กรณีนายวุฒิศักดิ์ หรือปุ่ง สมบัติ อายุ 39 ปี ระบุว่า ขโมยบัตร ATM ของนางสมหวัง สมบัติ อายุ 70 ปี อยู่เลขที่ 7/4 หมู่ 2 ต.สะแก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ แม่ของตัวเอง แล้วแอบไปกดเงิน 109,000 บาท จากนั้นได้เอาไปหว่านกลางถนนหน้าตลาดสดเทศบาลสตึก เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นมาทราบอีกที พบว่าเงินในบัญชีอีกบัญชี หายไปอีกกว่า 200,000 บาท เมื่อถามลูกบอกว่า เอาไปซื้อข้าวสารอาหารแห้งไปแจกชาวบ้านแล้วหมดเกลี้ยง
โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สร้างความคับแค้นใจให้นางสมหวัง เป็นอย่างมาก เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.นิธิวัฒน์ คำนนท์ สว.(สอบสวน) สภ.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เพื่อให้ช่วยติดตามเงินสดที่หายไปและอยากได้เงินที่คนเก็บไปกลับคืนมา ก่อน พ.ต.อ.วชิรวิทย์ วรรณธานี ผกก.สภ.สตึก อ.สตึก จะแจ้งเตือนผู้ที่เก็บเงินได้เอาเงินมาคืน เพราะเข้าข่ายผิดฐานรับของโจร แต่สุดท้ายมีคนเอาเงินมาคืนกับพนักงานสอบสวนเพียง 3,900 บาทเท่านั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 พ.ค. นายปุ่ง ได้ออกมาเปิดใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องจริง แต่ไม่ตรงกับข่าวที่ออกไปทั้งหมด โดยตนได้กดเงินออกมารวมกว่า 300,000 บาทจริง แต่ก่อนที่จะหว่านเงินได้กดไปซื้อของไปทำบุญให้พ่อ เงินที่เอาไปหว่าน ไม่ถึง 100,000 ตามที่เป็นข่าว แต่เอาเงินที่เหลือใน 3 แสน ไปซื้อข้าวสารอาหารแห้ง ไปให้ผู้ใหญ่บ้านแต่ละหมู่บ้าน ประกาศเสียงตามสายให้ชาวบ้านมารับฟรี แต่ไม่กล้าบอกแม่ กลัวโดนด่า
ส่วนสาเหตุที่เอาเงินไปหว่านและซื้อของแจกชาวบ้าน เพราะได้บนกับท้าวสุวรรณนาคราชเอาไว้ว่า “ถ้าถูกหวยจะแจกเงินชาวบ้าน” ปรากฏว่างวดวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา ตนถูกเลขท้าย 58 ได้เงินมาประมาณ 29,000 บาท จึงแก้บนด้วยการหว่านเงินและซื้อของแจกดังกล่าว และอยากให้แม่มีส่วนร่วมในการทำบุญ จึงมือหนักไปหน่อย
การออกมาสารภาพของนายปุ่ง ต่อหน้าแม่ พร้อมกับซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลชุด 2 ใบ จำนวน 3 ชุด มามอบให้แม่ โดยกระซิบบอกว่า “ได้เลขเด็ดจากท้าวสุวรรณนาคราช” ทำให้นางสมหวัง มีความรู้สึกต่างจากเดิมที่เงินหายไปอย่างสิ้นเชิง
นางสมหวัง กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า ที่ผ่านมาให้ผ่านไป เงินที่หายไปคิดว่าฝันร้าย แต่ยังมีโอกาสที่ลูกมอบของดีให้คือลอตเตอรี่จำนวน 3 ชุด อาจจะถูกรางวัลใหญ่รับ 12 ล้าน ทดแทนความสูญเสียที่ผ่านมาได้.