สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ว่า จากเหตุการณ์ลอบสังหารซึ่งสร้างความตกตะลึงไปทั่วโลก เมื่อชายวัย 41 ปี ใช้อาวุธปืนประดิษฐ์เอง ยิงอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ระหว่างขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียง ช่วยผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งวุฒิสมาชิกของพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ที่เมืองนารา ทางตะวันตกของประเทศ
คณะแพทย์โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนาราออกแถลงการณ์ว่า อดีตผู้นำญี่ปุ่นถึงแก่อสัญกรรมอย่างสงบ เมื่อเวลา 17.03 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันศุกร์ (15.03 น. ตามเวลาในประเทศไทย) หรือประมาณ 5 ชั่วโมงครึ่งหลังเกิดเหตุ รวมอายุได้ 67 ปี โดยอาเบะมีบาดแผลฉกรรจ์บริเวณลำคอด้านขวา และไหปลาร้า ทั้งนี้ อดีตนายกรัฐมนตรี “ไม่มีสัญญาณชีพ” แล้ว เมื่อถึงโรงพยาบาล
ทั้งนี้ แพทย์และพยาบาลทุกคนเร่งให้ความช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ โดยใช้เลือดมากกว่า 100 ถุง อย่างไรก็ตาม ร่างกายของอาเบะอยู่ในภาวะเสียเลือดมาก ส่งผลให้อาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งระบบหัวใจหยุดทำงานในที่สุด อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ แพทย์ยังไม่พบกระสุนปืนในร่างกายของผู้เสียชีวิต
ขณะที่ นายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ ประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างหนัก และยืนยันว่า คนร้ายคือ นายเทตสึยะ ยามากามิ วัย 41 ปี อดีตเจ้าหน้าที่สังกัดกองกำลังทางเรือ หรือกองทัพเรือของกองกำลังป้องกันตนเอง (เอสดีเอฟ) ต้องรับโทษตามกฎหมาย จากการลงมือก่อเหตุอุกอาจ ที่เป็นการลอบสังหารนายกรัฐมนตรีหรืออดีตนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ยุคทศวรรษที่ 1930 หรือก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง.
เครดิตภาพ : REUTERS