สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ว่า การประชุมใหญ่ของนักการศาสนาชายหลายพันคนทั่วอัฟกานิสถานเป็นเวลา 3 วัน สิ้นสุดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยมีการออกแถลงการณ์ “แสดงความภักดี” ต่อรัฐบาลตาลีบัน แต่ไม่มีการให้ข้อเสนอแนะ เกี่ยวกับแนวทางบริหารประเทศและแก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจของอัฟกานิสถาน ตลอดจนไม่มีการกล่าวถึงการยกระดับสิทธิสตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาของเด็กหญิง


ขณะเดียวกัน แถลงการณ์ของที่ประชุมเรียกร้องให้รัฐบาลต่างประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ ให้การยอมรับรัฐบาลตาลีบัน ยุติมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ที่รวมถึงการอายัดทรัพย์สินของอัฟกานิสถานในต่างประเทศ แล้วส่งคืนกลับมาเพื่อการพัฒนาและฟื้นฟูอัฟกานิสถาน


ทั้งนี้ การประชุมที่เกิดขึ้นเรียกได้ว่า “เป็นการรวมตัวลับ” เนื่องจากกลุ่มตาลีบันไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนร่วมทำข่าว และไม่มีการเผยแพร่ภาพ แต่มีการกระจายเสียงผ่านสถานีวิทยุแห่งชาติเท่านั้น รวมถึงการแถลงของนายไฮบาตุลเลาะห์ อัคห์ฮุนด์ซาดา ผู้นำสูงสุดของกลุ่มตาลีบัน


อนึ่ง กลุ่มตาลีบันประกาศเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ผู้หญิงทุกช่วงวัยในอัฟกานิสถานต้องแต่งกายด้วยการปกปิดใบหน้าอย่างมิดชิด เมื่อออกนอกเคหสถาน หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม จะมีการสอบสวนสมาชิกในครอบครัวที่เป็นชาย และอาจนำไปสู่บทลงโทษที่เป็นการจำคุก หรือการต้องออกจากงาน หากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งชายที่ประกอบอาชีพดังกล่าวต้องไว้หนวดเครา และแต่งกายตามแนวทางที่กำหนด หากไม่ปฏิบัติตามอาจต้องเผชิญกับบทลงโทษถึงขั้นไล่ออกจากงานเช่นกัน


นอกจากนี้ อัฟกานิสถานเพิ่งผ่านพ้นเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรง 6.1 แมกนิจูด เมื่อปลายเดือนที่แล้ว คร่าชีวิตประชาชนมากกว่า 1,000 ราย ขณะที่การส่งมอบความช่วยเหลือจากสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) และนานาประเทศ ยังคงเป็นไปอย่างยากลำบาก.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES