เมื่อวันที่ 31 ก.ค. พระครูปลัดชนะศึก ญาณปริสุทฺโท ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพรหมสุรินทร์ ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้มีมิจฉาชีพเข้ามาวางอุบายหลอกเงินพระสงฆ์ภายในวัด ช่วงก่อนเข้าพรรษาคนร้ายทำทีมาขอหลวงพ่อบวช และทำทีเป็นขอขมาลาโทษจากหลวงพ่อ จากนั้นไปพูดคุยกับพระลูกวัดอ้างว่าหลวงพ่อเจ้าวาสให้มาเอาผ้าไตร แต่จริงๆหลวงพ่อไม่ได้พูด และระบุว่าจะไปบวชที่วัดบ้านเดื่อในเขตพื้นที่อำเภอปราสาท หลังจากนั้นทางหลวงพ่อเจ้าวาสก็ได้ช่วยปัจจัยในงานบวชไปด้วย หลังจากนั้นก็หายไปเลย

พระครูปลัดชนะศึก เปิดเผยด้วยว่า จนกระทั่งเมื่อสองวันที่แล้วคนร้ายก็กลับเข้ามาที่วัดอีก ซึ่งตัวอาตมาเองก็จำหน้าไม่ได้ เพราะครั้งแรกที่มายังดูเป็นคนผิวขาว แต่มาเมื่อสองวันที่แล้วสีผิวจะออกดำๆ และอ้างว่าพระที่เคยมาขอขมาจะบวชช่วงก่อนเข้าพรรษา มรณภาพแล้ว ที่จังหวัดชัยภูมิ อาตมาก็รู้สึกเอะใจคิดอยู่ว่าน่าจะเป็นคนๆเดียวกัน แต่ครั้งนี้มาพูดจาวางอุบายลักษณะจะให้ทางหลวงพ่อทำบุญงานศพอีก หลังจากนั้นคนร้ายก็ไปวางอุบายแบบเดียวกันที่วัดโคกบัวรายอีก และนำซองปัจจัยที่หลวงพ่อช่วยงานศพ ไปแอบอ้างว่าทางวัดพรหมสุรินทร์ก็ช่วยมาแล้ว และยังอ้างว่าเป็นคนขับรถให้ทางเจ้าวาสวัดพรหมสุรินทร์ด้วย

พระครูปลัดชนะศึก ระบุด้วยว่า ขณะเดียวกัน มิจฉาชีพรายนี้ ยังไปหลอกหลวงพ่อวัดโคกบัวราย ว่ารถที่ใช้งานอยู่วัดบ้านเดื่อเสีย มาขอปัจจัยทางเจ้าอาวาสวัดโคกบัวรายไปซ้อมรถ แต่ทางเจ้าวาสบอกว่า เรื่องรถเสียไม่ใช่ธุระของท่าน ต้องไปขอเงินทางเจ้าวาสวัดบ้านเดื่อซ่อมเอาเอง หลังจากนั้นก็เข้ามาที่วัดพรหมสุรินทร์อีก คราวนี้จะมาขอผ้าไตรแต่ทางหลวงพ่อบอกว่าไม่มีแล้วให้ได้เท่านี้ จากนั้นทางวัดโคกบัวราย ได้โทรศัพท์มาสอบถามรายละเอียดจึงทราบว่าถูกหลอกกันหมด และเมื่อไปสอบถามที่วัดบ้านเดื่ออีกครั้งจึงทราบว่าคนร้ายเคยบวชอยู่ที่นั่นจริง แต่เป็นลักษณะมิจฉาชีพ เคยหรือรื้อค้นกุฎิเจ้าอาวาสเพื่อขโมยของ

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพรหมสุรินทร์ จึงได้นำเรื่องราวทั้งหมดไปโพสต์ลงเฟซบุ๊กเพื่อให้ญาติโยมและพระตามวัดต่างๆ ได้ระมัดระวังมิจฉาชีพรายนี้ว่ามีบุคคลที่โดนหลอกเอาเงินไปเข้ามาโพสต์ตอบหลายราย เรียกว่าโดนหลอกกันแทบทุกวัดในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ รวมถึงวัดอื่นๆที่อยู่ต่างอำเภออีกด้วย พฤติกรรมคือจะขี่จยย.สกูปปี้สีดำ เข้ามายังวัดต่าง ๆ ก่อนจะพูดจาให้ดูน่าสงสาร พอพระในวัดหลวงเชื่อก็จะช่วยปัจจัย หรือเงินใส่ซองให้ไปทุกที ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ผ่านมา มิจฉาชีพรายนี้ได้เข้ามาในวัด ทางพระลูกวัดพยายามเข้าจับตัวแต่ก็สู้แรงไม่ไหวเพราะเป็นคนรูปร่างใหญ่ อาตมาและพระวัดอื่นๆ ได้รวมรวมหลักฐานไปแจ้งความไว้กับทางพนักงานสอบสวน สภ.เมือง สุรินทร์แล้ว.