เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ บริเวณสะพานท่าเทียบเรือพัทยา (แหลมบาลีฮาย-เกาะล้าน) อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบมีประชาชนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติจำนวนมาก หลั่งไหลเดินทางมาท่องเที่ยวเกาะล้านพัทยา ส่งผลให้ธุรกิจการท่องเที่ยวในเมืองพัทยา ตลอดเดือน พ.ค. มีความครึกครื้น อาทิ ธุรกิจการโรงแรม ธุรกิจเรือนำเที่ยว ธุรกิจเรือโดยสาร ร้านค้าน ร้านอาหาร ฯลฯ สร้างเม็ดเงินจำนวนมหาศาล

ด้วยเหตุนี้ ทำให้มีผู้ร้องเรียนถึงภาคธุรกิจเรือรับส่งนักท่องเที่ยวจากท่าเรือแหลมบาลีฮาย-เกาะล้าน ซึ่งนักท่องเที่ยวทุกคนที่จะเดินทางไปเที่ยวยังเกาะล้าน จะต้องนั่งเรือโดยสารข้ามฟากมีให้เลือก 2 แบบ คือ ชนิดเรือช้า ซึ่งเป็นเรือขนาดใหญ่ ความจุประมาณ 150 คน ค่าโดยสารคนละ 30 บาท และชนิดเรือเร็ว ซึ่งเป็นเรือสปีดโบ๊ต ความจุ 10-12 คน ค่าโดยสารคนละ 150 บาท ในส่วนของเรือใหญ่ ได้รับการร้องเรียนว่า ปล่อยปละละเลยไม่มีการตรวจตราผู้โดยสารอย่างเข้มงวด ในเรื่องของการใส่เสื้อชูชีพขณะเรือแล่นในทะเล เมื่อตรวจสอบก็พบตามที่ได้รับแจ้งจริง มีผู้โดยสารที่ใส่เสื้อชูชีพอยู่เพียงไม่กี่รายเท่านั้น นอกจากนี้ จำนวนผู้โดยสารมีจำนวนมากอาจเกินอัตราที่กำหนด ส่วนเรือสปีดโบ๊ต ได้ปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัด

อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องช่วยตรวจสอบและตรวจตราดูแลความเรียบร้อย เพื่อให้นักท่องเที่ยวเกิดความปลอดภัยในชีวิต ไม่เช่นนั้น หากเกิดอุบัติเหตุในทะเล หรือเรือถูกคลื่นลมซัดอับปาง อาจต้องพบกับโศกนาฏกรรมดังเช่นเมื่อครั้งในอดีต ที่เรือโดยสารเกาะล้านล่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากช่วงเดือน พ.ย. 2556 จึงฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบ หรือจับกุมผู้ประกอบการที่ปล่อยปละละเลย ที่อาจนำมาซึ่งความสูญเสียแก่ชีวิตนักท่องเที่ยวก็เป็นได้.