นับเป็น “เน็ตไอดอล” อีกคนหนึ่งก็ว่าได้สำหรับ “พระกาโตะ” พระนักเทศน์ชื่อดัง ที่มีลีลาลูกเล่นตามแบบฉบับหนุ่มปักษ์ใต้ ที่เรียกเสียงฮาได้ตลอดให้ไปเทศน์ที่ไหน บวกกับการเทศน์ที่ไม่เหมือนใคร แถมมีคำคมสอนใจถูกใจวัยโจ๋

แต่ล่าสุดเกิดเป็นข่าวดัง เมื่อมีการปล่อยคลิปเสียงคล้าย พระกาโตะ พร้อมกับข้อความไลน์ตกลงกันระหว่างหญิงสาวรายหนึ่ง กับเสียงผู้ชายคนหนึ่ง ที่ระบุว่า เป็นพระนักเทศน์ภาคใต้ มีชื่อเสียงในโลกออนไลน์ ซึ่งเนื้อหาในคลิปพูดถึง หลวงพี่แอบมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวในรถยนต์ อ้างว่าไม่บาป จนโลกโซเชียลพูดว่าอาจจะเป็น “หลวงพี่กาโตะ” โดยล่าสุดพระกาโตะ ออกมาชี้แจงแล้วว่าไม่ใช่เสียงของตน

แต่เชื่อว่าหลายคนคงอยากจะรู้ประวัติที่ไปที่มา ของ “หลวงพี่กาโตะ” ก่อนจะมาเป็นนักเทศน์ดังและกลายเป็นเน็ตไอดอลในปัจจุบันว่ามีความเป็นมาอย่างไร

สำหรับ “หลวงพี่กาโตะ” หรือ พระพงศกร ปภัสสโร รักษาการเจ้าอาวาสวัดเพ็ญญาติ อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ก่อนบวชมีชื่อว่า พงศกร จันทร์แก้ว ชื่อเล่นว่า แรมโบ้ อายุ 23 ปี เริ่มบวชเมื่อปี 2560 โดยสัญญากับแม่ที่ป่วยด้วยโรคมะเร็ง ซึ่งก่อนหน้านี้ หลวงพี่กาโตะ ได้โควตาเรียนต่อมหาวิทยาลัย คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี แต่แม่ป่วยจึงตัดสินใจไม่เรียนต่อ ออกมาดูแลแม่แทน

ตอนอายุ 13 ปี “หลวงพี่กาโตะ” มีคณะของตัวเอง ชื่อว่า “คณะแรมโบ้ ศ.สุวรรณศิลป์” รับงานแสดงหนังตะลุง โดย “หลวงพี่กาโตะ” ได้นำเทคนิค ความรู้การพากย์หนังตะลุง มาใช้ในการเทศน์ สอนธรรมะ ให้ได้รับความสนุกและข้อคิด จนมีผู้ติดตามบน TikTok มากกว่า 368,100 บัญชี ช่องยูทูบมีคนดูคลิปสอนธรรมะมากกว่า 1,800,000 ครั้ง

ปัจจุบัน “หลวงพี่กาโตะ” ยังคงสอนธรรมะผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ทั้งเฟซบุ๊ก Youtube และ Tiktok ใช้ในการสอนธรรมะรูปแบบใหม่ ที่เน้นความฮา แต่แฝงไปด้วยสาระต่าง ๆ เพื่อให้คนรุ่นใหม่สามารถเข้าถึงพระพุทธศาสนาได้ง่ายขึ้น แม้จะไม่ต้องเข้าวัด พร้อมกับคำคมเด็ด ๆ เสมอ “ถ้าคิดว่าไหว ก็อย่าหยุด แต่ถ้าถึงที่สุด ก็อย่าฝืน”

แต่ที่เป็นกระแสดราม่าโด่งดังสนั่นโซเซียล เมื่อผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งได้เผยแพร่คลิปของ “หลวงพี่กาโตะ” ขณะเทศน์สอนให้นักศึกษาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราชฟัง เนื้อหาที่เทศน์ในบางช่วงบางตอนได้พูดถึง ม็อบราษฎรและเยาวชนปลดแอก โดยระบุว่า วัยรุ่นสมัยนี้ทำอาตมาปวดหัวมาก เที่ยวไปชู 3 นิ้วกัน พูดในนามพระเลยนะ เด็กวัยรุ่นบ้านเรานี่ดีหน่อยนึง โดยเฉพาะชาวใต้นี่ไม่เท่าไหร่ แต่ที่อื่นนี่น่าสงสารมากเที่ยวไปชู 3 นิ้วกัน

บางคนหุงข้าวยังไม่เป็นจะไปปฏิรูปประเทศแล้ว มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรา หน้าที่เราคือเรื่องเรียน และจริงๆ แล้ว 3 นิ้วที่พวกเธอชูน่ะผิดทั้งนั้น การชูสามนิ้วที่ถูกต้องคือ หนึ่ง-ชาติ สอง-ศาสนา สาม-พระมหากษัตริย์”

ดังนั้นเหตุการณ์ในครั้งนี้จะจบในรูปแบบใด ยังยากที่จะคาดเดา