ถือเป็นอีกซีรี่ส์ฟอร์มยักษ์ที่แฟน ๆ เฝ้ารอเป็นอย่างมาก สำหรับ “ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด : อาชินแห่งเผ่าเหนือ (Kingdom: Ashin of the North)”  ภาคแยกพิเศษ  มีความยาว 92 นาที ต่อยอดจากซีรีส์ “ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด (Kingdom)”  ทาง “เน็ตฟลิกซ์ (Netflix)”  โดยครั้งนี้จะเล่าถึงจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง เป็นเรื่องราวปูมหลังของ “ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด” ที่เกิดขึ้นแถบแม่น้ำอัมนก เล่าถึงเรื่องราวของ “อาชิน” หญิงสาวลึกลับจากแดนเหนือ รวมทั้งจุดกำเนิดของการค้นพบสมุนไพรคืนชีพ  ซึ่งเป็นต้นตอของหายนะในโชซอน โดยยังได้ คิมซองฮุน ผู้กำกับมือดี กลับมาผนึกกำลังกับนักเขียนบท “คิมอึนฮี”  สร้างความตื่นเต้นอีกครั้ง

ที่สำคัญยังได้ซูเปอร์สตาร์ตัวแม่ของเกาหลี อย่าง จอนจีฮยอน มารับบท “อาชิน”  สมทบด้วยทัพนักแสดงอีกคับคั่ง ทั้ง พัคบยองอึน ในบท “มินชีรก”  , คิมชีอา ในบท “อาชิน”  วัยเด็ก, คิมรเวฮา ในบท “ทาฮับ” และ คูคโยฮวัน  ที่สร้างความประทับใจแฟน ๆ ใน “Peninsula” มาแล้ว มารับบท “ไอดากัน” ล่าสุดได้มีการจัดงานแถลงข่าวออนไลน์เปิดตัวซีรี่ส์ “ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด: อาชินแห่งเผ่าเหนือ” งานนี้ “ฮาอึน” เลยไม่พลาดนำบรรยากาศการพูดคุยครั้งนี้  รวมทั้งนำเรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับซีรี่ส์นี้มาฝากกันแบบจัดเต็ม

นี่คือการกลับมาแสดงซีรี่ส์ในรอบ 5 ปีของ จอนจีฮยอน หลังจากจบ “The Legend of the Blue Sea” โดยนักแสดงสาวได้พูดถึงการทำงานครั้งนี้ว่า ฉันได้ปรากฏตัวในตอนจบของ ‘คิงดอม’ ซีซั่น 2  แล้วผู้คนรอบตัวฉันมีปฏิกริยาแบบว่า ‘ทำไมฉันถึงไปปรากฏตัวที่นั่นนะ?’ ซึ่งฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ร่วมแสดงในเรื่องราวเหล่านี้ พร้อมขยายโลกทัศน์ของซีรี่ส์ด้วยตัวละคร ‘อาชิน’ ค่ะ

นอกจากนี้ จอนจีฮยอน  ยังเผยอีกว่า “ฉันเป็นแฟนตัวยงของคุณนักเขียน ‘คิมอึนฮี’ มานานแล้วค่ะ ตอนที่ฉันได้เจอกับคุณนักเขียนเป็นการส่วนตัว ก่อนที่จะได้รับการเสนอบทบาทนี้ ฉันได้บอกกับเธอว่าให้ฉันเล่นเป็นซอมบี้ในเรื่อง ‘คิงดอม’ ก็ได้ ฉันดีใจและรู้สึกขอบคุณมาก ที่เธอได้ให้บทบาทที่ยิ่งใหญ่นี้กับฉัน สำหรับบท ‘อาชิน’ นั้นเธอลงท้ายด้วยการใช้ชีวิตอยู่อย่างเจ็บปวดแสนสาหัส เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คุณสามารถคิดได้เลยว่าเธอนั้นเป็น ‘คนป่าเถื่อน’  ที่อาศัยอยู่ใต้ปราสาท พวกเขานั้นโดนข่มเหงและดูถูกเหยียดหยาม เพราะพวกเขาไม่มีถิ่นที่อยู่ไหนเป็นของตัวเองเลยค่ะ”

สำหรับการเตรียมตัวมารับบท“อาชิน” นี้ จอนจีฮยอน  บอกว่า“อย่างแรกคือฉันออกกำลังกายตลอดอยู่แล้ว เรื่องพื้นฐานร่างกายไม่น่ากังวลสำหรับบทแอ็กชันทั่วไป แต่พอรับบท ‘อาชิน’ ฉันต้องฝึกเรื่องการยิงธนูเพิ่มขึ้นเยอะมาก เพื่อให้สมบทบาทที่สุด เพราะ ‘อาชิน’  สามารถจับซอมบี้ได้ด้วยธนูเพียงลูกเดียว ฉันคิดว่าพื้นฐานของร่างกายช่วยฉันได้มากในการแสดงฉากแอ็กชันตอนพิเศษนี้ ซึ่งการเรียนการยิงธนูค่อนข้างยากมาก ส่วนเรื่องการแสดง ตอนฉันอ่านบทตอนพิเศษนี้จบ ฉันคิดถึง ‘อาชิน’ ตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบ ฉันคิดว่ามันยากมาก เนื่องจากต้องการคาแรกเตอร์และความรู้สึกที่หลากหลาย ซึ่งเป็นการบ้านที่ยากมากสำหรับฉันเหมือนกัน  และก็ค่อนข้างกดดันมาก เพราะ ‘คิงดอม’ เป็นซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง และเป็นที่รักของแฟนทั่วโลก ฉันกดดันในเรื่องที่ว่าการเข้ามาร่วมงานของฉันจะไม่ทำให้เกิดผลแง่ลบกับซีรีส์  ฉันเลยตั้งใจทำงานของตัวเองในบท ‘อาชิน’ เพื่อให้ออกมาดีที่สุดค่ะ”

