อากาศเย็นแบบนี้ ทำให้ผมนึกถึงหนังสือที่ผมเคยแต่งไว้เมื่อปีที่แล้ว “สวัสดีดอยตุง” เรื่องโดย น้าเมฆ วาดภาพประกอบโดยคุณนันทวัน วาตะ หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือภาพนำเที่ยวโดยยุวมัคคุเทศก์ชาวเขา 6 ชนเผ่าได้แก่ ลาหู่ อาข่า ไทใหญ่ ไทลื้อ ลัวะ และจีนยูนนาน แนะนำสถานที่สำคัญและบอกเล่าข้อมูลสำหรับครอบครัวที่อยากจะไปเที่ยวดอยตุง

หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือภาพที่ผมใช้เวลานานที่สุดในการเก็บข้อมูลจากการไปสัมผัสกับสถานที่จริง หาข้อมูลอย่างละเอียดเรื่องชนเผ่า เครื่องแต่งกาย สถานที่แนะนำ การเลือกใช้ภาษาและการเล่าเรื่อง รวมทั้งทำเป็นหนังสือ 2 ภาษา (ท้ายเล่มจะมีเนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษ) และเป็นหนังสือภาพที่เล่มใหญ่ที่สุดตั้งแต่ผมเคยทำมา ขนาด 30×30 เซนติเมตร (ไม้บรรทัดคูณไม้บรรทัดเลยครับ)

มาดูกันดีกว่าครับว่า “สวัสดีดอยตุง” เล่าเรื่องอะไรบ้าง…

ผมเริ่มจากการตั้งคำถามว่า “ทำไมชาวเขาถึงเรียกสมเด็จย่าว่าแม่ฟ้าหลวง” และ “ตุงคืออะไร”

หลังจากนั้น “นาพือ” เด็กชาวเขาเผ่าลาหู่จะพาไปชม “พระตำหนักดอยตุง” แม้จะห้ามถ่ายรูปภายในพระตำหนัก แต่มีระบบเสียงให้เราเสียบหูฟัง เมื่อเดินไปห้องต่าง ๆ ก็จะได้ยินเสียงเรื่องราวขึ้นมา ผมต้องจำรายละเอียดว่าตำแหน่งไหน อะไรน่าสนใจ แล้วจึงมานำเสนอ เช่น เหตุผลว่าทำไมสมเด็จย่าถึงมาสร้างพระตำหนักที่นี่ ความเรียบง่ายของพระตำหนัก ภาพวาดที่อยากให้ชม งานไม้บนเพดาน ฝาผนัง และราวบันได ที่สอดแทรกเรื่องดาราศาสตร์ พยัญชนะไทย และเลขไทย งานลวดลายผ้าปักที่มีตัวอักษรภาษาอังกฤษซ่อนอยู่ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ผมอยากให้ครอบครัวคนไทยได้ไปเห็นและหวังว่าเด็ก ๆ จะลองไปตามหาสิ่งต่าง ๆ ตามลายแทงที่ผมทิ้งไว้

“หมี่ก่า” เด็กชนเผ่าอาข่า อาสาพาไปที่ “สวนแม่ฟ้าหลวง” ที่มีขนาด 36 ไร่ เดิมพื้นที่นี้เป็นเส้นทางลำเลียงฝิ่นและอาวุธสงคราม ปัจจุบันพัฒนาพื้นที่ให้มีพรรณไม้สวยงามตลอดทั้งปี มีพันธุ์ไม้หายากที่กำเนิดเฉพาะดอยตุง เช่น “รองเท้านารีดอยตุง” นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่ผมชอบมากและเชื่อว่าเด็ก ๆ สายผจญภัยน่าจะชอบเช่นกัน นั่นคือ Doi Tung Tree Top Walk หรือการเดินบนสะพานเดินเรือนยอดไม้ คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยนะครับ เพราะมีอุปกรณ์นิรภัยคล้องไว้กับสายเคเบิ้ลตลอดเส้นทาง และสนุกตื่นเต้นไปอีกขั้นกับซิปไลน์ โดยจะโหนจากต้นไม้ต้นหนึ่งไปยังต้นไม้อีกต้นเหมือนทาร์ซาน

สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปสวย ๆ ลงไปเดินในสวนเลยครับ จุดน่าถ่ายรูปคือ ประติมากรรมความต่อเนื่อง ท่ามกลางลานดอกไม้เมืองหนาว ผลงานศิลปะนี้สร้างขึ้นด้วยโลหะสัมฤทธิ์เป็นรูปเด็กยืนต่อตัวกันขึ้นไป 17 คน แสดงถึงความร่วมมือร่วมใจของคนหลากหลายที่มีจุดประสงค์หนึ่งเดียวกัน

“นาง” เด็กชนเผ่าไทใหญ่ พาไปชม “หอแห่งแรงบันดาลใจ” เป็นอาคารที่แสดงประราชประวัติของสมเด็จย่าและราชสกุลมหิดลอย่างละเอียด มีแนวทางในการเลี้ยงลูกและการทรงงานร่วมกับลูก

“จัน” เผ่าไทลื้อ “เอื้อย” เผ่าลัวะ และ “ชิงชิง” เผ่าจีนยูนนาน สามคนนี้จะพาทุกท่านไปชม “สวนรุกชาติแม่ฟ้าหลวง” ซึ่งตอนที่ผมขึ้นไปเชียงรายก็มีกลุ่มมัคคุเทศก์น้อยแบบนี้อาสาพาผมและทีมงานไปชมดอกไม้และนกหายาก ชิมผลไม้ที่กินได้ เดินเข้าไปใน “อุโมงค์ลอดวิถี” และเล่าถึง “ค่ายเยาวชน” ที่มาจัดกิจกรรมที่นี่ทุกปลายปี เพราะที่นี่เปรียบเสมือนห้องเรียนธรรมชาติ ที่เด็ก ๆ จะได้ศึกษาพันธุ์ไม้ นก และแมลง ทำงานศิลปะจากดอกไม้

ก่อนกลับก็จะแนะนำของดีจากผลิตภัณฑ์ดอยตุงที่เราเคยเห็นมาเปิดร้านตามที่ต่าง ๆ ในเมือง แต่มันสุดยอดกว่าถ้าเราได้ไปดื่ม กาแฟดอยตุง ที่เพิ่งออกมาจากโรงคั่วกาแฟ ได้เก็บ แมคคาเดเมีย จากต้นและได้กะเทาะเปลือกเอาเมล็ดออกมาเองสด ๆ ผมขอแนะนำเมนูเครื่องดื่ม “แมคคาเดเมียปั่น” ที่อร่อยสุดยอดครับ คุณพ่อคุณแม่สามารถอุดหนุนผลิตภัณฑ์ผ้าทอมือที่จะเห็นชาวเขาช่วยกันทอผ้า แล้วนำมาออกแบบเป็นเสื้อผ้าที่ดูทันสมัยน่าสวมใส่ มีโรงทำกระดาษสาและโรงทำผลิตภัณฑ์เซรามิกที่จะไปเลือกชมเลือกซื้อได้ ช่วงปลายปีไปจนถึงต้นปีหน้า อากาศดี ๆ แบบนี้เหมาะที่สุดครับที่จะขึ้นไปดองตุง จังหวัดเชียงราย มีงาน “สีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 8” จัดขึ้นทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ได้ชมงานแบบถนนคนเดินท่ามกลางลมหนาว ชิมอาหารพื้นเมือง ช็อปงานคราฟต์ ชมการแสดงของชนเผ่า สนุกกับเทคโนโลยีเสมือนจริง AR ตามหา “โต” สัญลักษณ์แห่งความโชคดี (เป็นสัตว์ตัวขาวมีเขา) และที่สำคัญที่สุดหนังสือภาพ “สวัสดีดอยตุง” จะวางขายที่เฉพาะดอยตุงเท่านั้นนะครับ https://www.facebook.com/DoiTungClub

………………………………………..
คอลัมน์ : ก้อนเมฆเล่าเรื่อง
โดย “น้าเมฆ”
https://facebook.com/cloudbookfanpage