และแน่นอนว่า…ทุกครั้งที่เหยื่อต้องสูญเงิน คำถามที่อยู่ในใจของผู้เสียหายทุกคน คือ การเฝ้ารอความหวัง จะมีโอกาสได้เงินคืนบ้างหรือไม่?
กระทั่งเริ่มมีสัญญาณดี เมื่อมีตัวอย่างผู้เสียหายบางส่วน ได้มีโอกาสรับเงินคืนหลังกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บช.สอท.) หรือ ตำรวจไซเบอร์ จับมือกับสถาบันการเงิน สมาคมธนาคารไทย ผุดโครงการ MONEY Cash Back “ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน” จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เล่าที่มาโครงการมีจุดเริ่มต้นจากที่ตำรวจไซเบอร์และสถาบันการเงิน มีเป้าหมายตรวจสอบ ติดตามการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับ“การฉ้อโกง”ผ่านทางไซเบอร์ โดยได้ร่วมกันแกะรอย ตรวจสอบแห่งที่มาของเงินที่ถูกโอน และอายัดเงินคืนให้กับผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากการถูกหลอกลวง
โดยการ“ปิดบัญชี”เป็นหน้าที่ของสถาบันการเงินและธนาคาร ที่ตรวจสอบบัญชีหรือธุรกรรมการเงินที่เข้าข่าย 21 ข้อ ตามประกาศของคณะกรรมการตามพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ ส่วนการตามล่าบัญชีม้าจะเป็นหน้าที่ของตำรวจไซเบอร์ติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่มีความเกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่การติดตามนำเงินคืนให้ผู้เสียหายตามขั้นตอน ซึ่งเบื้องต้นตำรวจไซเบอร์สามารถติดตามเงินคืนให้ผู้เสียหายได้ 5 ราย
ขณะพล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 กล่าวว่า เหยื่ออาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ เมื่อรู้ว่าตัวเองถูกโกง คำถามแรกคือ จะได้เงินคืนหรือไม่ ซึ่งตามพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทาง เทคโนโลยีฯ ซึ่งได้ให้อำนาจในการอายัดเงินเบื้องต้นได้ 72 ชั่วโมง
ดังนั้น หากประชาชนพบว่าตัวเองถูกหลอกลวง แนะนำให้แจ้งสายด่วน 1441 ซึ่งระบบจะทำการอายัดเงิน จากนั้นตำรวจไซเบอร์จะประสานกับสถาบันการเงิน นำเงินกรณีที่อายัดได้ทันมาคืนให้ผู้เสียหาย พร้อมย้ำ“ยิ่งโทรศัพท์แจ้งเร็วยิ่งดี”
เปิด 5 ผู้เสียหายได้คืน
คืนเงินผู้เสียหายรายแรก เป็นผู้สูงอายุ วัย 81 ปี ชาวจ.นนทบุรี อดีตพนักงานฝ่ายช่องซ่อมบำรุงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ถูกอ้างตัวเป็นตำรวจสภ.เมืองพิษณุโลก แจ้งว่าผู้เสียหายเปิดบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน มีนักศึกษาถูกหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชี 4.5 แสนบาท จนเกิดผลกระทบกระเทือนใจจนจบชีวิต ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไป 4 ครั้ง รวม 4.4 ล้านบาท ตำรวจส่งมอบเงินคืนได้2 ล้านบาท
คืนเงินผู้เสียหายรายที่ 2 เป็นผู้ถูกหลอกให้ลงทุนเทรดเงิน สุดท้ายโอนเงินไป 10 ครั้ง เป็นเงินรวมกว่า 7.4 ล้านบาท สามารถประสานสถาบันการเงินและอายัดเงินบัญชีม้าทัน 2 ล้านบาท ก่อนส่งคืนผู้เสียหาย
คืนเงินผู้เสียหายรายที่ 3 เป็นหญิงวัยเกษียณ ถูกคนร้ายอ้างตัวเป็นตำรวจไซเบอร์ แจ้งพัวพันบัญชีม้า ขอให้ส่งเงินมาให้ตรวจสอบ ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้ประมาณ 4 ล้านบาท สามารถอายัดเงินทัน 2 ล้านบาท
คืนเงินผู้เสียหายรายที่ 4 ถูกหลอกลงทุนเปิดร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ เสียหาย 36,000 บาท อายัดเงินคืนทัน 5,000 บาท
คืนเงินผู้เสียหายรายที่ 5 เป็นพนักงานบริษัทเอกชน ถูกหลอกลงทุนเทรดทองคำ เสียหาย 4 แสนบาท อายัดเงินคืนได้ทัน 185,999 บาท.
ทีมข่าวอาชญากรรม รายงาน