ก่อนที่เธอจะฝากว่า “จริง ๆ ฉันยังไม่ได้ดู ‘คิงดอม : อาชิน ออฟ เดอะ นอร์ท’  ที่เป็นไฟนอลคัตเลย  ซึ่งฉันรอคอยมาก ๆ ค่ะ และฉันก็หวังว่าแฟน ๆ ทั่วโลกจะรอคอยชมผลงานเรื่องนี้เช่นกันนะคะ”  

 นักเขียนบท “คิมอึนฮี” และ ผู้กำกับ “คิมซองฮุน” รวมตัวอีกครั้ง เพื่อสร้างสรรค์ผลงานมหากาพย์

คู่หูนักเขียนบทและผู้กำกับรวมตัวกันอีกครั้งเพื่อสร้างสรรค์ผลงานมหากาพย์ใน “ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด: อาชินแห่งเผ่าเหนือ” หลัง “ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด” ซีซั่น 1 แสดงให้เห็นถึงการปะทะกันของฝ่ายผู้กระหายอำนาจ ความยากจนและปัญหาขาดแคลนของชาวบ้าน และหายนะที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคร้าย  ส่วนในซีซั่น 2 นั้นเต็มไปด้วยการนองเลือดและสงครามช่วงชิงอำนาจ สาระสำคัญของ “ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด: อาชินแห่งเผ่าเหนือ” จากมุมมองของผู้กำกับ คิมซองฮุน คือ “ฮัน” (ความอาฆาตแค้น) ‘ความอาฆาตแค้นที่แสดงให้เห็นใน ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด: อาชินแห่งเผ่าเหนือ ไม่ใช่ความรู้สึกส่วนตัวของบุคคล แต่เป็นความรู้สึกโกรธแค้นของกลุ่มชน’ ผู้กำกับคิม เสริม  เขาบอกนักเขียนบททันทีที่ได้อ่านบทว่า นี่เป็น ‘ผลงานที่สมบูรณ์แบบมากที่สุดในบรรดาผลงานของคุณ’ และตัวละครหลักอย่าง “อาชิน” ก็สามารถถ่ายทอดและสื่ออารมณ์ของความอาฆาตแค้นออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม 

“อาชิน”  เป็นหนึ่งในชนเผ่าซองจอยาอิน ที่อาศัยอยู่ชายแดนแคว้นเหนือของโชซอน และต้องทนทรมานกับความหนาวเหน็บ ความยากจน และการถูกเหยียดเผ่าพันธุ์อันเป็นผลจากการที่พวกเขาไม่นับเป็นประชากรของฝ่ายใด  “อาชิน” ไม่ได้รับยาเพื่อรักษาแม่ของเธอที่กำลังป่วย  เธอบังเอิญเจอพืชชนิดหนึ่งซึ่งสามารถช่วยให้คนตายฟื้นคืนชีพได้  ทว่าทั้งหมู่บ้านและเธอกลับได้รับหายนะและสูญเสียทุกอย่างภายในชั่วข้ามคืน เธอจึงอุทิศชีวิตที่เหลือตัวคนเดียวให้กับการแก้แค้นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโศกนาฏกรรมที่เธอต้องเผชิญ ทางเลือกของ “อาชิน”  และผลลัพธ์ที่เธอต้องเผชิญแสดงให้เห็นจุดที่น่าสนใจของ “ฮัน” ความอาฆาตแค้นซึ่งเป็นจิตใต้สำนึกที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชาวเกาหลี

พูดคุยผู้เขียนบท  “คิมอึนฮี” และผู้กำกับ “คิมซองฮุน”

ด้วยจินตนาการอันเลิศล้ำและความพิถีพิถันในการเขียนบท  คิมอึนฮี นักเขียนบทได้นำพา “K-zombie” ในวิสัยทัศน์ของเธอให้ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก เธอได้แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของซีรีส์ “ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด” ผ่านปูมหลังของตอนพิเศษ “ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด: อาชินแห่งเผ่าเหนือ” ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ชมทั่วโลกเป็นอย่างมาก คิมกล่าวว่าตอนพิเศษความยาว 92 นาทีนี้ “เกิดขึ้นได้เพราะความสนใจและเสียงตอบรับอย่างล้นหลามจาก “ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด ซีซั่น 2” เธออยากเขียน “อาชิน” ให้เป็นตัวละครซึ่งอาศัยอยู่ทางแคว้นเหนือของโชซอนที่มีความซับซ้อน และรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจในความไร้ตัวตนของเธอ นอกจากนี้เรื่องราวของอาชินยังเกี่ยวโยงกับแหล่งกำเนิดของสมุนไพรคืนชีพที่ผู้ชมต่างพากันสงสัยอีกด้วย

 Q. “ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด: อาชินแห่งเผ่าเหนือ”  มีเรื่องราวเป็นอย่างไรเป็นเรื่องเกี่ยวกับ?

คิมอึนฮี : ตัวละครที่ปรากฏตัวให้เห็นสั้นๆ ในตอนจบของซีซั่น 2 ‘อาชิน’ อาศัยอยู่เขตชายแดนทางตอนเหนือของโชซอน ทว่าตัวเธอเองก็เป็นคนชายขอบ ไม่มีตัวตนที่แน่ชัด เธอไม่สามารถบอกได้ว่ารากเหง้าของเธอมาจากที่ไหน เธอจึงต้องการค้นหาตัวตนที่แท้จริงของเธอ

Q. สิ่งที่นำมาสู่การถือกำเนิดของตอนพิเศษนี้ขึ้นมาคืออะไร?

คิมอึนฮี : ปูมหลังของ ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด: อาชินแห่งเผ่าเหนือ เป็นเรื่องที่เกิดก่อนเหตุการณ์ต่างๆในซีซั่น 1 ภาคพิเศษนี้เล่าถึงจุดกำเนิด  ฉันจึงอยากเซตทุกอย่างให้ถูกต้องเริ่มจากจุดเริ่มต้น  จากที่ได้หารือกับเน็ตฟลิกซ์ มีข้อเสนอแนะให้สร้างตอนพิเศษนี้ขึ้นมาและฉันก็ตอบตกลงด้วยความเต็มใจ

