เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยถึง กรณีพลเมืองเข้าไปช่วยสาวถูกแฟนหนุ่มทำร้าย แล้วถ่ายคลิปวิดีโอไว้แล้วโพสต์ผ่านโซเซียลมีเดียแล้วถูกแจ้งความผิด พ.ร.บ.ข้อมูลส่วนบุคคล หรือ พีดีพีเอ ว่า กรณีประชาชนเห็นเหตุการณ์ผิดปกติหรืออาจผิด ก.ม. แล้วถ่ายภาพหรือคลิป เป็นหลักฐาน สามารถทำได้ แต่ต้องไม่นำมาเผยแพร่หรือ โพสต์ด้วยตนเอง โดยควรส่งหลักฐานเหล่านั้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือให้ผู้ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย

“การที่เราเอาภาพที่ไม่เหมาะสม เอาคลิปที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมมาโพสต์ หรือมาแชร์เองผ่านช่องทางต่างๆ ก็อาจจะไปละเมิดสิทธิของคนอื่น อาจจะถูกฟ้องร้องดำเนินคดีได้ เพราะเขาเป็นผู้เสียหายจากสิ่งที่ท่านทำ แต่ถ้าเก็บคลิป แล้วนำไปให้เจ้าหน้าที่เพื่อเป็นหลักฐาน เพื่อประโยชน์ในทางรูปคดีอันนี้ทำได้อยู่แล้ว” ชัยวุฒิ กล่าว

นายชัยวุฒิ กล่าวต่อว่า ก.ม.พีดีพีเอ มุ่งที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล คือ ข้อมูลของพี่น้องประชาชนที่เคยให้กับร้านค้า หน่วยงานต่างๆ ซึ่งผู้ประกอบการและหน่วยงานเหล่านั้น ต้องเก็บข้อมูลของประชาชนให้ดี ไม่ให้รั่วไหล ถ้าจะนำไปใช้ประโยชน์ก็ต้องขอความยินยอมจากผู้ที่เป็นเจ้าของข้อมูล ซึ่งคือหลักการสำคัญของ ก.ม. แต่เรื่องการโพสต์ การแชร์ การให้ข่าวต่างๆ ไม่ได้เป็นเจตนารมณ์ของ ก.ม.นี้ เพียงแต่อาจจะไปผิดกฎหมายอื่นๆ เป็นการละเมิดสิทธิบุคคลมีการฟ้องแพ่ง เรียกร้องค่าเสียหายกัน อันนี้อีกเรื่องหนึ่ง อยากให้มองว่าเจตนารมณ์ของ พีดีพีเอ คุ้มครองข้อมูลของเราที่เก็บไว้ในร้านค้าหรือองค์กรต่างๆ ไม่ให้รั่วไหลนี่คือหัวใจสำคัญของ ก.ม.

“กระทรวงดีอีเอส ได้ประชุมร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ ความรู้และทำความเข้าใจที่ถูกต้อง ตลอดจนแนวปฏิบัติสำหรับตำรวจทั่วประเทศ พร้อมได้ย้ำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศช่วยชี้แจง ให้ประชาชนเข้าใจว่า ยังใช้ชีวิตเหมือนปกติ ถ่ายรูป โพสต์รูป ติดคนอื่นได้ ไม่ต้องกังวล ตราบใดที่ไม่ไปสร้างความเสียหาย หรือ เอารูปคนอื่นไปหาผลประโยชน์” นายชัยวุฒิ กล่าว