ฟุตบอลนักเรียน กรมพลศึกษา “ เดลินิวส์ คัพ ” รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ก. เดินทางมาถึงนัดชิงชนะเลิศ โดยเป็นการพบกันของ 2 ทีมชั้นนำอย่าง กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย กับ เทพศิรินทร์
นี่ถือเป็น “คู่ชิงในฝัน” ของแฟนลูกหนังขาสั้นอย่างแท้จริง เพราะนอกจากต่างก็เป็น “ยักษ์ใหญ่” ในวงการฟุตบอลนักเรียนแล้ว ทั้งคู่ยังเป็นคู่รักคู่แค้นร่วม “จตุรมิตรสามัคคี” อีกด้วย
มาเจอกันในนัดชิงชนะเลิศแบบนี้จึงถือเป็นมวยถูกคู่ และต้องบอกว่าเป็น “จตุรมิตรที่มาก่อนกาล” เพราะเหล่านักเตะชุดนี้แหละ ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทั้ง เทพศิรินทร์ และกรุงเทพคริสเตียน ในฟุตบอล “จตุรมิตร” ปีหน้า
นี่จึงเป็นเกมที่การันตีความสนุก ดุเดือด สูสี และไม่มีใครยอมใคร ใส่กันเต็มที่ชนิดพลีกายถวายชีวิต เพื่อเกียรติยศ และศักดิ์ศรีของโรงเรียนที่รัก
เกมนัดชิงชนะเลิศ จะแข่งขันกัน ในวันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 17.00 น. ที่สนามศุภชลาศัย ใครพลาด อย่าหาว่าไม่เตือน !!!
กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ “ชงโคสีม่วง ภายใต้การคุมทีมของ ธนพัต ณ ท่าเรือ ถูกยกให้เป็นหนึ่งในทีมเต็ง ที่จะคว้าแชมป์ในครั้งนี้ ด้วยความเข้าขาในการเล่น และความสามารถของนักเตะที่มีดีกรีแทบทั้งทีม และผ่านเกมใหญ่ระดับ “จตุรมิตร” มาแล้วหลายคน
ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตูอย่าง “เจ้าพีช” ธนภัทร ช้างสี ที่เซฟจุดโทษไปแล้วถึง 4 ครั้ง ในรอบ 8 ทีม และตัดเชือก พาทีมเข้าชิงชนะเลิศสำเร็จ ขณะที่แผงหลังนำโดย วีชั่น อินอร่าม ลูกครึ่งไทย-ไนจีเรีย และกัปตันทีม เสฏฐพงศ์ สาธร
แดนกลางเต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์ มีจอมเทคนิคอย่าง ณัฐกิตติ์ เสนาโนฤทธิ์ คุมเกม แล้วใช้ 2 ทายาทนักบอลดังอย่าง “กาก้า” พิชญะ คงศรี หลานชายของ พิชัย คงศรี กับ “วอดก้า” พชร วังสวัสดิ์ ลูกชายของ วรวุฒิ วังสวัสดิ์ ทำเกมรุก ส่วนแดนหน้าอันตรายทุกคน ทั้งริมเส้น ธนกร ด้วงแพง และ อชิตะ นะวะทิตย์ ส่วนหน้าป้าอย่าง ธนวัตน์ ดีเลิศ ก็เทคนิคดี ยิงไปแล้ว 2 ประตู
เส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศ
เส้นทางของ คริสเตียน ออกสตาร์ทได้อย่างสวยหรู ด้วยการเอาชนะ กีฬาจังหวัดขอนแก่น 4 – 0 ตามด้วยเฉือน อบจ.ชัยนาท 1 – 0 ทำให้การันตีการผ่านเข้ารอบ ถึงแม้จะพ่ายต่อ ราชวินิตบางแก้ว 0 – 1 ในนัดสุดท้าย แต่เข้ารอบเป็นที่ 1 กลุ่ม C ส่วนรอบ 8 ทีม ชนะจุดโทษ พิชญบัณฑิต 4 – 2 หลังเสมอในเวลา 0-0 และรอบรองชนะเลิศ ชนะจุดโทษ มัธยมตากสินระยอง 5-4 หลังเสมอในเวลา 0-0 เช่นกัน
ดาวเด่น : วีชั่น อินอร่าม