Q. การสรรค์สร้างตัวละคร “อาชิน” มีที่มาอย่างไร?

คิมอึนฮี :  ตอนเขียนบทซีซั่น 1 และ 2 ฉันเกิดไอเดียให้สมุนไพรคืนชีพให้มีคุณสมบัติทนทนต่ออากาศหนาว หลังจากนั้นฉันก็เริ่มสนใจเกี่ยวกับแผ่นดินทางภาคเหนือของโชซอนมากขึ้น อย่างเช่น ฐานทัพด่านนอก 4 แห่งที่ถูกทำลาย และที่ราบสูงแคมา(แคมาโกวอน) แล้วก็เริ่มเอารายละเอียดเหล่านั้นมาปะติดปะต่อกัน ฉันเลยเกิดไอเดียว่าตัวละครหลักน่าจะมาจากภูมิภาคไหน  ฉันคิดว่าตัวละครอาชินจะไม่มีวันได้ปรากฏต่อสายตาโลกแล้วเสียอีก แต่ด้วยเสียงตอบรับและความสนใจอย่างล้นหลามในซีซั่น 2 ทำให้ ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด: อาชินแห่งเผ่าเหนือ ได้ถูกสร้างขึ้นมา การเขียนบทตอนพิเศษนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่า และอาชินเป็นตัวละครที่ฉันอยากเขียนขึ้นมามากๆ ฉันจึงรู้สึกขอบคุณมากที่ได้รับโอกาสนี้

Q. จุดสำคัญของ “ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด: อาชินแห่งเผ่าเหนือ” คืออะไร?

คิมอึนฮี :  ตอนเขียนบทฉันครุ่นคิดถึงความทุกข์ทรมานและความโกรธแค้นของอาชิน “ฮัน” (ความอาฆาตแค้น) เป็นธีมหลักของการสร้างตัวละครเธอขึ้นมา

Q. อยากฝากอะไรถึงผู้ชมที่อยู่ทั่วโลกไหม?

คิมอึนฮี : ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด: อาชินแห่งเผ่าเหนือ จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากปราศจากความรักจากทุกคน ฉันรู้สึกขอบคุณมากและหวังว่าตอนพิเศษนี้จะเป็นไปตามที่ทุกคนคาดหวัง พวกเราเต็มที่กันมากและหวังว่าทุกคนจะสัมผัสถึงความตั้งใจนี้ได้ค่ะ

ในฐานะผู้กำกับ “ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด”  และโปรดิวเซอร์ของซีซั่น 2  ผู้กำกับ คิมซองฮุน ได้ตีแผ่ภาพลักษณ์ใหม่ของ “K-zombie”  จากทิวทัศน์ที่มีแต่ความน่าหวาดกลัว ปรับให้ดูสวยงามด้วยฉากหลังของอาณาจักรโชซอน  เขาได้กลับมานั่งแท่นผู้กำกับใน “ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด: อาชินแห่งเผ่าเหนือ” ซึ่งเป็นโปรเจคที่เขาตั้งตารอคอยตั้งแต่มีการพูดคุยว่าจะสร้างตอนพิเศษระหว่างซีซั่น2  เขายกเครดิตให้กับทีมงานโปรดักชั่นสำหรับความสำเร็จในการถ่ายทำพร้อมกล่าวว่า “ฉากเคลื่อนไหวที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็วและเปี่ยมด้วยพลัง จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากปราศจากความตั้งใจของทีมงาน  เราต้องถ่ายทำแต่ละฉากซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่รู้กี่สิบรอบ  ผมรู้สึกขอบคุณพวกเขาทุกวัน”  ตลอด 92 นาทีของการดำเนินเรื่องนี้ ผู้กำกับ คิมซองฮุนได้ถ่ายทอดการแก้แค้นของ “อาชิน” ที่เกิดขึ้นแถบแม่น้ำอัมนก ซึ่งแปลกใหม่และมีความแตกต่างจากซีรีส์ ‘ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด” ก่อนหน้านี้

Q. ความรู้สึกที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ “ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด: อาชินแห่งเผ่าเหนือ”?

คิมซองฮุน :  ผมไม่คิดมาก่อนเลยว่าซีรีส์เรื่องนี้จะมาไกลขนาดนี้ ตอนเริ่มแรกผมคิดว่าคงมีโอกาสได้ร่วมงานกับนักเขียนคิมอึนฮีแค่ครั้งครั้งเดียว ผมชอบที่เรื่องราวในตอนนี้เล่าถึงจุดกำเนิดของ Kingdom และทำให้โลกอีกใบดูสวยงามด้วยความงามในตัวของมันเอง ซึ่งไม่เคยได้เห็นในซีซั่น 1และ 2  นั่นเป็นปัจจัยที่จูงใจผมมากที่สุด

Q. ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการกำกับของคุณคืออะไร?

คิมซองฮุน :  ต่างจากซีซั่น 1 และ 2 ภาคพิเศษ ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด: อาชินแห่งเผ่าเหนือ นั้น มีฉากหลังเป็นชายแดนอันไกลโพ้นทางแคว้นเหนือของโชซอนซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำอัมนก  มันเป็นโลเคชั่นที่แปลกใหม่สำหรับเราทุกคน และการสร้างฉากหลังให้ดึงดูดผู้ชมเป็นหน้าที่หลักของพวกเรา  พวกเราให้ความสำคัญกับการสร้างฉากระทึกใจและฉากการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วที่ดูสมจริงในช่วงครึ่งตอนแรก ในครึ่งตอนหลังเรายังคงเน้นที่ความระทึกและย่างก้าวของความเคลื่อนไหว โดยผสมผสานองค์ประกอบของอารมณ์โศกเศร้าเข้าไปด้วย

