เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. น.ส.บี (นามสมมุติ) เปิดเผยว่า ตนได้เข้าแจ้งความเอาผิด “หลวงตาอ้วน” พระในสำนักสงฆ์บ้านกันทจาน ต.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ กับพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ หลังจากจู่ๆพระรูปนี้ได้เอาไม้ตะพดฟาดเข้าที่ศีรษะของ นายเอ (นามสมมุติ) ปู่ของตนอย่างแรงจนหัวแตก กะโหลกร้าว เลือดอาบเย็บ 7 เข็ม ทั้งยังต้องนอนพักอยู่ รพ.สุรินทร์ถึง 2 วันเต็ม ๆ ส่วนพระที่ก่อเหตุ กลับให้การกับตำรวจทำนองว่าแค่มองหน้าก็ไม่ชอบนายเอแล้ว จึงลงมือด้วยการใช้ไม้ตะพดฟาดเข้าที่หัวอย่างแรง โชคยังดีที่ญาติโยมห้ามทันก่อนพาตัวคนเจ็บส่ง รพ.

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายเอ และครอบครัวเดินทางไปทำบุญถวายสังฆทาน ยังสำนักสงฆ์บ้านกันทจาน ซึ่งเป็นที่จำวัดของ “หลวงตาอ้วน” พระรูปเดียวที่อยู่ในสำนักสงฆ์แห่งนี้ หลังจากทำบุญเสร็จก็มีการดูดวงกับพระต่อ ซึ่งช่วงที่รอคิวนั้น ปรากฏว่า “หลวงตาอ้วน” เหมือนของขึ้นจู่ ๆ ก็โวยวายไม่พอใจนายเอ ทั้งที่นายเอไม่ได้ไปต่อว่าด่าทอหรือเป็นอริมีเรื่องกับพระรูปนี้มาก่อนแต่อย่างใด ขณะที่ฝ่ายนายเอ แม้จะโดนพระต่อว่าเป็นภาษาเขมรลามถึงบุพการี อย่างเสีย ๆ หาย ๆ และยังไล่ขู่ให้กลับไปมิเช่นนั้นจะเอาปืนมายิง ทำให้ทุกคนรู้สึกแปลกใจกับพฤติกรรมของพระในเวลานั้น

โดยหนึ่งในญาติได้นำโทรศัพท์มือถือมาคอยถ่ายคลิปเอาไว้ จนกระทั่งฝ่ายพระเกิดคลั่งหนักระเบิดอารมณ์โมโห วิ่งไปไปฉวยเอาไม้ตะพดมาฟาดลงที่ศีรษะด้านซ้ายของนายเออย่างแรง กลายเป็นแผลแตกเลือดอาบใบหน้า ขณะที่ นายเอรู้สึกปวดแผลก่อนจะล้มลงหมดสติไป ญาติที่รอดูหมอต่างแตกฮือเข้าไปช่วยกันอย่างชุลมุน ภายหลังมีการนำตัวไปส่ง รพ.เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บจนปลอดภัย แล้วก็พากันไปแจ้งความเอาผิดหลวงตาหัวร้อนรายนี้ในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทันที และขอให้เจ้าหน้าที่คุมตัวพระรูปนี้ไปให้แพทย์ตรวจดูแลอย่างใกล้ชิดด้วยว่ามีอาการป่วยทางจิตหรือไม่ เพราะหากปล่อยไว้นานก็เป็นอันตรายต่อบุคคลทั่วไปได้.