ปัญหาหมอกควัน-ฝุ่น PM 2.5 ปกคลุมพื้นที่หลายจังหวัดของประเทศไทย ทั้งภาคเหนือ-อีสาน-กลาง-กรุงเทพฯและปริมณฑล ส่งผลกระทบต่อร่างกาย ทำให้เจ็บป่วยหลายโรค และผลกระทบทางเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว กลายเป็นปัญหาเรื้อรังมาหลายรัฐบาล

จากข้อมูลจุดความร้อนที่รายงานโดยดาวเทียมของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ “จิสด้า” เมื่อวันที่ 7 .. 67 ไทยพบจุดความร้อนที่เกิดจากการเผาทั้งประเทศ 1,320 จุด (เพิ่มขึ้นจากวันที่ 6 ..67 ที่มีจุดความร้อน 1,189 จุด)

ส่วนใหญ่พบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 410 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 341 จุด พื้นที่เกษตร 241 จุด ชุมชนและอื่น ๆ 162 จุด พื้นที่เขต ส.ป.ก. 157 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 9 จุด โดยจังหวัดที่พบจำนวนจุดความร้อนสูงสุด 3 อันดับแรกกาญจนบุรี 338 จุด ชัยภูมิ 212 จุด นครราชสีมา 77 จุด

ส่วนประเทศเพื่อนบ้านที่พบจุดความร้อนมากสุดอยู่ที่เมียนมา 1,059 จุด ลาว 407 จุด กัมพูชา 351 จุด และ เวียดนาม 215 จุด

เมื่อวันที่ 6 .. 67 อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช มีคำสั่งเด้ง! หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จ.กาญจนบุรี ให้ไปอยู่ที่อื่น จากกรณีพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ มีไฟไหม้ป่าหลายจุด บางพื้นที่รุนแรงยังไม่สามารถควบคุมได้ โดยพบจุดความร้อน 34 จุด พื้นที่ไฟไหม้สะสมรวม 231 จุด สูงสุดกว่าทุกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และไม่มีการประสานกับหน่วยงานใกล้เคียง ทั้งที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ กำหนดนโยบายและแนวทางอย่างเคร่งครัดแล้ว

สำหรับพื้นที่ที่ถูกจับตามาก เพราะเป็นเมืองการท่องเที่ยวอย่าง “เชียงใหม่” ทราบว่าคุณภาพอากาศปีนี้ดีกว่าปี 66 มาก! จากข้อมูลเดือน ม.ค. 67 อากาศดีตลอดทั้งเดือน จุดความร้อนลดลงมากถึง 83% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

สอดคล้องกับ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันข้อมูลเปรียบเทียบค่าฝุ่น PM 2.5 ย้อนหลัง 5 ปี ที่ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ค่าฝุ่นวันที่ 21 .. 67 อยู่ที่ 16.7 มคก./ลบ.. น้อยกว่าวันเดียวกันของปี 66 มากกว่า 1 เท่าตัว

โดยวันที่ 21 ม.ค. 63 = 53 มคก./ลบ.ม. วันที่ 21 ม.ค.64 = 58 มคก./ลบ.ม. วันที่ 21 ม.ค. 65 = 26 มคก./ลบ.ม. และวันที่ 21 ม.ค. 66 = 36 มคก./ลบ.ม.

มองภาพรวมแม้ว่าปัญหาฝุ่น PM2.5 ปีนี้ดีขึ้นกว่าปีก่อน ๆ แต่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ยังไม่พอใจ! จึงมีข้อสั่งการระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 ..ที่ผ่านมา ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทยเกษตรฯทรัพยากรธรรมชาติฯสาธารณสุข ไปพิจารณาความเหมาะสมที่จะดำเนินการหรือไม่ ดังนี้

1.ตัดความช่วยเหลือใด ๆ ในทุกโครงการจากภาครัฐ กับเกษตรกรที่ยังฝ่าฝืนเผาตอซังข้าวข้าวโพดมันสำปะหลัง รวมทั้งการเผาเศษซากวัชพืชต่าง ๆ จากภาคเกษตร ที่รัฐบาลและหน่วยงานเกี่ยวข้องพยายามรณรงค์ให้ใช้วิธีไถกลบฝังกลบ แทนการเผา และปีนี้ยังให้หน่วยงานต่าง ๆ ไปช่วยขนวัชพืชมาทำไบโอดีเซล ถ่านไร้ควัน และปุ๋ยอินทรีย์ อีกด้วย

2.เก็บภาษีแพงขึ้น!-ตัดสิทธิ-ลดการนำเข้าสินค้าเกษตร ที่ไปเพาะปลูกกันตามพื้นที่ตะเข็บชายแดนไทย-ประเทศเพื่อนบ้าน แล้วเผาเศษซากพืชภายหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิต จนส่งผลกระทบเข้ามาในประเทศไทย

3.ผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการอื่น ๆ ที่ปล่อยปละละเลยให้มีไฟป่า และมีการเผาเศษซากพืชภายหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิต จะถูกสอบสวนขึ้นบัญชีดำ และดำเนินการทางวินัยอย่างเข้มงวดเด็ดขาดมากขึ้น

ระหว่างที่ยังรอ สส.ในสภา พิจารณาเรื่อง “พ.ร.บ.อากาศสะอาด” ซึ่งยังไม่รู้ว่าอีกกี่เดือน? พ.ร.บ.ดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ แต่นายเศรษฐาโยนไม้แข็ง 3 ข้อสั่งการให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาดำเนินการ

เนื่องจากปัญหาหมอกควันฝุ่น PM 2.5 ถูกยกเป็น “วาระแห่งชาติ” จะทำงานกันแบบเช้าชามเย็นชามเหมือนในอดีตไม่ได้แล้ว!.