Q. คุณได้พูดคุยกับ “จอนจีฮยอน” เกี่ยวกับตัวละคร “อาชิน” ว่าอย่างไรบ้าง?

คิมซองฮุน :   ผมมองภาพอาชินเป็นตัวละครที่ซ่อนความเจ็บปวดที่ฝังลึกไว้ในใจ ไม่สามารถบรรยายออกมาได้  ก่อนเปิดกล้องผมมีโอกาสคุยกับคุณจอนจีฮยอนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับตัวละคร  ตอนถ่ายทำจริงเธอแสดงอารมณ์ได้อย่างยอดเยี่ยมสมกับเป็นมืออาชีพมากๆ  จนผมได้แต่ยืนมองอยู่นิ่งๆ

Q. อยากฝากอะไรถึงผู้ชมที่อยู่ทั่วโลกไหม?

คิมซองฮุน :   ขอบคุณผู้ชมทั้งในและต่างประเทศทุกคนมากๆที่ติดตามชม และสนับสนุนพวกเรามาตลอดทั้งซีซั่น 1 และ 2 และหวังว่าทุกคนจะรอชม ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด : อาชินแห่งเผ่าเหนือ เช่นกัน

เกร็ดเรื่องราว

การบุกรุกของกองทัพญี่ปุ่นสร้างความเสียหายให้ดินแดนตอนใต้ของ อาณาจักรโชซอน ในขณะที่การเริ่มต้นของหายนะครั้งใหม่กำลังเริ่มขึ้นในภูมิภาคทางตอนเหนือ ชาวหนี่ว์เจินขยายเผ่าพันธุ์อย่างกว้างขวางบนแผ่นดินของแคว้นแมนจูเรีย พวกเขาเริ่มผนึกกำลังกันภายใต้การควบคุมอำนาจของ “ชนเผ่าพาจอวี” (ชนเผ่าหนี่ว์เจินที่ตั้งรกรากอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำพาจอ และเริ่มขยายอาณาเขตออกเป็นวงกว้าง) แห่งลุ่มแม่น้ำพาจอ (ปัจจุบันคือ “แม่น้ำฮั่น” ในประเทศจีน)  กลุ่มผู้มีอิทธิพลและโหดเหี้ยมทารุณ คำจีนโบราณกล่าวไว้ว่า “หากชาวหนี่ว์เจิน 10,000 คนรวมตัวกัน พลังใดๆ ในโลกก็ไม่สามารถหยุดยั้งพวกเขาได้”

เจ้าหน้าที่ทางการของโชซอนเคลือบแคลงเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของ “ชนเผ่าพาจอวี” และต้องการสืบเบาะแสเพื่อจับตาดูไม่ให้พวกเขารุกล้ำอาณาเขต ทางการจึงใช้ประโยชน์จากชาวหนี่ว์เจินอีกกลุ่มหนึ่งที่เรียกกันว่า “ซองจอยาอิน” (ชาวชนบทที่อาศัยอยู่รอบ ๆ ป้อมรักษาการใกล้ชายแดนจังหวัดฮัมกยอง โชซอนอนุญาตให้ชนเผ่าหนี่ว์เจินพำนักอาศัยได้ในบริเวณแถวป้อมรักษาการ 5 แห่ง ยกเว้นพูรยอง) เป็นจารชน พวกเขาเป็นชาวหนี่ว์เจินที่พำนักอยู่ในอาณาจักรโชซอนมายาวนานกว่าร้อยปี ทว่าพวกเขาไม่ใช่ทั้งคนของ “โชซอน” และ “หนี่ว์เจิน” แต่เป็นแค่กลุ่มชนที่ถูกข่มกดขี่และไม่ได้รับการยอมรับ

เปิดที่มา อาชินแห่งเผ่าเหนือ

การกลับมาของ “ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด : อาชินแห่งเผ่าเหนือ (Kingdom: Ashin of the North)”  ตอนพิเศษ ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ไปทั่วโลก โดยการผสมผสานความบ้าคลั่งของ “K-zombie” เข้ากับความงดงามของอาณาจักรโชซอน ไม่ว่าจะเป็นพระราชวัง เครื่องแต่งกายประจำชาติและราชวงศ์ และเครื่องประดับศีรษะอันสง่างาม

คิมอึนฮี นักเขียนบท เกริ่นถึงตอนพิเศษตอนใหม่นี้ว่าเป็น ‘จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง ต้นตอของทั้งหมดทั้งมวล’ ใน “ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด” ซีซั่นแรก เริ่มต้นด้วยการแพร่ระบาดของโรคร้ายในเมือง  ทงเร  (จังหวัดปูซานในปัจจุบัน) ซึ่งอยู่เหนือการควบคุม ผู้ที่ติดเชื้อไม่ถือว่าตายแต่ก็ไม่ได้มีชีวิต จนในซีซั่น 2 เริ่มลุกลามขึ้นไปทางเหนือสู่พระราชวังซึ่งตั้งอยู่ในเมืองหลวง อย่าง  ฮันยาง  สำหรับ “ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด : อาชินแห่งเผ่าเหนือ” ดำเนินเรื่องโดยมุ่งขึ้นไปทางแคว้นเหนือซึ่งมีภูมิอากาศหนาว โดยในตอนจบของซีซั่น 2 “อีชาง” และสหายได้เดินทางไปแคว้นเหนือเพื่อค้นหาแหล่งกำเนิดของสมุนไพรคืนชีพและได้เผชิญหน้ากับ “อาชิน” การปรากฏตัวเพียงชั่วพริบตาของตัวละครใหม่สร้างความสงสัยใคร่รู้ให้แก่ผู้ชมไม่น้อยเลยทีเดียว

“ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด:  อาชินแห่งเผ่าเหนือ” จะมาไขความลับของตัวละคร “อาชิน” และสมุนไพรคืนชีพที่เป็นต้นเหตุการแพร่กระจายของโรคระบาดใน  โชซอน  ผู้กำกับ คิมซองฮุน บรรยายถึงภาคพิเศษนี้ไว้ว่าเป็น ‘โลกใบใหม่ที่ไม่เคยเผยให้ชมใน ซีซั่น 1 และ 2 โลกที่ความงดงาม ความทนทุกข์ทรมาน และปมลึกลับผสานรวมอยู่ด้วยกัน’

นักเขียนบท คิมอึนฮี มีเหตุผลสำคัญที่เลือกดินแดนทางตอนเหนือเป็นปูมหลัง ขณะที่เขียนบทซีซั่นก่อนหน้านี้ เธอจินตนาการให้สมุนไพรคืนชีพมีคุณสมบัติ “ทนต่อสภาพอากาศหนาว” เธอจึงเริ่มสนใจเกี่ยวกับอาณาเขตทางตอนเหนือ เช่น ฐานทัพด่านนอก 4 แห่งที่ถูกทำลาย และที่ราบสูงแคมา (แคมาโกวอน)   จากการค้นคว้าเธอพบบันทึกเกี่ยวกับฐานทัพที่ถูกทำลายทั้ง 4 แห่งและป้อมเมือง 6 แห่งที่ถูกสร้างขึ้นระหว่างแม่น้ำอัมนกและแม่น้ำดูมัน เพื่อใช้ทางยุทธศาสตร์ในราชวงศ์พระเจ้าเซจง (ฐานทัพด่านนอก 4 แห่งที่ถูกทำลาย: ฐานทัพทหารที่ก่อตั้งขึ้นในสมัยราชวงศ์ของพระเจ้าเซจงและถูกทำลายทิ้งในปีค.ศ.1495) 

เธอจึงลองจินตนาการว่าถ้าสมุนไพรคืนชีพสามารถเติบโตได้บนผืนดินที่กว้างขวางและเป็นเขตหวงห้ามที่ห้ามย่างกรายเข้าไป ก็น่าจะเชื่อมโยงกับ “ชาวซองจอยาอิน” ซึ่งอาศัยอยู่แถบนั้น จินตนาการของเธอได้ถูกสร้างขึ้นจริงใน “ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด: อาชินแห่งเผ่าเหนือ” เรื่องราวเกิดขึ้นที่ชายแดนของแคว้นเหนือในสมัยก่อนจะเกิดเหตุการณ์ทั้งหมดในซีซั่น 1 ตอนพิเศษนี้เล่าเรื่องของ “อาชิน” ผู้ค้นพบสมุนไพรคืนชีพโดยบังเอิญราวฟ้าลิขิต ซึ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจและความคาดหวังจากผู้ชมเป็นอย่างมาก

โลเคชั่นงดงาม โปรดักชั่นถ่ายทอดความสง่า และมีชีวิตชีวา

ผู้กำกับ คิมซองฮุน ให้เหตุผลที่เขากลับมาร่วมงานในภาคพิเศษนี้ว่า เป็นเพราะเนื้อเรื่องเกี่ยวกับจุดเริ่มต้นของ “ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด” ที่ดึงดูดเขา เขาเข้าใจตัวเรื่องได้อย่างดีมากจนนักเขียนบทถึงกับชมว่า ‘เขารู้ตรงจุดว่าฉันต้องการจะสื่ออะไรในแต่ละฉาก ซึ่งอาจเป็นเพราะเขาอ่านบทของฉันหลายรอบมาก’ ใน  “ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด: อาชินแห่งเผ่าเหนือ” เล่าถึงที่มาของสมุนไพรคืนชีพ ซึ่งทนทานต่ออากาศหนาวเย็นในภูมิภาคเหนือของโชซอน ตัวฉากนำเสนอทิวทัศน์ของแผ่นดินที่กว้างใหญ่ ล้อมรอบไปด้วยเขาที่รายล้อมป่าสนสีน้ำเงินทึมๆ  ผู้ชมจะได้เห็นความงดงามของทิวทัศน์ที่แตกต่างจากซีซั่นก่อน  แม้จะไม่สามารถถ่ายทำบริเวณแม่น้ำอัมนกได้จริง แต่ทีมโปรดักชั่นได้ตระเวนไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อค้นหาและสร้างจุดเด่นของมหากาพย์นี้ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นป่าสนที่ให้บรรยากาศสมัยดึกดำบรรพ์ แม่น้ำอัมนกที่สว่างไสวสะท้อนเงาพระจันทร์ และทุ่งต้นอ้อและที่ราบที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ 

ผู้กำกับ คิมซองฮุน กล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า ‘เราทำภารกิจค้นหาโลเคชั่นที่สะดุดตา  ผู้ชมสามารถเพลิดเพลินไปกับการคาดเดาที่ตั้งของโลเคชั่นที่ถ่ายทำ และต้องถามเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาไปถ่ายทำกันที่ไหนนะ’ เขากล่าวว่าเป้าหมายของทีมโปรดักชั่นในการผลิตผลงานชิ้นนี้คือ ‘ถ่ายทอดความสง่างาม และความมีชีวิตชีวา’  นอกจากนี้ฉากไล่ล่าที่น่าตื่นเต้นที่เกี่ยวข้องกับผู้ติดโรคระบาดก็ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง จากการติดเชื้อในคน ไปถึงการแพร่ระบาดไปยังเสือที่ดุร้าย

แนะนำตัวละคร ลงลึกคาแรกเตอร์

จอนจีฮยอน นำทีม พัคบยองอึน, คิมชีอา, คิมรเวฮา และ คูคโยฮวัน มาวาดเขียนเรื่องราวบทใหม่ ใน 92 นาทีที่เต็มไปด้วยการแสดงที่ได้อรรถรสและเนื้อเรื่องอันเข้มข้น

‘ถ้าเปรียบ ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด ซีซั่น 1 เป็นตอม่อซึ่งเป็นรากฐานของโลก “Kingdom” แล้ว ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด: อาชินแห่งเผ่าเหนือ ก็เปรียบเสมือนหินขั้นบันไดที่จะพาคุณก้าวผ่านไปยังที่ที่เหนือกว่า’ ผู้กำกับ คิมซองฮุน กล่าว

“ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด: อาชินแห่งเผ่าเหนือ” ดำเนินเรื่องราวผ่านตัวละครในแคว้นเหนือ และ จอนจีฮยอน ได้ทำให้แฟน ๆ ทั่วโลกฮือฮากับการปรากฏตัวเพียงชั่วครู่ของเธอในตอนจบของซีซั่น 2  เธอสวมบทเป็น “อาชิน” ผู้ค้นพบสมุนไพรคืนชีพ ซึ่งเป็นต้นเหตุของหายนะใน โชซอน  “อาชิน”  เติบโตในบริเวณชายแดนริมแม่น้ำอัมนก เธอเป็นหนึ่งในชาวซองจอยาอิน ที่ไม่ได้รับการยอมรับ ถูกเหยียดเผ่าพันธุ์ และต้องเจ็บปวดจากการสูญเสียผู้คนที่เธอรัก

ตัวละคร “อาชิน” ที่นักเขียน คิมอึนฮี สร้างขึ้นเป็นตัวละครที่  “เปรียบเสมือนนักรบที่มีแผลลึกฝังใจ” เหมาะสมกับ จอนจีฮยอน เป็นที่สุด หลังการหารือกับผู้กำกับ คิมซองฮุน หลายต่อหลายครั้งในการคราฟต์ตัวละครของเธอ จอนจีฮยอน ไม่เพียงแต่แสดงบทต่อสู้ได้อย่างมืออาชีพ แต่เธอสามารถสื่อความเจ็บปวด ความแค้น และความทุกข์ทรมานที่เก็บฝังลึกไว้ในใจได้อย่างดีเยี่ยม นักเขียนบทชื่นชมการพลิกบทบาทของ จอนจีฮยอน ซึ่งรับบทเป็น “อาชิน”  ว่า ‘จอนจีฮยอนเป็นนักแสดงที่สื่ออารมณ์ภายในและความเจ็บปวดออกมาได้ดี ฉันไม่คิดว่าจะมีนักแสดงคนไหนที่จะเหมาะสมกับบทอาชินเท่ากับเธออีกแล้ว’

ส่วน พัคบยองอึน ผู้รับบท “มินชีรก” หัวหน้ากองทัพทหารหลวง ผู้อารักขาวังหลวงและติดตาม รัชทายาทอีชาง ในซีซั่น 2 “มินชีรก” เป็นเคยเป็นเจ้าหน้าที่ทหารคุ้มกันอยู่ชายแดนของแคว้นเหนือ  เขาใช้ชาวซองจอยาอินเป็นจารชนเพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มชน “พาจอวี” รุกล้ำอาณาเขตและยึดครองอำนาจ  พัคบยองอึน ได้ใส่ความเข้มข้นและดุเดือดลงไปในการสวมบทบาท “มินชีรก” ซึ่งเป็นตัวละครที่มีหลายแง่มุมและต้องการเสียสละเพื่อเหตุผลที่ยิ่งใหญ่กว่า เขาจริงจังกับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายและการคุ้มครองประเทศ โชคชะตานำพาเขามาพบกับอาชินซึ่งเป็นต้นตอของหายนะทั้งหมด และต้องรอติดตามต่อไปว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไร

การแคสต์นักแสดงและตัวละครมีความน่าเชื่อถือ รวมไปถึงนักแสดงฝีมือดี อย่าง  คิมชีอา  ผู้รับบทเป็น “อาชิน” ในวัยเด็ก ถือเป็นนักแสดงที่ความสามารถเกินตัวเมื่อเทียบกับอายุของเธอ  เธอมีบทบาทสำคัญในช่วงครึ่งแรกของเรื่อง เมื่อโชคชะตาได้นำพาให้ “อาชิน” ในวัยเด็กเป็นผู้ค้นพบสมุนไพรคืนชีพที่ช่วยให้คนตายฟื้นคืนชีพได้ที่บริเวณฐานทัพที่ถูกทำลาย

คิมรเวฮา นักแสดงซึ่งมีประสบการณ์การแสดงละครเวทีและผลงานทั้งทางจอเงินจอแก้วมานานกว่า 30 ปี รับบทเป็น “ทาฮับ” พ่อของ “อาชิน” จากที่นักเขียน คิมอึนฮี ได้อธิบายถึง “ทาฮับ” ว่าเป็นตัวละครที่ ‘แสดงให้เห็นความยืดหยุ่นของมนุษย์’ และความสำนึกในบุญคุณและจงรักภักดีต่ออาณาจักรโชซอนที่ให้ที่พักพิงแก่บรรพบุรุษของพวกเขา ผู้กำกับ คิมซองฮุน ได้กล่าวชม คิมรเวฮา ว่า ‘คิมรเวฮาเป็นนักแสดงที่อ่อนโยนแต่แข็งแกร่ง เขาสามารถดึงเสน่ห์แสนอบอุ่นของทาฮับออกมาได้อย่างดี’

คูคโยฮวัน นักแสดงชายคุณภาพที่สวมทุกบาทที่เขาได้รับได้อย่างน่าทึ่ง  เขารับบทเป็น “ไอดากัน” หัวหน้าเผ่าพาจอวี ผู้ที่ขู่จะยึดอำนาจแคว้นเหนือของโชซอน เป็นตัวละครที่นักเขียนบท คิมอึนฮี ภูมิใจนำเสนอในฐานะผู้นำที่โหดร้ายป่าเถื่อน เขาทำให้เนื้อเรื่องเข้มข้นและลุ้นระทึกมากขึ้น ‘คูคโยฮวันมีเอกลักษณ์ในการแสดงและครีเอทตัวละครที่ได้รับในรูปแบบที่น่าสนใจและคาดเดาไม่ได้’ ผู้กำกับคิม ซองฮุน ชื่นชมการแสดงของ คูคโยฮวัน

