เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา เมแกน เฮสส์ เจ้าของสถานฌาปนกิจ ‘Sunset Mesa’ และมีเบื้องหลังเป็นผู้จัดหาและค้าขายอวัยวะมนุษย์ผ่านบริษัท ‘Donor Services’ ยอมรับต่อศาลว่า มีความผิดจริงตามข้อกล่าวหาจากสำนักงานสืบสวนกลางแห่งสหรัฐ ขณะที่ เชอร์ลี คอช แม่ของ เฮสส์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยดูแลข้อตกลงทางธุรกิจของเธอปฏิเสธ ไม่ยอมรับผิดตามข้อกล่าวหา

เฮสส์ ยอมรับว่าเธอหลอกลวงลูกค้ามาแล้วหลายราย โดยตกลงว่าจะทำพิธีเผาศพให้ครอบครัวหลายสิบรายในเมืองมอนโทรส รัฐโคโลราโด แต่เบื้องหลังนั้น เธอได้นำอวัยวะภายใน แขน ขา กระดูกสันหลัง และศีรษะของศพหลายราย ไปขายให้ผู้ที่ต้องการใช้งานศพเพื่อการผ่าตัดหรือเพื่อการศึกษา

ฝ่ายอัยการรัฐระบุว่า อวัยวะต่าง ๆ ของศพจำนวน 811 ศพ เป็นอย่างน้อย โดนนำมาขายผ่านช่องทางที่ เฮสส์ ทำธุรกิจ ซึ่งเท่ากับว่ามีลูกค้าจำนวนมากที่ไม่เคยรับรู้หรือได้รับคำแนะนำว่า ควรทำอย่างไรกับอวัยวะจากศพของญาติมิตร

บริษัท Donor Services ของ เฮสส์ มีรายได้หลักจากการเก็บและขายศพและอวัยวะมนุษย์ที่เธออ้างว่าได้จากการบริจาค ซึ่งสามารถขายได้ตามกฎหมายสหรัฐ เช่น ศีรษะ ลำตัว แขน ขา หรือศพทั้งร่าง เฮสส์ ทำเงินได้หลายแสนดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงเวลากว่าทศวรรษ ที่เธอทำธุรกิจทั้งสองอย่างควบคู่กันไป

อัยการรัฐยังกล่าวหาว่า เฮสส์ มุ่งเป้าไปที่ลูกค้าที่เป็นครอบครัวยากจน นอกจากนี้ยังกล่าวหาว่า เธอและแม่ของเธอมักจะส่งมอบอัฐิของผู้ตายผิดราย และบางครั้ง ลูกค้าก็ได้รับอัฐิของญาติที่ผสมปนเปมากับอัฐิของผู้ตายรายอื่น ๆ หรือมีแม้กระทั่งผงปูนซีเมนต์ผสมมาด้วย

เฮสส์ ยังโดนกล่าวหาว่า เป็นผู้ส่งออกศีรษะมนุษย์ซึ่งปนเปื้อนเชื้อโรค เช่น ไวรัสตับอักเสบซี ผ่านช่องทางขนส่งสินค้าทั่วไปของสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ และยูไนเต็ด แอร์ไลน์ โดยไม่มีการติดป้ายแจ้งเตือนหรือระบุว่าเป็นวัตถุทางการแพทย์

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีกรณีที่ เฮสส์ นำฟันทองจากศพลูกค้าไปขายได้ราคาสูงถึง 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.44 ล้านบาท) เมื่อปี 2561

เฮสส์ มีกำหนดขึ้นศาลเพื่อรับการพิจารณาคดีเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ทั้งนี้ ฝ่ายอัยการร้องขอให้ศาลกลางตัดสินโทษจำคุกสำหรับ เฮสส์ โดยมีกำหนดรับโทษระหว่าง 12-15 ปี

เครดิตภาพ : Reuters