มีใครเคยเป็นบ้าง..อยู่ดี ๆ ร่างกายก็มีรอยช้ำ บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสาเหตุเกิดขึ้นได้อย่างไร หรือเผลอไปเดินชนอะไรมา รู้ตัวอีกทีก็เจ็บและมีรอยช้ำเขียวเป็นจ้ำ ๆ เต็มไปหมด ซึ่งรอยช้ำตามร่างกายที่เกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุนี้ อาจเป็นสัญญาณบอกโรคร้ายแรง เช่น โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว หรือลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้


‘นายแพทย์ อิศรา อนงค์จรรยา’ อายุรแพทย์เฉพาะทางด้านโลหิตวิทยา โรงพยาบาลเวชธานี เผยว่า รอยช้ำเกิดขึ้นได้ทั้งอุบัติเหตุและโรค ดังนี้

1.อุบัติเหตุหรือกระแทกสิ่งของ ทำให้เกิดรอยฟกช้ำเพียง 1-2 จุด เป็นจ้ำเขียว-ม่วง กดแล้วเจ็บ
2.อายุมากขึ้น ผิวหนังบางลง ไขมันและคอลลาเจนที่ช่วยปกป้องเส้นเลือดก็ลดลงตามไปด้วยอายุที่มากขึ้น ทำให้เส้นเลือดเปราะบางและแตกง่าย จึงเกิดเป็นรอยคล้ำเมื่อเลือดออกที่ผิวหนัง


3.ขาดวิตามิน อย่าง วิตามิน C และ K เพราะกินผัก-ผลไม้น้อยเกินไป ทำให้เลือดออกในร่างกายง่าย จุดเลือดออกหรือจ้ำเลือดเกิดได้ทั่วร่างกาย หากปล่อยไว้นานอาจรุนแรง ถึงขั้นมีเลือดออกในอวัยวะสำคัญได้

4.ใช้ยาสเตียรอยด์ ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ทำให้เส้นเลือดฝอยเปราะบางและแตกง่าย ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยาจน มักเกิดรอยช้ำตามร่างกายได้บ่อยครั้ง


5.เกล็ดเลือดต่ำ เสี่ยงโรคไขกระดูกบกพร่อง ทำให้เลือดออกง่าย เช่น เลือดกำเดา เลือดออกในช่องปาก หากรักษาไม่ถูกวิธีเสี่ยงลุกลามเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว หรือลิวคีเมีย
6.ลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ มักจางหายไปเองใน 3-7 วัน หากนานกว่า 1 สัปดาห์ และหากมีอาการผิดปกติร่วมด้วย ควรสังเกตร่างกายตัวเองเสมอ และไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษา

ดังนั้น ควรสังเกตร่างกายอยู่เสมอ หากพบความผิดปกติเป็นรอยช้ำหรืออาการอื่น ๆ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างทันท่วงที…


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เว็บไซต์ vejthani.com ศูนย์อายุรกรรม โรงพยาบาลเวชธานี