รู้จักนักแสดง

 “อาชิน (Ashin)”  นำแสดงโดย จอนจีฮยอน (Jun Ji-hyun)

“อาชิน” เป็นชาวเผ่าซองจอยาอินที่อาศัยอยู่แถบริมแม่น้ำอัมนกซึ่งอยู่ทางเหนือของโชซอน เธอได้ค้นพบภาพวาดบนกำแพงซึ่ง ไขความลับของสมุนไพรคืนชีพในป่าลึกซึ่งเป็นเขตของฐานทัพทั้งสี่ที่ถูกทำลายและเป็นเขตหวงห้ามที่ห้ามใครย่างกรายเข้าไป เมื่อเหลือตัวคนเดียวหลังจากครอบครัวและคนในหมู่บ้านถูกสังหารหมู่ “อาชิน” จึงมีเพียงความอาฆาตแค้น และเรียกร้องเพียงการยอมรับตัวตนของเธอเท่านั้นที่ยังคงหลงเหลืออยู่

การปรากฏตัวของ จอนจีฮยอน ได้ปิดฉากซีซั่น 2 อย่างสง่างาม และชวนให้ผู้ชมต่างพากันสงสัยเกี่ยวกับบทบาทของเธอ  จอนจีฮยอน กลายเป็นจุดสนใจ เมื่อเธอเป็นนักแสดงหญิงอายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมจากผลงานภาพยนตร์เรื่อง “My Sassy Girl” และเป็นนักแสดงหญิงคนแรกที่แสดงนำในภาพยนตร์ 2 เรื่องที่มียอดผู้ชมทะลุ 10ล้าน นั่นคือเรื่อง “The Thieves และ Assassination”   ความนิยมของเธอยิ่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากผลงานละคร  “My Love from the Star”  ซึ่งเป็นที่ฮอตฮิตไปทั่วโลก รวมทั้ง “The Legend of the Blue Sea” ก็กวาดหัวใจแฟน ๆ ไม่ใช่น้อย อิทธิพลในฐานะนักแสดงและคนดังสร้างกระแสความนิยมให้กับเธอตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าเธอจะรับบทโรแมนติก, ตลกหรือแอคชั่นก็ตาม  เธอเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด ในบทบาท “อาชิน”

ผู้กำกับ คิมซองฮุน ชื่นชมถึงตัวตนและความเป็นมืออาชีพของเธอว่า ‘ตั้งแต่เริ่มถ่ายทำ เธอได้พิสูจน์ให้พวกเราเห็นแล้วว่า เพราะเหตุใดเธอถึงเป็นนักแสดงที่ได้รับความนิยมมาตลอด 20 กว่าปี’ ทั่วโลกกำลังจับตามองว่า จอนจีฮยอนจะแสดงบทบาทอาชินซึ่งเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น ออกมาอย่างไร

“อาชิน” วัยเด็ก นำแสดงโดย คิมชีอา (Kim Si-a)

คิมชีอา เรียกน้ำตาจากผู้ชมในเรื่อง Miss Baek ซึ่งเธอรับบทเป็น “จีอึน” เด็กสาวที่ถูกผู้ปกครองของตัวเองกระทำทารุณกรรม  คิมชีอา เดบิวต์ผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอด้วยวัย 9 ปี เธอสร้างความแปลกใจให้กับทุกคนด้วยการแสดงที่เปี่ยมด้วยพลัง ถึงขั้นได้รับการขนานนามว่าเป็นนักแสดงเด็กที่มีความสามารถเกินวัย

บทบาทที่เธอได้รับก่อนหน้านี้ถือเป็นบทที่ไม่ปกติตามธรรมชาติชี้ให้เห็นลำดับพัฒนาการด้านการแสดงของเธอ ในเรื่อง “In Ashfall” เธอรับบทเป็น “ซอนอ๊ก” ลูกสาวของ รีจุนพยอง ผู้ป่วยโรคพิการทางสมอง  ในเรื่อง “The Closet” เธอรับบทเป็น “มยองจิน” เด็กสาวที่มีความบกพร่องทางการ จากความสามารถในการถ่ายทอดบทบาทในผลงานที่ผ่าน ๆ มาของเธอ ทำให้ผู้ชมตั้งตารอว่าเธอจะสื่อถึงความทุกข์ทรมานและความโกรธแค้นของ “อาชิน” ในวัยเด็กซึ่งเหลือตัวคนเดียวหลังจากสูญเสียครอบครัวอย่างกะทันหันออกมาอย่างไร

 “มินชีรก (Min Chi-rok)”  นำแสดงโดย  พัคบยองอึน (Park Byung-eun)

“มินชีรก” เป็นทหารผู้ซื่อสัตย์และยุติธรรม ที่คอยคุ้มกันเขตชายแดนทางตอนเหนือของโชซอน เขาไม่ลังเลที่จะใช้ชาว  “ซองจอยาอิน” เป็นจารชนเพื่อปกป้องแผ่นดินโชซอนจากกลุ่มชน ‘พาจอวี’ จอมอำมหิต

สำหรับ พัคบยองอึน ได้โชว์ฝีมือการแสดงผ่านบทบาทมากมาย ทั้งละครทีวี อาทิ Because This Is My First Life, Voice 3,  Arthdal Chronicles และ Oh My Baby รวมถึงผลงานภาพยนตร์เรื่อง Assassination, The Mayor, The Great Battle และ Seobok เป็นต้น  ใน “ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด” ซีซั่น 2 เขารับบทเป็น “มินชีรก” หัวหน้ากองทัพหทารผู้จงรักภักดีและคอยต่อกรกับศัตรูที่คิดแย่งชิงอำนาจ เขาทำสุดความสามารถเพื่อปกป้องฮันยางให้รอดพ้นจากการแพร่เชื้อของโรคระบาด ในตอนพิเศษนี้เขาได้กลับไปเผชิญกับแหล่งกำเนิดของสมุนไพรคืนชีพ ซึ่งเป็นต้นตอของหายนะทั้งหมด นักเขียนบทคิมอึนฮีพัฒนาตัวละครโดยตั้งคำถามกับตัวเองว่า “มินชีรก”  คือเสาหลักสำคัญที่คอยปกป้องชาติไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม แล้วถ้าเขาเป็นหัวหน้ากองทหารที่คุ้มครองแคว้นเหนือล่ะ เขาจะเลือกทำอย่างไร” เขาเป็นตัวละครที่ไม่มีการผ่อนปรนหากเป็นเรื่องการประพฤติผิดต่อชาติ

