วันที่ 1 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโลกออนไลน์ ได้เผยแพร่ภาพจากผู้ใช้ Tiktok ชื่อ NUM_22 ที่ได้โพสต์ภาพที่นอนของสัปเหร่อ ซึ่งเป็นบริเวณภายในเมรุของวัดป่าอดุลยาราม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น พร้อมข้อความระบุว่า “จากเด็กวัดกลายเป็นสัปเหร่อใช้เมรุเป็นบ้าน ที่นี่ขอนแก่น”  ซึ่งภายในนั้นมีทั้งเตาไฟฟ้าที่ใช้เผาศพ และมีทั้งสิ่งของที่ทางวัดใช้ประกอบพิธีวางอยู่บริเวณ โดยรอบจะเห็นว่ามีสิ่งของส่วนตัวและคล้ายกับเป็นพื้นที่พักผ่อน

ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดอดุลยาราม โดยพบกับนายพีรพงษ์ วันยา อายุ 45 ปี สัปเหร่อประจำวัด ซึ่งกำลังจัดเตรียมพื้นที่สำหรับการประกอบพิธีฌาปนกิจศพ

นายพีรพงษ์ กล่าวว่า ภาพที่ปรากฏผ่านโซเชียลนั้นเป็นเรื่องจริง ที่ตนเองอาศัยอยู่ภายในเมรุเผาศพจริง โดยส่วนตัวตนเองเป็นคนขอนแก่นมีบ้านและมีครอบครัว แต่ได้หย่าร้างกับภรรยาไปนานแล้ว โดยก่อนหน้านี้เมื่อปี 2562 ได้มางานศพเพื่อนที่วัดอดุลยารามแห่งนี้ และเป็นช่วงที่ตกงาน ครอบครัวก็แตกแยก จึงมีญาติที่เป็นสัปเหร่อที่วัดนี้ชวนมาทำงานด้วยเพราะเห็นว่าว่างงาน จึงตัดสินใจมาอยู่ที่วัด

“เหตุผลที่ต้องมานอนภายในเมรุนั้น เนื่องจากว่าบางครั้งมีญาตินำเอาศพมาที่วัดในช่วงกลางดึก ผมก็ต้องเข้ามาจัดการศพและนิมนต์พระมาทำพิธี และหากญาติที่นำศพมาไม่สะดวกเฝ้าศพผมก็ต้องนอนเฝ้าศพให้ ซึ่งถ้าจะขนของใช้ส่วนตัวและมานอนในศาลาพักศพ ก็เป็นเรื่องไม่เหมาะสม เพราะในช่วงกลางวัน ญาติก็จะเข้ามาเคารพศพ จึงต้องใช้บริเวณภายในเมรุข้างเตาเผาศพเป็นที่นอน ซึ่งนอนอยู่ที่นี่มาประมาณ 4 ปีแล้ว”

นายพีรพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า โดยส่วนตัวไม่ได้รู้สึกกลัวเพราะตอนกลางคืนก็ต้องดูความเรียบร้อยภายในวัด เนื่องจากวัดแห่งนี้ไม่ได้ปิดประตูในช่วงกลางคืน เพราะมีถนนตัดผ่าน ประชาชนก็ใช้ถนนเส้นนี้สัญจรอยู่ตลอดเวลา

ด้านนายบัว ปอนจตุจักร อายุ 70 ปี สัปเหร่ออีกคนกล่าวว่า นอนอยู่ภายในเมรุมากว่า 20 ปีแล้ว ตั้งแต่เป็นเมรุหลังเก่าที่ไม่ใช่เป็นเตาไฟฟ้า ก่อนหน้ามีสัปเหร่อทั้งหมด 8 คน ก็นอนอยู่ภายในเมรุทั้งหมด ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะจัดเป็นสัดส่วน ซึ่งสาเหตุที่ต้องนอนอยู่ที่นี่ตลอดก็เพราะสะดวกแก่การนอนเฝ้าศพ ให้ญาติที่นำมากลางดึกหรือแม้กระทั่ง หากมีการสวดศพหลายๆ วัน ก็ต้องนอนเฝ้าให้เพราะบางครั้งญาติของคนเสียชีวิตก็ไม่สะดวก ที่จะต้องมานอนเฝ้าอยู่ที่วัด

ที่สำคัญบางศพไม่มีเงินจัดงาน ทางพระครูอดุลสารนิเทศ เจ้าอาวาสวัดอดุลยาราม ก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย และจัดงานให้ ซึ่งตนเองก็ต้องอยู่ช่วยตลอดทั้งงาน ส่วนเรื่องลี้ลับในช่วงที่นอนในเมรุนั้นก็ต้องพบเจอบ้างเพราะตนเองทำเกี่ยวกับศพ มีทั้งตายโหง ตายธรรมชาติ ต้องผ่านมือมาแล้ว บางคืนก็พบว่ามีวิญญาณกลับมาขอบคุณตนเองที่เมรุ แต่ส่วนตัวไม่ได้เป็นคนกลัวผีแต่กลัวโจรจะเข้ามาที่วัดมากกว่า

ด้านพระครูอดุลสารนิเทศ เจ้าอาวาสวัดป่าอดุลยารม กล่าวว่า การที่สัปเหร่อนอนในเมรุก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเป็นการทำหน้าที่อีกทั้งวัดแห่งนี้ มีการเผาศพที่มีญาติ เผาศพไร้ญาติ รวมถึงศพที่ไม่มีเงินจัดงาน เมื่อเวลามีคนนำเอาศพมาไว้ที่วัด ก็ต้องมีคนคอยดูแล เพราะที่นี่ยังยึดถือตามประเพณีโบราณที่ต้องมีคนเฝ้าศพ คอยจุดธูปเทียนเมื่อธูปหมดลงกลางดึก อีกทั้งกลัวสิ่งของภายในวัดนั้นเสียหาย สัปเหร่อจึงตอนนอนเฝ้าอยู่ภายในเมรุเผาศพ ส่วนบางคนอาจมองว่าอาจจะเกะกะในช่วงของการทำพิธีหรือไม่นั้น บริเวณที่สัปเหร่อนอนจะอยู่ด้านหลังของเตาเผาศพ ซึ่งจะไม่มีคนใช้งานและเดินผ่าน จะมีแค่สัปเหร่อเท่านั้น ที่เข้าไปส่วนพื้นที่จัดงานจะเป็นศาลาพักศพ ที่ใช้ในการจัดพิธีดำเนินการต่างๆ จึงเป็นคนละส่วนกัน