เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ติดตามความก้าวหน้าการขับเคลื่อนการดำเนินงานขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) ด้วยกลไก ศจพ. โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย (มท.1) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินงานขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (อขจพ.) พร้อมด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาชุมชนและส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายธนูสินธ์ ไชยสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ร่วมรายงานความก้าวหน้าการขับเคลื่อนการดำเนินงานขจัดความยากจน โดย ศจพ.ในระดับพื้นที่ ได้มีการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้วยการนำข้อมูลครัวเรือนยากจนในระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบพุ่งเป้า (Thai People Map and Analytics Platform – TPMAP) ไปร่วมดำเนินการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปตามเป้าหมายการพัฒนา อยู่รอด พอเพียง ยั่งยืน โดยภายหลังจากทีมพี่เลี้ยง ทีมปฏิบัติการฯ ตำบล ตลอดจน ศจพ.ในระดับต่างๆ ได้ลงพื้นที่สำรวจ วิเคราะห์สภาพปัญหา และกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหา ร่วมกับครัวเรือนเป้าหมาย ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว โดยในขณะนี้อยู่ในช่วงดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.-30 ก.ย. 2565 โดยส่วนราชการและหน่วยงานต่างๆ ได้บูรณาการให้ความช่วยเหลือภายใต้โครงการ/กิจกรรมของหน่วยงานตามที่ ศจพ.อำเภอ ชี้เป้าหมาย ซึ่งข้อมูลในระบบ TPMAP ณ วันที่ 3 ก.ค. 2565 พบว่า ศจพ.อำเภอ ได้ชี้เป้าให้ส่วนราชการ/หน่วยงานต่างๆ ที่มีภารกิจอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายและสอดคล้องตามสภาพปัญหา ได้ให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้ครัวเรือนเป้าหมายไปแล้วจำนวน 602,572 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 92.37 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การขับเคลื่อนการดำเนินงานขจัดความยากจนเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลด้วยการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้าในครัวเรือน โดยนำข้อมูลจาก TPMAP มาเป็นฐานในการคัดกรองโดยมีทีมพี่เลี้ยงลงไปเพื่อแก้ปัญหา 5 มิติ ทั้งมิติสุขภาพ มิติความเป็นอยู่ มิติการศึกษา มิติรายได้ และมิติการเข้าถึงบริการภาครัฐ ซึ่งมีหลายสภาพปัญหาที่ประชาชนอาจยังไม่ทราบว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร เราก็มีทีมต่างๆ เข้าไปช่วยแก้ไขปัญหารัฐบาล และต้องทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้แก้ทีเดียวจบ ซึ่งในตอนนี้เป็นการทำในขั้นแรก คือ อยู่รอดปลอดภัย ขั้นต่อไป คือ พอเพียง และยั่งยืน โดยการที่จะทำให้ยั่งยืนได้ก็ต้องพัฒนาตนเองไปพร้อมกันด้วย 

“รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวดในการแก้ไขปัญหาความยากจนจากยอดที่เราได้เดินสำรวจจริง โดยในขั้นแรกเราทำสำเร็จ แต่เราจะไม่ทำครั้งเดียวแล้วเลิกราไป เราจะต้องดูต่อไปโดยทีมพี่เลี้ยงติดตามดูต่อไปว่าที่ทำไปแล้วเป็นอย่างไร ทำแล้วประสบความสำเร็จหรือไม่ และส่งเสริมทำให้ยั่งยืนต่อไป โดยขอขอบคุณทุกกระทรวงที่ร่วมกันพุ่งเป้าลงไปช่วยแก้ไขทั้งหมด มีกระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานบูรณาการ และขอให้ทุกหน่วยงาน ทุกอำเภอ ทุกทีม มุ่งมั่นเดินทางขับเคลื่อนติดตามการแก้ไขปัญหาต่อไปให้บรรลุเป้าหมายของรัฐบาล ยังผลให้พี่น้องประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.อนุพงษ์ และนายนิพนธ์ ร่วมรับมอบเงิน 16,600,000 บาท ตามโครงการ “บ้านห่วงใย จากใจ GLO” จากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และส่งมอบให้กับ อธิบดี พช. เพื่อนำไปสร้างบ้านให้กับครัวเรือนเป้าหมายในระบบ TPMAP ที่ตกเกณฑ์ มิติความเป็นอยู่ จำนวน 83 หลัง ตามนโยบายขจัดความยากจนของรัฐบาลต่อไป.