พัคบยองอึน สวมบทบาทที่เขาได้รับอย่างเต็มที่และคล่องแคล่ว ผู้กำกับ คิมซองฮุน ชื่นชมในความมุ่งมั่นของพัคบยองฮุนว่า ‘เทียบกับซีซั่น 2 แต่ละฉากในเรื่องนี้จำเป็นต้องใช้ความคล่องแคล่วและความแข็งแรงของร่างกายสูงมาก เขาได้ก้าวผ่านความท้าทายนั้น และความทุ่มเทของเขาทำให้ผลงานออกมาดีเยี่ยม’ คิม กล่าว

“ทาฮับ (Tahab)” นำแสดงโดย  คิมรเวฮา (Kim Roi-ha)

“ทาฮับ”  เป็นพ่อของ “อาชิน” และเป็นหนึ่งในชาวซองจอยาอินที่ถูกรังเกียจและถูกแบ่งแยก เขาจงรักภักดีต่อแผ่นดินโชซอนและหวังว่าสักวันหนึ่งตัวตนของเขาจะเป็นที่ยอมรับและได้รับตำแหน่งทางราชการ ด้วยความหวังเช่นนั้นเขาจึงเต็มใจเป็นส่วนร่วมในการจารกรรม

คิมรเวฮา สร้างอาชีพการแสดงที่มั่นคงผ่านผลงานละครเวทีและผลงานทั้งจอเล็กและใหญ่อีกมากมาย อาทิ ภาพยนตร์เรื่อง Memories of Murder, A Bittersweet, The Host as Iljimae และผลงานละครทีวีเรื่อง The Princess’s Man, Shine or Be Mad and Voice เป็นต้น  เขาได้นำประสบการณ์ที่สั่งสมมาหลายปีในฐานะนักแสดงมาใช้และแสดงออกมาอย่างเต็มที่ผ่านบทบาท “ทาฮับ”  บุคคลซึ่งอุปถัมภ์ครอบครัวและปกครองชาวบ้านในหมู่บ้านด้วยความอบอุ่น  คิม แสดงเป็นชาวซองจอยาอินที่ถูกเนรเทศและเร่ร่อนไปตามชายแดน เขาสามารถสื่อถึงความขมชื่นของ “ทาฮับ”  ที่ต้องเป็นสายสืบให้ทางการโชซอนเพราะหวังจะได้ตำแหน่งทางราชการได้อย่างสมบทบาท

 “ไอดากัน (Aidagan)” นำแสดงโดย  คูคโยฮวัน (Koo Kyo-hwan)

“ไอดากัน” เป็นหัวหน้าชนเผ่าพาจอวี  ตัวตั้งตัวตีในการรวบรวมชาวหนี่ว์เจินในขณะที่โชซอนกำลังวุ่นอยู่กับการรับมือพวกญี่ปุ่นบุกรุก นอกจากกุมอำนาจปกคลุมเขตชายแดนอันไกลโพ้น  เขาเริ่มขยายอาณาเขตแห่งความหวาดกลัวไปยังแผ่นดินใหญ่โชซอน เขาปกครองกองทัพของเขาอย่างอาจหาญและเหี้ยมโหด ไม่ว่าเขาเดินทางไปที่ไหน  ที่นั่นจะคงเหลือไว้เพียงเสียงกรีดร้องและกองเลือด

คูคโยฮวัน เดบิวต์ผ่านผลงานหนังสั้นเรื่อง “Boys” ในปี ค.ศ. 2008 และได้รับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากเรื่อง “Jane” ในงาน Baeksang Arts Awards ครั้งที่ 54  และได้รับรางวัลนักแสดงแห่งปีจาก Busan International Film Festival ครั้งที่ 21  เขาไม่เพียงสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองในฐานะนักแสดง แต่เขายังฝากผลงานการกำกับในอีกหลายผลงาน เช่น “Turtles” , “Where Is My DVD?” และ “Maggie”  เขาดึงดูดความสนใจจากผู้คนจำนวนมากในภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่เรื่องแรกของเขา “Peninsula”  ด้วยการรับบทเป็น “กัปตันซอ” ตัวละครที่บ้าคลั่ง  บวกกับน้ำเสียงและการแสดงที่บ้าระห่ำของเขาเป็นเครื่องการันตีว่าเขาเหมาะสมกับบทบาท “ไอดากัน” จอมโหดใน “ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด: อาชินแห่งเผ่าเหนือ”  เสน่ห์ที่ดูเยือกเย็นของเขาสามารถสร้างความหวาดกลัวให้ทุกคนที่เขาสบตา  ผู้กำกับ คิมซองฮุน กล่าวถึง คู ว่า ‘ทุกการปรากฏตัวของเขาจะเป็นที่ถูกจับตามอง’

เก็บข้อมูลพร้อมแล้ว ก็ออกไปผจญภัยครั้งใหม่ใน  “ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด : อาชินแห่งเผ่าเหนือ”  พร้อมกันในวันที่ 23  ก.ค. นี้ เวลา 14.00 น. ทาง “เน็ตฟลิกซ์” รวมทั้งติดตามอัพเดทข่าวสารอื่น ๆ ได้ที่ยูทูปช่อง Dailynews Live-TH  และเฟสบุ้ค Dailynews รวมทั้งทุกแพลตฟอร์มของ “เดลินิวส์”