กองหลังลูกครึ่งไทย – ไนจีเรีย ดีกรี ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี และ ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำ จตุรมิตร สามัคคี ครั้งที่ 30 ด้วยวัยเพียง 16 ปี ทำให้เจ้าตัวเป็นที่จับตามองอย่างมาก ด้วยรูปร่างสูงใหญ่ แข็งแกร่ง และ มีความคล่องแคล่ว วีชั่น ลงเป็นตัวหลักแดนหลังให้กับ กรุงเทพคริสเตียน ตั้งแต่เริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ จนถึงนัดชิงชนะเลิศ ถือเป็นตัวหลักที่ทำให้เกมรับของ คริสเตียน เพิ่งเสียไปแค่ประตูเดียว
เทพศิรินทร์
“ลูกแม่รำเพย” เทพศิรินทร์ อีกหนึ่งตำนานฟุตบอลนักเรียนของไทย ยังคงอยู่ภายใต้การดูแลของ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ที่แม้ไม่ได้ลงมาทำชุดนี้เต็มตัว แต่ถือเป็นเบื้องหลังสำคัญ โดยโค้ชใหญ่ชุดนี้คือ “โค้ชเอ็ม” ธีรยุทธ ประลามุข และมีทีมสต๊าฟที่แข็งแกร่งทั้ง ธวัชชัย ทองฮวด, ไพฑูรย์ เทียบมา และวรวุฒิ วังสวัสดิ์ คุณพ่อของ พชร วังสวัสดิ์ กองกลางตัวเก่งของคริสเตียนนั่นเอง
จุดเด่นของ เทพศิรินทร์ ในทุกยุคคือหัวใจที่กล้าหาญ สู้ไม่ถอยทุกสถานการณ์ และเด็กๆในทีมชุดนี้ก็เช่นกัน ทุกคนพร้อมบู๊ใส่อย่างเต็มที่เพื่อชัยชนะ แผงหลังนำโดย “มูฟวี่” ธีรพล อนุพันธ์ เซ็นเตอร์จอมแกร่ง ส่วนแดนกลางมี “ตูน” ธนกฤต แก้วรุ่งโรจน์ “ดาวิดส์เมืองไทย” คุมเกมรับ
เกมรุกมีทั้ง “แม็ก” พลวัฒน์ ก้อนนาค, “พิช” สิรวิชญ์ วงษ์ประไพ และ “ภูเขา” เหมรัศมิ์ ภุมรินทร์ พลย์เมคเกอร์เบอร์ 10 ทำเกมอยู่หลัง “ปลื้ม” กีรติพงษ์ หอมหวล หอกเป้า ที่ทำ 2 ประตู ในรอบตัดเชือก พาทีมเข้าชิงดำ
เส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศ
“เด็กเทพ” เปิดหัวได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการเอาชนะทีมแชมป์เก่าอย่าง มัธยมตากสินระยอง 2-1 ก่อนจะไปโค่น สวนป่าเขาชะอางค์ 1-0 และ ปิดท้ายรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเสมอกับ นนทบุรีวิทยาลัย 0-0 ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศในฐานะแชมป์ของกลุ่ม B ส่วนรอบก่อนรองชนะเลิศ ชนะดวลจุดโทษ ปทุมคงคา 5-3 หลังเสมอ 0-0 และรอบรองชนะเลิศ ชนะ อบจ.ชัยนาท สุดมัน 2-1
ดาวเด่น : กีรติพงษ์ หอมหวน
กองหน้ารูปหล่อ รูปร่างสูงโปร่ง เป็นตัวหลักและความหวังในการจบสกอร์ของ เทพศิรินทร์ ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มจนถึงรองรองชนะเลิศ ด้วยความเร็ว ทักษะการครองบอลที่ดี ทำให้ กีรติพงษ์ สร้างปัญหาให้กับกองหลังฝั่งตรงข้ามเป็นอย่างมาก รวมถึงการจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยม พาทีมเทพศิรินทร์เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ด้วยการยิง 2 ประตูใส่ทีม อบจ.ชัยนาท “เจ้าปลื้ม” จึงถือเป็นความหวังในการทำประตู และเป็นตัวอันตรายที่กองหลัง กรุงเทพคริสเตียน ต้องระวังให้ดี
