง -การตั้งระยะคลัตช์ไม่เหมาะสมจนเกิดการยัน และลื่นจนไหม้ในที่สุด ทั้งนี้ล้อช่วยแรง-หวีคลัตช์-ผ้าคลัตช์ ที่เกิดรอยไหม้แล้วนั้นจะส่งผลให้คลัตช์ลื่นอยู่ตลอด วิธีแก้ไขคือต้องเปลี่ยนผ้าคลัตช์ใหม่ ขณะที่หวีคลัตช์จะเปลี่ยนหรือเจียรปรับหน้าใหม่ก็ได้ ส่วนล้อช่วยแรงให้เจียรใหม่

คลัตช์สั่น ส่วนใหญ่เกิดจากหน้าสัมผัสระหว่าง หวีคลัตช์-ผ้าคลัตช์- ล้อช่วยแรง ไม่เรียบส่งผลให้ขณะออกตัวรถเกิดอาการสั่นหรือกระตุก วิธีแก้ไขคือ เปลี่ยนผ้าคลัตช์ใหม่ หวีคลัตช์จะเปลี่ยนหรือเจียรใหม่ก็ได้ ส่วนล้อช่วยแรงให้เจียรใหม่

คลัตช์พัง เกิดได้จากหลายสาเหตุอาทิ สปริงจานคลัตช์หลุด-หัก หมุดที่ย้ำผ้าคลัตช์แตกออก ลูกปืนคลัตช์แตก ทำให้รถเข้าเกียรไม่ได้ วิธีแก้ไขคือ ยกคลัตช์ชุดใหม่

ทั้งนี้ การตรวจสอบคลัตช์ลื่นรถเกียร์ธรรมดา ให้สตาร์ตเครื่อง ปลดเบรกมือ เข้าเกียร์ 4 ค่อยๆ ปล่อยคลัตช์ โดยไม่ต้องเหยียบคันเร่ง ถ้าเครื่องดับแสดงว่าคลัตช์ยังปกติดี แต่ถ้าไม่ดับแสดงว่าคลัตช์ลื่นครับ…